1 ต.ค. เวลา 12:57 • ศิลปะ & ออกแบบ

เมื่อ ความรุนแรง ต้องพ่ายต่อ ความรัก

แบบ สิ้นเรี่ยว สิ้นแรง !!!
ภาพ Venus & Mars & Cupid
ที่ผ่านมา ผมไม่ค่อยได้นำภาพของ กลุ่ม Old master มาลงกันเท่าใดนัก
ทั้งนี้ เพราะว่า ภาพยุคเก่ามักจะเป็นภาพที่เกี่ยวกับศาสนา( คริสต์ ) เป็นส่วนใหญ่
ซึ่งเรื่องราวของภาพ ค่อนข้างลงลึกรู้เรื่องกันเฉพาะแวดวงของคริสต์ศาสนิกชน
แต่ภาพยุคเก่านั้น นอกจากเรื่องของศาสนาแล้ว ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ และเรื่องของนิยายเทพปกรณัม ( Mythology ) เป็นหลัก
เหตุที่จิตรกรยุคนั้น นิยมวาดภาพเกี่ยวกับศาสนา ( คริสต์ ) หรือภาพเกี่ยวกับ เทพนิยายต่างๆ ก็เพราะ มีการกำหนดลำดับคุณค่าของภาพวาดกันไว้ ( คนเรานี่หนอ นอกจากกำหนดลำดับชนชั้นในหมู่คนกันเองแล้ว กระทั่งภาพวาดก็ยังถูกตีตราหรือกำหนดคุณค่าอีกด้วย ว่าภาพแบบไหน แนวไหน มีคุณค่ามากกว่าอีกแนว )
คุณค่าของภาพต่างๆมีลำดับกันดังนี้
ภาพที่ มีลำดับชั้นหรือคุณค่า จากมากไปน้อย คือ
1. ภาพที่อุทิศเพื่อศาสนา / ประวัติศาสตร์ / เทพต่างๆในนิยายปกรณัม
2. ภาพชีวิตประจำวัน
3. ภาพตัวบุคคล ( Portrait )
4. ภาพทิวทัศน์ หรือ Landscape
5. ภาพนิ่ง ( Still life )
1.ภาพทางศาสนา / ปวศ./ เทพปกรณัม
2. ภาพชีวิตทั่วไป
3. ภาพเหมือนบุคคล
4 และ 5 ภาพทิวทัศน์ และ ภาพนิ่ง
ภาพตัวอย่างข้างต้น ที่นำมาเปิดเรื่องนั้น มาจากนิยายโบราณ ที่คล้ายกับภาพของ บอตติเชลลี ที่จะนำมาลง ในลำดับต่อไปนี้
เป็นภาพเรื่องราวระหว่าง เทพแห่งสงคราม - Mars และ เทพแห่งความรัก คือ Venus
แต่เมื่อดูรายละเอียดเปรียบเทียบ ระหว่างภาพข้างบนกับภาพที่จะนำมาลงแล้ว
ให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกันชัดเจน
ลองดูกันแบบชิดๆนะครับ
ภาพข้างบน Venus & Mars & Cupid
ภาพที่จะคุยกันครั้งนี้ Venus & Mars
ภาพบน เป็นภาพที่เขียนโดย Piero di Cosimo ( คศ. 1490 )
ชื่อ Venus , Mars and Cupid
ภาพล่าง วาดโดย Botticelliในยุคไล่ๆกัน คือ คศ.1485
ภาพนี้ ชื่อคล้ายๆกันกับภาพบน คือ
Venus and Mars
องค์ประกอบหลักของภาพทั้งสอง วางตำแหน่งเดียวกัน คือ
Venus เอนกายทอดตัวอยู่ทางซ้ายของภาพ
Mars นอนหลับระทวยทางขวา
ต่างกันตรงที่ว่า
Venus ของ Cosimo เปลือยท่อนบนเห็นปทุมถันสองข้างเต็มตา และมี คิวปิดอยู่ชิดข้างตัว
ผิดกับ วีนัสของ ลุงบ้อต ที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยผิดวิสัยกับบริบทแวดล้อมของภาพคือ ตัว มาร์ส - เทพแห่งสงคราม ซึ่งเปลือยตัวในทั้ง สองภาพ
ดูแบบฉาบฉวย ภาพบนของ Cosimo วีนัสออกจะโป๊ มากกว่า
หากแต่ดูบริบทภาพรวมแล้ว
ภาพล่างของ ลุงบ้อตออกจะให้ความรู้สึกที่ชวนคิดไปในทาง erotic มากกว่า
ไหน ? ว่าไงนะ ? ยังไม่เข้าใจเหรอ ?
มาๆๆๆ ลุงจะอธิบายให้ควัง !
เพื่อความกระชับ จะขอพูดถึงภาพ Venus and Mars ของ Bottichelli เป็นหลักละนะ
ดูอีกที วีนัส แอนด์ มาร์ ที่ไม่มี คิวปิด
นอกจาก วีนัสในภาพของลุงบ้อต สวมเสื้อผ้ามิดชิดและไม่มีหนูน้อยคิวปิดมาเบียดข้างตัวแล้ว
ลักษณะการนอนหลับของ มาร์ส แสดงให้เห็นชัดเจนว่า
Mars ซึ่งชื่อว่า เป็นเทพแห่งสงคราม อยู่ในสภาพที่เรียกว่า
หลับเป็นตายแบบสิ้นเรี่ยวสิ้นแรง!
( ดูท่านอนของมาร์ส ในทั้งสองภาพเปรียบเทียบกัน )
แถมยังตอกย้ำ ความหลับเป็นตายของมาร์ส ด้วยการชี้ให้เห็นว่า
ขนาดเจ้า เทพเด็ก Satyr ซุกซน นำเอาหอก , หมวก และเกราะซึ่งเป็นอาวุธประจำกายของมาร์ส มาเล่นสนุก แล้ว
ยังนำเอาหอยสังข์ยักษ์ ( ในภาพบรรยายว่า สังข์เล็ก แต่ผมดูแล้วไม่เล็ก !) มาจ่อหูมาร์สและเป่าส่งเสียงปลุก กรอกหูพ่อ
พ่อยังหลับสนิท ไม่รู้ตัวเอาเลย !
ถ้าจะรวบรัดพูดสั้นๆในภาพรวมก็คือ
ที่จิตรกรต้องการจะสื่อแก่ผู้ชมก็คือว่า
ถึงที่สุดแล้ว
ความรัก ( วีนัส )ย่อมชนะความรุนแรงหรือสงคราม( มาร์ส )
เพราะว่า วีนัสตื่นและรู้ตัวมีสติดี
ในขณะที่มาร์ส หลับชนิดที่ เอาสังข์มาเป่ากรอกหู ก็ยังไม่รู้ตื่น !
ส่วนที่ว่า ทำไมภาพนี้ให้อารมณ์ erotic นั้น เพราะว่า ภาพนี้ วาดไว้เพื่อมอบเป็นของขวัญให้คู่สมรส ไว้ประดับหัวเตียงหรือแขวนในห้องที่เป็นห้องกึ่งห้องนอนและห้องรับแขก ( Bedchamber )ในยุคนั้น
ที่บอกว่า ภาพของทั้งคู่น่าจะเป็นอิริยาบทหลัง การร่วมหลับนอนสมสู่ของทั้งคู่นี้ จะเห็นว่า ภาพบนของ Cosimo บ่งบอกชัดเจน เพราะเปลือยทั้งคู่
ส่วนภาพของลุงบ้อต วีนัสสวมเสื้อผ้ามิดชิดนั้น เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความบริสุทธิ์สวยงามของ เทพแห่งความรัก ( วีนัส) ตามอุดมคติ
ทั้งๆที่ ในทางปฏิบัติ แล้ว วีนัสในภาพเพิ่งเผด็จศึกเทพแห่งสงครามจนหมอบไปหยกๆ
หลักฐานทนโท่ที่เห็น ก็คือ อาการ หลับเป็นตาย ของเทพมาร์ส ตามรูปนั่นไงเล่า !
เอาละ ไหนๆก็นำภาพมาชวนกันชมแล้ว
ก็ชมกันให้ทะลุปรุโปร่งไปเลย
ในภาพของลุงบ้อตที่เห็น นอกจาก วีนัส , มาร์ส และ เทพารักษ์เด็กจอมซน ที่นำเอาอาวุธประจำกายมาร์ส ซึ่งประกอบด้วย หมวกโลหะ / หอกดาบยาว / เกราะเหล็ก ทางมุมขวาล่าง ที่เจ้า Satyr จอมซน มุดตัวไปนอนเล่นแล้ว
ในมือซ้ายของเจ้าลิง เอ๊ย เจ้า Satyr ตนนี้ ยังกุมเอาผลอะไรสักอย่าง
ว่ากันว่า น่าจะเป็นผล แอ๊ปเปิ้ลหนาม ซึ่งมีฤทธิ์ให้มึนเมาและอารมณ์เคลิ้มแบบ ฝิ่นบวกแอลกอฮอร์
แถมยังมีฤทธิ์กระตุ้นราคะอ่อนๆ
แต่บางท่านก็ว่า เป็นว่านหางจระเข้
นอกจากนี้
ยังมีสิ่งมีชีวิต หรือสัตว์ตัวเล็กๆอีกฝูงจ้อยที่ จิตรกรแอบวาดแฝงอยู่ตรงมุมขวาบน ใกล้ศีรษะของมาร์ส
นั่นคือ รังและตัวต่อ ( Wasp ) !
( ต้องมือซนขยายภาพ หรือ หากได้ไปชมภาพจริงก็ต้องตาซน มองหาดีๆให้ทั่วภาพ !)
เอ้า ยังไม่เห็นใช่ไหม ?
โคล้ส อัพอีกนิด !
ทำไมต้องเป็น ตัวต่อ น่ะเหรอ ?
ก็คนจ้างให้วาดภาพนี้ คือ ตระกูล Vespucci -
Vespa = Wasp ตัวต่อ
สัญลักษณ์ของตระกูลนี้ คือ ตัวต่อ
ซึ่งปกติ มุมขวาบนของภาพ มักเป็นที่ประทับตราของเจ้าของภาพ
แต่ในภาพนี้ จิตรกรใส่ลูกเล่นโดยวาดภาพตัวต่อ แทนการลงภาพตราประทับ
แต่ก็มีบางท่าน ตีความ ตัวต่อในภาพออกไปไกลเลยว่า
ตัวต่อ บ่งบอกในภาพว่า
ความรัก มัก มาพร้อมกับ ความเจ็บปวดแสบร้อนราวดังถูกตัวต่อต่อย !
ช่างคิดช่างเปรียบเหลือเกิน !
มาถึงตรงนี้ ผมคงต้องขอตัวไปเข้านอนละครับ
แต่จะบอกให้เลย โดยไม่ต้องมากวนใจถามนะ
บอกให้เลยว่า ในห้องนอนผมไม่มีภาพนี้มาแขวน และคืนนี้ ผมก็ไม่ได้หลับลึกถึงขนาดที่ว่า " หลับเป็นตาย " แต่ประการใดทั้งสิ้น !
หมายเหตุ
Botticelli เปน หนึ่งในสี่ Old master ของ เรเนซองส์แถวหน้าๆ
เกิดก่อน ดาร์วินชี่หน่อย ( 7 ปี )
ถัดจากดาร์ วินชี่ ต่อมาคือ มิเกลันเจโล (ห่างดาร์วินชี่ 23 ปี )
ตบท้ายด้วย ราฟาเอล น้องสุด ซึ่งอายุขัยสั้นสุด - 37 ปี ก็ม่อง ( ราฟาเอลห่าง มิเกลันเจโล 8 ปี - คู่นี้เลย ไม่ถูกกัน โดยที่ มิเกลันมักจะคอยพูดจิกกัดราฟาเอล คงเกรงรุ่นน้องมาทาบรัศมี ! )
โฆษณา