Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
3 ต.ค. เวลา 12:30 • การ์ตูน
EP : 1,340 มหาเวทย์ผนึกมาร
ปกติแล้วผมมักจะลงทุนกับการซื้อมังงะเล่มแรก (1) มาอ่านก่อนเสมอ เวลาที่เจอเรื่องที่น่าสนใจ และหลังอ่านเล่มแรกจบ ผมค่อยตัดสินใจต่อว่าจะปล่อยผ่านเรื่องนี้หรือจะตามเก็บต่อกันแน่ ซึ่งที่ผ่านมาด้วยวิธีคิดอย่างนี้เรื่องที่ผมตามเก็บจนถึงเล่มจบ 8-90% ก็มักจะเป็นเรื่องที่ผ่านการอ่านเล่มแรกมาก่อนแล้วทั้งนั้นครับ
แต่สำหรับเรื่องนี้ผมกลับไม่ใช้เวย์ตามที่บอกนี้ อาจจะเพราะว่าเรื่องนี้มันดังมากๆ ตั้งแต่ตอนเริ่มรู้จัก และแม้จะไม่รู้จักทั้งผู้เขียนและเคยอ่านงานมาก่อน แต่พล็อตเรื่องคร่าวๆที่ว่าเป็นงานแนวโชเน็นที่หยิบเรื่องคาถาอาคมมาเป็นพล็อตในการต่อสู้แล้ว แทบจะไม่ปัญหาหรือความเสี่ยงที่ผมจะไม่สนุกกับงานแนวนี้เลย เพราะอย่างนั้นผมก็เลยเก็บและเก็บเรื่องนี้มาตลอดจนถึงวันที่เรื่องนี้ออกเล่มอวสานผมก็ยังไม่เคยแกะซักเล่มมาอ่านเลยนะครับ
และก็ต้องบอกว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ที่แกะอ่าน ผมก็รู้สึกต้องเลี่ยงและพยายามให้เรื่องนี้ไม่ผ่านตาไม่ว่าจะจากสื่อหรือช่องทางหรือรูปแบบไหนก็ตาม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเอาซะเลย เพราะจะบอกให้เข้าใจง่ายๆก็คือเรื่องนี้มันดังเอามากๆ และถูกนำไปสร้างอนิเมะ นิยาย และอื่นๆ การที่ผมจะพยายามไม่ไปสนใจเรื่องนี้ ในสถานการณ์ที่ห้อมล้อมไปด้วยเรื่องนี้ บอกเลยว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะผ่านมา และมีหลายจังหวะมากที่เกือบพลาดไปหยิบมาอ่าน
จนมาถึงวันนี้ครับ วันที่หยิบอ่านและอ่านต่อเนื่องจนจบ ก็เลยจะมาขอรีวิวเรื่องนี้ในมุมมองผมให้อ่านกัน ในจังหวะที่ทุกคนรู้จักเรื่องนี้กันหมดแล้ว(มั้ง) และนี่คือเป็นรีวิวมังงะเรื่องนี้ที่ช้าที่สุดจากทุกๆเพจรีวิวเลยมั้ง กับมังงะสุดดังเรื่องนึงที่หลายๆคนรู้จักกัน “มหาเวทย์หนึกมาร” ครับ
อย่างที่บอกไปว่าด้วยองค์ประกอบของเรื่องที่เรารับรู้ตั้งแต่ก่อนอ่านว่าเป็นงานสายต่อสู้จ๋าๆตามแบบฉบับที่สายโชเน็นต่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี ก่อนอ่านผมจึงไม่มีความกังวลอะไรมากในเรื่องนี้ แค่คิดว่ามันจะออกมาแบบ ชอบมาก/ชอบน้อย หรือสนุกมาก/สนุกทั่วไป จะสร้างความประทับใจให้กับผมในการอ่านมากแค่ไหน ก็เรานักอ่านทุกคนรู้กันดีว่างานสายหลักแบบนี้ การต่อสู้มันสูงและที่ผ่านมาก็มีหลายต่อหลายเรื่องอยู่ในความทรงจำที่ดีของเราอยู่ไม่น้อย
เพราะแบบนั้นผมจึงแปลกใจอย่างมากกับการได้อ่านเล่มแรกๆ แล้วรู้สึกว่า “เฮ้ย มันไม่สนุกอย่างที่คิดแฮ่ะ” อาจจะด้วยพล็อตเรื่องและองค์ประกอบที่แม้จะเต็มไปด้วยแบบอย่างที่คุ้นเคยในทางสายนี้เป็นอย่างดีก็ตาม แต่การนำเสนอความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครที่มีความลึกและเยอะ ให้ผู้อ่านอย่างผมเข้าใจได้ในช่วงเวลาตอนต้นด้วย “การแปล” ที่เต็มไปด้วยปัญหา ต้องบอกว่ามันสร้างความ “สับสน” ให้กับการอ่านในช่วงแรกอย่างมากครับ
ด้วยเราเพิ่งเข้ามาสู่โลกของพวกเขา ที่เรื่องราวก่อนหน้าที่จะถูกเปิดด้วย “ยูจิ” นั้นมันอยู่ระดับที่เยอะ แถมองค์ประกอบของความเป็น “คาถาและคำสาป” ยังมีรูปแบบของประเพณีและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอยู่สูง การแปลที่ไม่สามารถทำให้เราเข้าใจในสถานการณ์ตามที่เห็นได้ทุกจุด มันสร้างความรู้สึกว่าอ่านไม่สนุกให้กับผมเป็นอย่างมาก จนแอบคิดว่า นี่ถ้าไม่ได้มีถึงเล่มจบ ผมอาจจะหยุดอ่านและหยุดซื้อเล่มต่อ ตอนที่อ่านไปซัก เล่ม 3-5 ก็ได้นะครับ
แต่ข่าวดีคือเมื่อเรื่องเดินไปถึงซักเล่ม 7-8 ผมรู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มเข้าทางขึ้น ไม่ได้หมายถึงงานแปลเข้าทางขึ้นจนดีเยี่ยมนะครับ เรื่องแปลอาจจะมีการปรับปรุงมากขึ้นเพราะจำได้ว่าเรื่องนี้แฟนๆที่อ่านกันเล่มต่อเล่ม คอมเม้นท์ให้ทาง สยาม รู้กันแบบดุเดือดมาก คิดว่าน่าจะมีผลบ้างแหล่ะ แต่ก็ปรับได้ดีขึ้นระดับหนึ่งครับ จุดสำคัญที่ทำให้ผมอ่านสนุกจริงๆคือรูปแบบของการเล่าเรื่องและนำเสนอมันเข้าที่เข้าทางและอยู่ในแบบที่ลงตัวและใช่สำหรับเรื่องนี้มากขึ้นครับ
ไม่รู้ใครจะคิดเหมือนผมหรือเปล่า ตั้งแต่ต้นเรื่องของเรื่องนี้แล้ว ที่สร้างความรู้สึกว่ามีการหยิบเอาเรื่องราวหรือตัวละครของมังงะดังๆมาใช้ เอาเป็นว่าผมรู้สึกถึงทั้งเรื่อง นารูโตะ , Hunter X Hunter ,BLEACH ผสมอยู่ในเรื่องนี้อย่างมาก ไม่รู้ว่า อ. เขามีความสัมพันธ์อะไรกับ อ. ที่เขียนเรื่องต่างๆที่ว่ามานี้หรือเปล่า เพราะผมไม่ได้เช็คมา แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ โดยเฉพาะตัวละครและคาเรทเตอร์หลายๆตัวละคร นี้ชัดเจนมาก
แม้ผมจะรู้สึกอย่างนั้น มันก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกเชิงลบให้กับผู้อ่านอย่างผมนะ เพราะโดยเนื้อเรื่องที่มีการหยิบการต่อสู้โดยผ่านคาถาและคำสาปต่างๆ มันมีเอกลักษณ์และสร้างความรับรู้และจดจำ รวมถึงความน่าติดตามในแบบฉบับของเรื่องราวของเขาได้เป็นอย่างดี แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับการอ่านงานแนวคาถาหรือคำสาปก็ตาม
มหาเวทย์ผนึกมาร เป็นเรื่องที่หยิบหลักพื้นฐานของการนำเสนอมาใช้อย่างครบและมีประสิทธิภาพในการนำเสนอ อาทิเช่น เรื่องราว การร่วมร่างของตัวเอกเสมือนคู่หูขั้วตรงข้าม การต่อสู้ด้วยพลังที่มีความหลากหลาย(เกินคำว่าเวทย์มนต์ไปเยอะ) การนำเสนอคาเรทเตอร์ตัวละครแบบที่ผู้คนชื่นชอบตามสมัยนิยมอย่างตัวละครที่มีความฉูดฉาดเป็นต้น
ซึ่งมันก็ผสมออกมาดีนะ แม้จะเริ่มต้นด้วยความรู้สึกว่าไม่สนุกอย่างที่คิด แต่พอเนื้อหาเข้าที่เรื่องมันก็วิ่งไปในแบบที่ควรเป็นในทางสายนี้ การต่อสู้อันดุเดือด ปะทะกันด้วยพลังพิเศษ ที่เรื่องนี้เรียกว่า “คาถา คำสาปและเวทย์”
เฉกเช่น เซย่า ต้องมี คอสโม่ นารูโต๊ะ ต้องมี คาถานินจา ดราก้อนบอลต้องมีการปล่อยพลัง มหาเวทย์ผนึกมาร เรื่องนี้ก็มี “คาถา คำสาปและเวทย์” มาใช้เป็นหัวใจหลักของการต่อสู้ แน่นอน นี่ไม่ใช่เรื่องแรกที่หยิบ เวทย์ คาถาหรือคำสาปมาเล่น เคยมีหลายเรื่องหยิบมาใช้งานเยอะแล้ว แต่เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่สร้างความจดจำได้ดีที่สุดในการหยิบคำเหล่านี้มาใช้ แม้สิ่งที่เราเห็นมันจะเป็นเหมือนพลังจากมังงะเรื่องดังอื่นๆ ก็ตาม
ตามความรู้สึกของผมเมื่อพูดถึง เวทย์ คาถา คำสาป สิ่งที่คิดก็คงไม่หนีการร่ายเวทย์หรือพิธีทำคำสาป การท่องคาถาโจมตีกันซะมากกว่า แต่สิ่งที่เห็นในเรื่องนี้กลับเป็นพลังในรูปแบบที่เราคุ้นเคย ซึ่งจุดนี้ผมไม่ติดปัญหาอะไรนะ เพราะในแง่นึงการต่อสู้ที่นำเสนอมา พลังที่จัดมาให้เราเห็น มันก็ยังสามารถสร้างโมเมนท์การต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างที่เราอยากเห็นได้อยู่ดี รูปแบบของการนำเสนอ “พลัง” ของเหล่าตัวเอกจะออกมาอย่างไร ตรงกับที่คิดไว้ไหม ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สำคัญคือจะสร้างความสนุกให้กับเรานักอ่านได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง
แม้ในแง่มุมหลักผมจะไม่มีปัญหาอะไรในการนำเสนอพลังของเวทย์ คาถาและคำสาปในแบบที่เรื่องนี้ตีความและนำเสนอ แต่อีกใจนึงก็แอบรู้สึกว่ามันก็คือการนำเสนอซ้ำ หรือหยิบสิ่งที่เราคุ้นเคยมานำเสนออีกครั้งเท่านั้นเอง ถ้าพูดถึงในแง่นี้จะบอกว่าทั้งเรื่องนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกแบบนี้ทั้งหมดผมก็คิดว่าไม่ผิดอะไรนะ
ทั้งรูปแบบของตัวละคร คาเรทเตอร์ของบุคคล พลังที่ใช้ในการต่อสู้ ใจความของความสัมพันธ์ หลักๆในเรื่องทำให้ผมรู้สึกถึงการหยิบมานำเสนออีกครั้งอย่างนั้นเต็มไปหมด ซึ่งในความรู้สึกนี้ผมคิดว่า อ. เขาตั้งใจอย่างแน่นอน เผลอๆ อยากให้เราจดจำได้ว่า อ. กำลังนำเสนอตัวละครจากมังงะเรื่องไหนกันแน่ ซึ่งถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ผมก็ชอบไอเดียการนำเสนอชวนให้จดจำและคิดถึงมังงะเรื่องอื่นแบบนี้นะครับ
แม้จะเป็นมังงะสายโชเน็นอย่างเต็มตัว แต่ใช่ว่าจะอ่านและเข้าใจเรื่องนี้ได้ง่ายนะ ในฐานะที่เป็นนักอ่านมายาวนาน ที่มีสไตล์การอ่านงานแบบไม่เจาะลึกในเนื้อหาในทุกครั้ง สิ่งที่เจอในเรื่องนี้คือ ความซับซ้อนของพลังที่เรื่องนี้หยิบมาใช้นั้น อยู่ในระดับที่เยอะ และพัวพันกันไม่น้อย เอาเป็นว่าสำหรับตัวผมแล้ว สิ่งนี้สร้างปัญหาในการทำความเข้าใจของการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างมีนัยยะเลยนะครับ
ความหมายของผมคือ อ. ผูกชื่อพลัง วิชา และการต่อสู้ของตัวละครในเรื่องนี้ด้วยนิยามและวิธีการที่มีความซับซ้อนอยู่มาก หลายๆจังหวะผมแทบจะข้ามรายละเอียดของการต่อสู้ไปเลย เพราะมันเป็นเงื่อนไขที่ผมต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจอย่างมาก ว่าสิ่งที่กำลังเล่า พลังที่กำลังปะทะ มันคืออะไร และเงื่อนไขแบบไหน ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าจุดนี้คือจุดปัญหาของเรื่องนี้สำหรับนักอ่านอย่างผมนะ
ผมเข้าใจว่าหลายๆคนคงไม่มีปัญหาอย่างที่ผมกำลังพูด แต่ผมขอพูดในฐานะนักอ่านอีกกลุ่มนึงที่เจอปัญหาจากเรื่องนี้แล้วกันนะครับ ซึ่งผมเข้าใจได้ว่า พลังทุกวันนี้ มันต้องมีเงื่อนไข ที่มาของพลังและความซับซ้อนของการจะใช้ รวมถึงความเข้ากันได้หรือไม่ได้ที่เกี่ยวข้องกับพลังและผู้ใช้
ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ เงื่อนไขสายพลังความเข้ากันได้ของผู้ใช้จากเรื่อง Hunter X Hunter มังงะเรื่องดังที่เต็มไปด้วยรายละเอียด แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ผมอ่านเรื่อง HXH แล้วเข้าใจสิ่งที่ อ. นำเสนอ เพราะแม้จะมีความซับซ้อน แต่เข้าใจง่าย ด้วยบริบทหรือวิธีการที่ อ. เลือกใช้ ในขณะเดียวกัน ผมเห็นความซับซ้อนของเรื่องนี้แบบเดียวหรือในระดับใกล้เคียงกับ HXH เพียงแต่ว่า เรื่องนี้ยังหาจุดลงตัวได้ไม่ดีเท่า HXH ครับ
ผมเข้าใจได้ว่ามันผ่านยุคการปล่อยพลังให้จดจำได้ง่ายๆอย่าง ดราก้อนบอล หรือท่าไม้ตายไม่กี่ท่าแบบเซ็นเซย่าไปไกลแล้ว แม้เรื่อง มหาเวทย์ผนึกมาร จะมีความเจ๋งและน่าสนใจในแต่ละจุดมากมายพอที่จะทำให้ผมอยากอ่านตอนต่อไป แต่ทุกๆครั้งที่การต่อสู้ผ่านไป
ผมก็ยังคงมีคำถามในสิ่งต่างๆ ของการต่อสู้ที่ผ่านไปนั้นอยู่กับหัวมากมายไม่น้อยเลย แต่เพราะผมเป็นสายอ่านแบบข้ามจุดที่ยังไม่เข้าใจไปก็ได้ และเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นงานสายโชเน็น ต่อสู้เป็นหลัก ม้นก็ทำให้การอ่านภาพรวม ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ และอยู่ในเกณฑ์ที่สนุกสำหรับผมได้ครับ
นั่นเป้นสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังหาจุดลงตัวไม่ได้นะ สำหรับเงื่อนไขและความซับซ้อนที่ใส่มา ถ้า อ. หาวิธีนำเสนอที่ลงตัวกว่านี้ ผมว่ามันจะเพิ่มระดับของความสนุกไปได้อีกไกลเลย นี่ยังไม่รวมวิธีการเล่าเรื่องที่ อ. พยายามกลับไปกลับมาระหว่างการต่อสู้ เพื่อเล่าให้เห็นรายละเอียดบางอย่างของศึกที่กำลังจะเริ่มขึ้นหรือดำเนินอยู่ ที่หลายครั้งมันก็เป็นจังหวะที่ดี แต่บางครั้งมันสร้างความสับสน อันนี้แล้วแต่ประสบการณ์การอ่านที่แตกต่างของแต่ละคนเป็นหลักครับ
พูดมาถึงตรงนี้ ผมก็ยังรู้สึกว่า เรื่องนี้คือมังงะสายโชเน็น ต่อสู้ ด้วยพลังพิเศษ ที่สนุกอีกเรื่องนึงในยุคนี้นะ แม้ในรายละเอียด จะมีหลายจุดที่ผมมองว่ายังไม่ลงตัว และยังต้องหาวิธีการนำเสนอให้มันเข้ากับการเล่าของ อ. เอง ให้ได้ดีกว่านี้ เพราะอย่างไรก็ตามผมก็ยังสนุกกับสิ่งที่ อ. นำเสนอออกมาในแต่ละตอนได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึงลายเส้นของ อ. ด้วยเช่นกัน
ที่ส่วนนึงจะมีภาพงานของ อ. ท่านอื่นอยู่บ้าง แต่ภาพรวมผมชื่นชอบงานวาด การนำเสนอ มุมมองและรายละเอียดจากผลงานเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย แม้จะพูดไม่ได้ว่าลายเส้นเทพและสวยงาม แต่ก็สามารถบอกได้ว่า งานวาดเรื่องนี้คืออีกสิ่งดีๆ ที่อยู่ในมาตรฐานและชวนให้เราอ่านเรื่องราวการต่อสู้ที่หลากหลายและดุเดือดของเรื่องนี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบครับ
“มหาเวทย์ผนึกมาร” เรื่องและภาพโดย อ. Gege Akutami ในไทย เจ้าของ LC คือพี่ หยาม ของเรานั่นเอง โดย ออกมาครบจบแล้ว ด้วยจำนวน 30 เล่มของภาคหลัก และอีก 1 เล่มจากภาคของยูตะ อีกตัวละครเด่นของเรื่องนี้ รวมเป็น 31 เล่ม (แต่นับจำนวนเล่มที่ 0-30 นะครับ) และหากใครสนใจก็หาอ่านได้เลยในตอนนี้ ของพี่หยามหาอ่านได้ง่ายครับ
เป็นอีกเรื่องนึงที่สายโชเน็นไม่ควรพลาดนะ เต็มไปด้วยรายละเอียดที่เข้าใจง่ายและยากปนกันไป จริงๆ จะบอกว่ามันสนุกตลอดทั้งเรื่องสำหรับผมก็คงไม่ใช่แต่มันยังคงคุณภาพของงานแนวนี้ได้ดีตลอดทั้งเรื่องนะ เพียงแต่ แม้เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยองค์ประกอบของความสำเร็จจากเรื่องอื่น วิธีการนำเสนอที่เข้าใจง่ายเพราะเห็นมาแล้วและตัวละครที่ชวนคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ตลอดทั้งเรื่องก็ตาม
แต่วิธีการนำเสนอและการผสมให้ออกมาในเราจดจำว่านี่คือเรื่อง “มหาเวทย์ผนึกมาร” นั้นก็ทำได้ดีแหล่ะ สรุปคือสนุก แม้จะงงบ้างในหลายๆเรื่องก็ตาม และที่สำคัญคือ การแปลจาก สนพ สำคัญมากนะจ๊ะ คิดว่าร้อยทั้งร้อยที่อ่านต้องคิดแหละว่าที่ตรูงง ไม่เข้าใจเนื้อหานี่เพราะเนื้อเรื่องมันซับซ้อนหรืองานแปลมีปัญหากันแน่อย่างแน่นอน 5555 สรุปอ่านเองแล้วมาบอกด้วยแล้วกันว่าชอบหรือไม่ชอบนะครับ
ภาพ 8.9/10
เรื่อง 8/10
ความประทับใจ 8.5/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #31เล่มจบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวปล่อยพลัง #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #8คะแนน #มหาเวทย์ผนึกมาร #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย