29 ก.ย. เวลา 12:01 • การศึกษา
กรุงเทพมหานคร

ประกันสุขภาพ vs ประกันโรคร้ายแรง ต่างกันยังไง?

หลายคนเวลาได้ยินคำว่า “ทำประกันสุขภาพ” ก็มักคิดว่า ครอบคลุมหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งค่ารักษาโรคทั่วไป ไปจนถึงโรคร้ายแรงใหญ่ ๆ …
แต่จริง ๆ แล้ว ประกันสุขภาพ กับ ประกันโรคร้ายแรง ทำงานไม่เหมือนกันเลยครับ
ประกันสุขภาพ = คุ้มครอง “ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง”
เช่น คุณเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล ต้องผ่าตัด หรือทำคีโม ประกันสุขภาพก็จะเข้ามาช่วย “จ่ายค่ารักษาพยาบาล” ให้ตามวงเงินที่เลือกไว้ ไม่ให้กระทบเงินเก็บที่เรามีอยู่
ยกตัวอย่างง่าย ๆ สมมติค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งรอบหนึ่งอยู่ที่ 3 ล้านบาท ถ้าเรามีประกันสุขภาพวงเงินเหมาจ่าย 5 ล้าน/ปี ก็สบายใจได้ว่าไม่ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม
ประกันโรคร้ายแรง = คุ้มครอง “ค่าความสามารถที่หายไป”
ถ้าวันหนึ่งหมอบอกว่าเราเป็นโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง หัวใจ ไตวาย หรืออัมพฤกษ์อัมพาต ประกันโรคร้ายแรงจะโอน “เงินก้อน” เข้าบัญชีเราเลยทันที โดยไม่สนใจว่าค่ารักษาจะเท่าไร
เงินก้อนนี้เราจะเอาไปทำอะไรก็ได้ – จ่ายค่ารักษาบางส่วน เก็บไว้ใช้ระหว่างหยุดทำงาน ผ่อนบ้าน ค่ากินอยู่ หรือแม้กระทั่งส่งลูกเรียนต่อ
เพราะโรคร้ายแรงส่วนใหญ่ไม่ได้กระทบแค่ค่ารักษา แต่กระทบ “ความสามารถในการทำงาน” และรายได้ที่หายไปในอนาคต
แล้วควรมีทั้งสองแบบไหม?
คำตอบคือ…ใช่ครับ เพราะมันทำหน้าที่ “คนละเกราะ” กัน
ประกันสุขภาพ = ปกป้องเงินเก็บในอดีต
ประกันโรคร้ายแรง = ปกป้องรายได้ในอนาคต
ถ้ามีแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เหมือนเรามีเกราะแค่ครึ่งเดียว ถึงเวลาเจ็บป่วยจริง ๆ ยังไงก็เสี่ยง
สรุปง่าย ๆ
สุขภาพ: จ่ายค่ารักษาตามจริงในโรงพยาบาล
โรคร้ายแรง: จ่ายเงินก้อนให้เราใช้ตามใจ
ดังนั้น ถ้าอยากมั่นใจว่าไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เงินเก็บก็ยังอยู่ รายได้ไม่สะดุด ครอบครัวไม่เดือดร้อน …ก็ควรมีให้ครบทั้งสองแบบครับ
คำถามชวนคิด:
แล้วคุณล่ะ…ตอนนี้มีเกราะแค่ครึ่งเดียวอยู่หรือเปล่า? 🛡️
#ออโต้ที่ปรึกษาประกันชีวิตAIA #ประกันสุขภาพ #ประกันโรคร้ายแรง #ค่ารักษาพยาบาล #มะเร็ง
โฆษณา