วันนี้ เวลา 00:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ

5 สิ่งต้องรู้ก่อนเทรดวันนี้ 3 Oct 2025

*Goldman Sachs Sees More Upside for Gold* -
Goldman Sachs ระบุว่ายังมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยแรงหนุนมาจากความสนใจของนักลงทุนรายย่อยและภาคเอกชน ซึ่งนักลงทุนเริ่มหันมากระจายการลงทุนเข้าสู่ทองคำ อาจจะมาจาก “ความเสี่ยงด้านขาขึ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” ต่อประมาณการราคา ซึ่งคาดไว้ที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในกลางปี 2026 และ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีหน้า
*OpenAI Valuation Soars to $500 Billion*
OpenAI ได้บรรลุข้อตกลงเพื่อเปิดทางให้พนักงานและอดีตพนักงาน ขายหุ้นบางส่วนของบริษัทราว 6.6 พันล้านดอลลาร์ให้กับนักลงทุนรายใหญ่ โดยทำให้มูลค่ากิจการพุ่งขึ้นแตะ $500,000 ล้าน ส่งผลให้ผู้พัฒนา ChatGPT ก้าวขึ้นเป็นสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้า SpaceX ของอีลอน มัสก์ที่มีมูลค่า $400,000 ล้าน
อย่างไรก็ดี OpenAI ยังคงเผชิญแรงกดดันด้านการแข่งขัน Meta เร่งดึงตัวนักวิจัยจาก OpenAI ด้วยข้อเสนอค่าตอบแทนระดับ 9-10 หลัก การขายหุ้นรอบนี้ช่วยให้บริษัทสามารถจูงใจพนักงานให้อยู่ต่อและปฏิเสธข้อเสนอที่สูงลิบจากคู่แข่งได้
*EU to Propose Doubling Tariff Rate on Steel Imports to 50%* -
EU เตรียมเสนอร่างเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กเป็น 50% เมื่อนำเข้ามาเกินโควตาที่กำหนด เพื่อเป็นกฎหมายแบบถาวร และนำมาใช้ทดแทนกฎหมายเดิมที่กำหนดไว้เพียง 25% และกำลังจะหมดอายุในปีหน้า คาดจะมีการเปิดเผยรายละเอียดภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามจุดประสงค์หลักของการขึ้นภาษีรอบนี้ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับสหรัฐที่พยายามปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศและต่อต้านการผลิตส่วนเกินจากจีน
*Tesla Sales Hit Record as Buyers Rushed for US Tax Credit* -
ยอดขายรถ Tesla ไตรมาส 3/25 ออกมาดีเกินคาดเพิ่มขึ้น 7.4% จากปีก่อน หรือ คิดเป็นการส่งมอบรถยนต์ 497,099 คันทั่วโลก มากกว่าค่าเฉลี่ยที่ตลาดประเมินไว้ที่ 439,600 คัน ยอดขายหลักมาจาก Model 3 และ Model Y จำนวน 481,166 คัน เพิ่มขึ้น 9.4% ขณะที่รุ่นอื่น (Model X, Model S และ Cybertruck) ลดลง 30% เหตุผลสำคัญที่ยอดส่งมอบดีกว่าคาดน่าจะมาจากผู้บริโภคเร่งซื้อรถ EV ก่อนหมดเครดิตภาษี EV ($7,500) หลัง 30 ก.ย. ซึ่งอาจทำให้ความต้องการรถไฟฟ้าลดลงในไตรมาสถัดไป
*Hong Kong Funding Cost Seen Sliding* -
ต้นทุนการกู้ยืมข้ามคืนในฮ่องกงอาจลดลงมาอยู่ราว 3% ภายในสิ้นปี จากแรงกดดันของการปรับลดดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และความต้องการสินเชื่อที่ยังอ่อนแอ โดยทาง DBS คาดว่าอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคารฮ่องกง (HIBOR) ระยะ 1 เดือน จะลดลงมาใกล้ 2.5% ขณะที่ Oversea-Chinese Banking Corp. (OCBC) คาดว่าจะใกล้ 3% ต้นทุนกู้ยืมที่ต่ำลงถือเป็นเรื่องดีต่อทางการฮ่องกงที่ต้องการพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแรง
#5สิ่งต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดวันนี้
#BYDWealthStrategy
โฆษณา