29 ก.ย. เวลา 14:27 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ONE BATTLE AFTER ANOTHER | 10/10

Paul Thomas Anderson เป็นนักสร้างหนังที่ไม่ได้ผลิตหนังในปริมาณมาก เมื่อเทียบกับระยะเวลาในโลกภาพยนตร์ เขาเป็นคนให้เรา Boogie Nights (1997), There Will Be Blood (2007) ฯลฯ
หนังของเขามีเอกลักษณ์และดูไม่ง่ายนัก เรื่องล่าสุดที่เพิ่งเข้าโรงคือ One Battle After Another
ผมตีตั๋วเข้าโรงโดยไม่รู้เลยว่ามันเป็นเรื่องอะไร ไม่อยากรู้ แค่ดูชื่อผู้กำกับคนเดียวก็พอ
นี่เป็นหนังบ้าเรื่องหนึ่ง ยาว 2 ชั่วโมง 40 นาที หนังมีโทนเรื่องแบบ No Country for Old Men (2007) ของพี่น้องโคเอน บวก Civil War (2024) ของ อเล็กซ์ การ์แลนด์
นี่เป็นหนังสะท้อนและเสียดสีสังคม ความยุติธรรม ความฝันที่จะเปลี่ยนโลกที่ดีกว่าเดิม การดิ้นรนเพื่อไต่บันไดสถานะทางสังคม ความแตกต่างของชนชั้นระหว่างคนผิวขาว (white supremacy) กับแรงงานระดับล่างที่ลักลอบเข้าเมืองเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ทั้งหมดมายำรวมกันเป็นความโกลาหล
หากจัดตระกูลหนัง มันก็เป็นส่วนผสมของทริลเลอร์ ดรามา การเมือง การต่อสู้ แต่ละฉากที่ปรากฏไม่สามารถคาดเดาฉากต่อไปได้
และสิ่งที่ไม่นึกว่าจะเห็นในหนังตระกูลนี้คืออารมณ์ขันมืดที่แทรกเข้ามาเป็นระยะ ยกตัวอย่าง เช่น นักปฏิวัติที่ลืมรหัสสำคัญขององค์กรลับ
หนังเดินเรื่องเร็ว ฉับไว จังหวะดี กระชับ ดนตรีดี ในส่วนที่เป็นทริลเลอร์ เช่น ฉากไล่ล่าบนถนนบนเนินสูงต่ำทำได้ดี ระทึกใจ
หนังมีจุดตำหนิบ้าง บางฉากไม่มีความจำเป็นต้องมีอยู่ในเรื่อง บางฉากยืด แต่โดยรวมเป็นหนังทรงพลังเรื่องหนึ่ง แฟนหนัง Paul Thomas Anderson คงพึงใจ
10/10
ฉายในโรงภาพยนตร์
วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
(มาตรการให้คะแนนของ วินทร์ เลียววาริณ : ความคิดสร้างสรรค์ + สาระ + ศิลปะการเล่าเรื่อง)
โฆษณา