Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Deep Dive Football
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 03:03 • กีฬา
แมนยูต้องกล้าเปลี่ยนแปลง ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป
เกมที่ จีเทค สเตเดี้ยม จบลงด้วยรอยยิ้มของแฟนเบรนท์ฟอร์ด เมื่อ คีธ แอนดรูวส์ กุนซือป้ายแดงตัดสินใจปรับแท็คติกกลับมาใช้แบ็คโฟร์ และพาทีมเปิดบ้านถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ความพ่ายแพ้นี้ไม่ได้เป็นเพียงการเสียสามคะแนน แต่คือการตอกย้ำถึงรากปัญหาที่ฝังลึกในโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ปัญหาเชิงแท็คติก: ระบบที่ไม่ตอบโจทย์
รูเบน อโมริม ยังคงยึดติดกับ ระบบหลังสาม ที่ใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ไม่เคยสร้างผลลัพธ์ที่ดีในพรีเมียร์ลีก สิ่งนี้สะท้อนถึงความดื้อดึงที่อยากสร้าง “ลายเซ็น” ของตัวเอง มากกว่าจะยอมรับข้อเท็จจริงว่าทีมไม่มีขุมกำลังเหมาะสม
เมื่อใช้คู่กลางเพียงสองคน ยูไนเต็ดเสียการครองเกมง่าย ขณะที่วิงแบ็กไม่สามารถสร้างมิติรุกได้จริง หลายครั้งแฟนบอลเห็นเพียงการส่งบอลคืนหลัง มากกว่าการเปิดไปหากองหน้าสูงใหญ่อย่าง เบนจามิน เชสโก้ ที่ควรได้รับลูกครอสบ่อยกว่านี้
การแก้เกมที่สับสน
อโมริมถอดวิงแบ็กออกแล้วส่งตัวรุกลงมา แต่แทนที่ตัวรุกจะทำเกมบุก กลับต้องถอยไปเล่นในบทบาทเกมรับแทนตำแหน่งที่ถูกถอดออก สิ่งนี้สะท้อนถึงความขาดความยืดหยุ่นเชิงแท็คติก และทำให้ผู้เล่นสับสนว่าต้องทำหน้าที่อะไร ผลคือ ยูไนเต็ดไม่สามารถสร้างแรงกดดันช่วงท้ายเกมได้เลย
ผลกระทบต่อจิตใจนักเตะ ปัญหาที่แฟนบอลกังวลไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน แต่คือการ “เอาชื่อมาทิ้ง” ของผู้เล่นที่มีศักยภาพ นักเตะหลายรายที่ย้ายเข้ามาพร้อมความหวัง กลับถูกระบบการเล่นกลืนหายไป ตอนนี้ เชสโก้ เองก็กำลังเสี่ยงจะเดินตามรอยเหยื่อรายก่อน ๆ
การใช้ผิดตำแหน่งทำให้นักเตะหมดความมั่นใจ ขาดความคม และท้ายที่สุดถูกมองว่าเป็น “ของเสีย” ทั้งที่จริงแล้วคุณภาพของพวกเขาอาจมากกว่านั้น
ภาพใหญ่: ปัญหาที่เกินกว่ากุนซือ แม้ปัญหาในสนามจะสะท้อนแท็คติกที่ไม่เวิร์ก แต่ในระดับโครงสร้าง สโมสรเองก็ต้องถูกตั้งคำถาม การไม่กล้าตัดสินใจครั้งใหญ่ อาจทำให้ทีมถอยหลังต่อไปเรื่อย ๆ
แฟนบอลเริ่มสงสัยว่า—บอร์ดบริหารจะยังทนรอให้กุนซือพิสูจน์ตัวเองต่อ ทั้งที่ผลงานย่ำแย่ หรือจะกล้าเปลี่ยนแปลงทิศทางก่อนที่ฤดูกาลจะหลุดลอยไปมากกว่านี้?
หลังเกม คีธ แอนดรูวส์ (เบรนท์ฟอร์ด)
"การปรับไปเล่นแบ็คโฟร์ ทำให้เรามีพื้นฐานสำหรับครองบอลได้ดีขึ้น เรามีความไหลลื่นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการเชื่อมเกมของ ดัมส์การ์ด และ ยาร์โมลยุค ส่วน เฮนเดอร์สัน ก็ทำหน้าที่คุมจังหวะให้ทีมได้อย่างยอดเยี่ยม เราต้องการกดดันพวกเขาด้วยจำนวนผู้เล่นที่เหนือกว่า เมื่อคู่แข่งถูกบีบให้หุบเข้ามา เราก็ใช้ช่องว่างด้านข้างเล่นงานพวกเขา เราทำมันด้วยความกล้าและเชื่อมั่น ไม่ว่าจะในจังหวะมีบอลหรือไม่มีบอล"
รูเบน อโมริม (แมนฯ ยูไนเต็ด)
"มันก็เหมือนกับทุกครั้ง เวลาทีมชนะ แผนการเล่นไม่เคยถูกตั้งคำถาม แต่พอทีมแพ้ แผนกลับกลายเป็นปัญหาทันที เราเสียสมาธิในจังหวะสำคัญ และพวกเขาใช้โอกาสได้ดีกว่า นั่นคือความแตกต่างในวันนี้"
สุดท้ายแล้ว… ฟุตบอลคือเกมของความยืดหยุ่น ไม่มีระบบใดที่ใช้ได้กับทุกทีม ทุกสถานการณ์ กุนซือที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพราะยึดติดกับแผน แต่เพราะกล้าปรับตัว ใช้คนให้ถูกตำแหน่ง และเปลี่ยนแปลงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
คำถามเดียวที่ยังค้างคาในใจแฟนผีทั่วโลกคือ : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะ “กล้าเปลี่ยน” หรือจะ “ทนต่อไป” กับเส้นทางที่ไม่มีแสงสว่างปลายอุโมงค์?
ฟุตบอล
ข่าวฟุตบอล
สโมสรฟุตบอล
1 บันทึก
4
1
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย