1 ต.ค. เวลา 10:08 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

To upload a brain, scientists might have to destroy it first. Here's why

เพื่อจะอัปโหลดสมอง นักวิทยาศาสตร์อาจต้องทำลายสมองก่อน นี่คือเหตุผล
จากหนอนตัวเล็กๆ ไปจนถึงการโคลนตัวเราเอง ยินดีต้อนรับสู่วิทยาศาสตร์สุดแปลกของการอัปโหลดข้อมูลของสมอง
นักวิทยาศาสตร์สามารถอัปโหลดสมองสัตว์เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ คำตอบขึ้นอยู่กับความหมายของคำว่า 'อัปโหลด' และ 'สมอง' หากคุณพอเข้าใจนิยามหรือความหมายของทั้งสองคำนี้ ก็ถือว่า ทำได้
ซีโนแร็บไดทิส เอ๊ละกันซ์ Caenorhabditis elegans ชื่อย่อว่าหนอน C. elegans เป็นชื่อของหนอนนีมาโทดตัวโปร่งใสตัวเล็กๆ อาศัยอยู่ในดินและพืชที่เน่าเปื่อย หนอนชนิดนี้เป็นสิ่งมีชีวิตยูคาริโอตหลายเซลล์ และกินแบคทีเรียหลายชนิดเป็นอาหาร ดังนั้นในทางเทคนิคแล้ว นักวิทยาศาสตร์ถือว่าหนอนซีโนแร็บไดทิส เป็นสัตว์
หนอนตัวเล็กๆ ชนิดนี้ มีขนาดความยาวไม่เกิน 1 มิลลิเมตร และเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่รู้จักกันดีที่สุดในโลกของการวิจัยทดลองทางนักวิทยาศาสตร์
นักวิทยาศาสตร์ ได้จัดลำดับพันธุกรรมจีโนมของหนอนซีโนแร็บไดทิส และทำแผนที่ตำแหน่งทุกตำแหน่ง ในการเติบโตและพัฒนาการของเซลล์ทุกเซลล์ จากเซลล์ทั้งหมดของหนอนที่มีอยู่ประมาณ 2,000 เซลล์ ซึ่งจะรวมถึงเซลล์ประสาท 300 เซลล์ พบว่าหนอนชนิดนี้ จะมีความแตกต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อยในรายละเอียด และนักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทำแผนที่ตำแหน่งในส่วนของความแตกต่างในรายละเอียดของมันไว้แล้วทุกตำแหน่งเช่นกัน
ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์ จึงสามารถจะจำลองสมองทั้งหมดของหนอนชนิดนี้ในคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งในคอมพิวเตอร์มันไม่เพียงแต่แสดงพฤติกรรมสะท้อนเหมือนกับว่าเป็นตัวหนอนของจริงเท่านั้น แต่นักวิทยาศาสตร์ยังสามารถฝึกให้มันทำท่าทางใหม่ๆ ในคอมพิวเตอร์ได้อีกสองสามท่า เช่น การทรงตัวหรือการบาลานซ์ตัวเองบนเสา และเราก็สามารถให้หนอนทำเช่นนั้นได้จริงๆ ด้วย
แต่ถ้าเราพิถีพิถันกับคำจำกัดความของเรามากขึ้นอีกนิด วิธีนี้ก็คงไม่เพียงพอ
การจำลองสมองของหนอนซีโนแร็บไดทิส ไม่ได้ถูกอัปโหลดมาจากสมองจริงของหนอนแต่อย่างใด แต่ว่าได้คัดลอกข้อมูลสมองมาจากข้อมูลที่รวบรวมจากการวิจัยทดลองกับหนอนชนิดนี้หลายพันตัวเป็นเวลาหลายปี จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีวิธี ในการบันทึกโดยการนำความคิด หรือการนำความทรงจำของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิด และอัปโหลดใส่เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ ได้อย่างถูกต้อง
ยังมีผู้คนจำนวนมากที่เชื่อว่า การอัปโหลดข้อมูลสมองคือ หนทางสุดท้าย ในการเอาชนะความตายในอนาคตของมนุษยชาติ ซึ่ง "เป็นผล" มาจากความก้าวหน้าในการวิจัยด้านประสาทวิทยาและด้านปัญญาประดิษฐ์
แต่มีปัญหาสำคัญบางอย่างที่ต้องแก้ไข ก่อนที่การอัปโหลดข้อมูลของสมองเข้าไปในคอมพิวเตอร์จะเกิดขึ้น
หากจิตใจของเรา ประกอบขึ้นจากเซลล์และสารเคมีในกะโหลกศีรษะและระบบประสาททั้งหมด เราจะต้องเก็บสถานะข้อมูลของสมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน
จากนั้น เราจะต้องสร้างแบบจำลองซอฟต์แวร์ ที่สามารถจะจำลองพฤติกรรมของสมองได้อย่างแม่นยำในระดับโมเลกุล หรืออาจจะต้องแม่นยำในระดับอะตอมเลยทีเดียว
กว่าทศวรรษที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า สามารถที่จะระบุเซลล์ประสาทและการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทต่างๆ ในสมองหนูที่เตรียมมาอย่างพิถีพิถันได้ หลังจากการย้อมสีอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว สมองของหนูก็ถูกหั่นเป็นชั้นๆ โดยใช้ความหนาของการตัดฝานสมองที่ 70 นาโนเมตร และจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะสร้างแบบจำลอง 3 มิติของสมองหนูขึ้นมาใหม่
นี่คือตัวอย่างของการสแกนแบบทำลาย ซึ่งเป็นวิธีการที่หลายคนเสนอว่า จำเป็นต่อการบันทึกข้อมูลสมองอย่างละเอียดเพียงพอ และสมองหนูก็ตาย หลังจากการสแกน
บางคนโต้แย้งว่า เมื่อเครื่องสแกนทางการแพทย์มีความละเอียดสูงขึ้นเรื่อยๆ สักวันหนึ่ง เราอาจสามารถสแกนสถานะของเซลล์ทุกเซลล์ได้โดยไม่ทำลายเซลล์สมองเหล่านั้น แต่การสแกนดังกล่าว จะต้องเกิดขึ้นและเสร็จการสแกนในแทบจะทันที มิฉะนั้น สมองเรา อาจกำลังคิดเรื่องอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาอีก ก่อนที่การสแกนจะเสร็จสมบูรณ์
เป็นไปได้ไหม ที่จะสามารถสแกนสมองที่เพิ่งเสียชีวิต นักวิทยาศาสตร์เสนอว่า เราอาจจำเป็นต้องสแกนสมองในขณะที่สมองกำลังทำงานอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่า พฤติกรรมของทุกเซลล์ของสมองที่เราสแกนและจำลองในคอมพิวเตอร์นั้น มีความถูกต้อง
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนั้นน่าทึ่งมาก แม้แต่ผู้คาดการณ์อนาคตที่มองโลกในแง่ดีที่สุดแล้ว ก็ยังคาดการณ์ว่า จะต้องรอประมาณหนึ่งร้อยปีกว่า ที่เราจะจำลองสมองที่จำเป็นในระดับอะตอมได้
แต่ก็มีคำถามสุดท้ายที่ยากคือ หากในอีก 500 ปีข้างหน้า เราสามารถอัปโหลดสมองของคุณโดยไม่ทำลาย ทันทีที่มันเกิดขึ้นได้เช่นนี้ เราก็จะมีตัวตนอยู่สองตัวตนในทันที
นั่นคือตัวตนคุณในโลกเสมือนจริงของซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ กับตัวคุณดั้งเดิมที่ยังคงคิดด้วยสมองของคุณ ซึ่งคุณอาจจะปวดหัวเล็กน้อยหลังจากการสแกนสมอง
แต่ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ คุณโกงความตายได้จริงหรือ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ คุณไม่สามารถโกงความตายได้ แต่คุณได้ทำให้ใครก็ตามสามารถนำตัวตนคุณในโลกเสมือนจริงของซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ มาทำสำเนาคุณได้ และพวกเขาสามารถจะนำคุณไปใช้งานได้ ตามที่พวกเขาต้องการ ฟังดูน่ากลัวมาก
ผู้เขียน : Peter Bentley (computer scientist)
แปลไทยโดย : Wichai Purisa (senior scientist)
โฆษณา