30 ก.ย. เวลา 14:39 • ความคิดเห็น

…บทสนทนาบนโต๊ะกินข้าว

นั่งคุยกับเพื่อนที่เข้าใจกันได้ แม้อายุน้องจะน้อยกว่ามาก แต่ก็มีมุมมอง แง่คิดต่างๆน่าสนใจและเราเองก็ได้ประโยชน์จากการรับฟัง และพูดคุยกันเสมอ เราเป็นคนเดียวในที่นี้ ที่น้องมักจะพูดคุยเรื่องบางเรื่องด้วย อาจเพราะเป็นคนที่นั่งฟัง แล้วน้องบอกว่า … พี่เป็นคนตลกดีนะ บุคลิกพี่ตลก … คงขำที่หลายครั้งเหมือนเขาต้องคอยดูแล …ความเงอะงะของป้า
น้องเข้ามาทานข้าวพร้อมความหงุดหงิด เขาห่วงคนไข้ที่ต้องเข้าผ่าตัดและอีกหลายๆเรื่อง ที่ต้องรับผิดชอบดูแลคนไข้แต่ละคน เหนื่อยจากงาน ภาระที่ต้องรับผิดชอบชีวิต ….บ่นอยากลาออกทุกวัน …ก็ดี แปลว่าจะยังไม่ลา งั้นเราอาจเหงา
วันนี้บทสนทนาที่เราเห็นตรงกันคือ
สุดท้ายเราทุกคนก็จบลงด้วยความตาย เรามีชีวิตอยู่ในแต่ละวันแค่ใช้ชีวิตให้ผ่านไปอย่างไรให้ใจไม่ทุกข์ มีความสุขและปล่อยวางได้ในแต่ละวัน ไปจนถึงวันที่ต้องไป ต้องกิน ต้องใช้ ต้องหา สุดท้ายตายไปก็เป็นของคนอื่น แต่ถ้าไม่มีไม่หาตัวเองก็ลำบากในปัจจุบัน อยู่เป็นวันๆอย่างไม่ทุกข์เพื่อเอาชีวิตไปให้ถึงวันที่ต้องตาย….แค่นั้น
สงสัยหนูน่าจะหิวพี่ แล้วหนูก็ห่วงคนไข้จริงๆนะ ออกจากห้องผ่าตัดมาแกจะเป็นยังไง พี่เข้าใจใช่มั้ย มันไม่ใช่เพราะเงิน เราอยากได้มากหรือน้อย แต่มันเป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ หนูวางไม่ลง ….
ตอบในใจ …. พี่เข้าใจน้อง ตั้งแต่ RSV ระบาด ราวน์ไอซียูมาเดือนครึ่ง หอบสารพัดโรค อาทิตย์นี้รีเฟอร์สามวันติด …. กลับหอไม่เคยก่อนพระอาทิตย์ตกดิน …..แต่ละวันค่าจ้างหลักร้อยหมอห่วงคนไข้หลักล้าน พ่อแม่ฝากแก้วตาดวงใจไว้ในมือเรา ….
แล้วน้องเป็นหมอโรคหัวใจ ราวน์ไอซียูทุกวันมาตลอดชีวิตการทำงาน …
โฆษณา