5 ต.ค. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ลุยยกระดับอุตสาหกรรม-การค้า-การลงทุนสู่ความยั่งยืน ลั่นช่วยกลุ่มทุนได้ แต่ไม่ให้ชี้นำ

“อนุทิน” ปาฐกถา ”ยกระดับอุตสาหกรรม-การค้า-การลงทุนสู่ความยั่งยืน“ ชี้แม้เป็นรัฐบาล 4 เดือน ต้องวางรากฐานให้ยั่งยืน ไทยมีทางรอด ไม่ใช่ทางเลือก รัฐบาลต้องเป็นตัวเอง ช่วยเหลือกลุ่มทุนได้ แต่ไม่ให้กลุ่มทุนชี้นำ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในเวทีสัมมนา Sustainability Expo 2025 : A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยระบุว่า ปัจจุบันองค์การสหประชาชาติ ใช้คำว่า Sustainable Development Goals: SDGs เป็นตัวผลักดันกติกาใหม่ของโลก แต่ยังมีหลายคนไม่เข้าใจความหมาย SDG อย่างลึกซึ้ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี
ซึ่งเรื่อง SDG จะอยู่ในอุดมคติของเราที่ต้องมองและดำเนินการให้เกิดความยั่งยัน แต่จะคิดแบบ Quick Win แบบรัฐบาล 4 เดือนไม่ได้ แม้รัฐบาลอยู่เพียง 4 เดือน แต่ต้องทำให้ยั่งยืน รัฐบาลต้องวางรางฐาน เพื่อรัฐบาลต่อไปสามารถต่อยอดได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งานวันนี้จะทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สร้างความเปลี่ยนแปลง ในเรื่องการค้าอย่างเป็นรูปธรรม โลกเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากภัยการค้า ภัยการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ภัยการเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิอากาศ​ ซึ่งเราจะพาประเทศไทยไปในทิศทางที่ต้องพัฒนาอย่างยั่งยืน อันนี้ไม่ใช่ทางเลือก มันเป็นทางรอด
ความหมายยั่งยืนไม่ใช่แค่ทำเรื่องโลกสีเขียว ทำสิ่งแวดล้อม แม้สำคัญ แต่ไม่ครบมิติ ความยั่งยืนทำให้ 3 หลักดำเนินไปด้วยความมั่นคง คือ เศรษฐกิจต้องมั่นคง สังคมต้องมั่นคง และสิ่งแวดล้อมเป็นมิตรและมั่นคง หาโอกาสสร้างงาน สร้างรายได้ มีเงินใช้ มีเงินออม เราช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่เป็นภาระคนอื่นเช่นกัน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีหลายอย่างบีบให้สังคมไทยต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เราเกิดความอยู่รอด แต่อยู่รอดด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ถ้ามีคุณภาพชีวิตที่ดี เราอาจอยู่ได้ถึง 90 ปี และวันหนึ่งอาจต้องมีการปรับเกษียณอายุเป็น 65 ปี เพราะถ้าคนไม่ Active อาจกลายเป็นภาระได้ แต่ช่วงอายุ 60-90 ปี ต้องดูแลตัวเองได้ เราต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตของเราเช่นกัน และไม่ควรเป็นภาระลูกหลาน แต่รัฐบาลก็ต้องดูแล
ทุกวันนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมไว้แล้ว แต่เราหนีสังคมผู้สูงอายุไม่พ้น ต้องเตรียมให้การดูแลสุขภาพ สุขภาวะด้วย ซึ่งงบประมาณที่ต้องดูแลเรื่องสุขภาพ ตามสิทธิ์ สปสช. บัตรทอง หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ต้องมีการเตรียมเงินสำรองมากขึ้น เพราะในอนาคตอายุไขอาจปรับไปจนถึง 80-85 ปี เงินเหล่านี้รัฐบาลต้องหา ซึ่งต้องสนับสนุนให้ภาคธุรกิจประกอบการค้า
สนับสนุนให้เสริมสร้างรายได้เข้าประเทศ เพื่อเก็บภาษีจากภาคธุรกิจ หรือภาษีเงินได้ส่วนบุคคล และภาษีอื่นๆ ภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต เป็นต้น เพราะเงินเหล่านี้ต้องนำมาใช้ดูแลคุณภาพประชากรของประเทศ เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำ ตนถึงใช้คำว่า เป็นทางรอด ไม่ใช่ทางเลือก ตั้งมีการพัฒนาที่ยั่งยืน เหมาะสมกับสภาพประเทศของเรา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเคยมาจากภาคธุรกิจมาก่อน เรามองหลายๆอย่าง มองประเทศไทยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองเป็นภูมิภาค อาเซียน เราเป็นไข่แดงตรงกลาง จะไปญี่ปุ่น อเมริกา ไปยุโรป ตะวันออกกลาง ไปแอฟริกา เรามีทั้งภูเขา ทะเล ทางบก และทางน้ำ เชื่อมตะวันตกมาตะวันออก ทุกที่ผ่านประเทศไทยหมด ถ้ามาประเทศเราต้องแวะ ต้องใช้ ต้องผลิต ต้องลงทุน ประเทศไทยมีศักยภาพที่สุดในอาเซียนที่สามารถทำได้
ส่วนในเรื่องการเมืองจริงๆก็มีเสถียรภาพ แต่ต่อให้การเมืองไม่มีเสถียรภาพ แต่นักการเมืองรู้ดีว่า อย่าไปแตะผู้ประกอบการที่กำลังสร้างประเทศ ประเทศไทยผ่านวิกฤติต่างๆมา แต่การสนับสนุนด้านเศรษฐกิจไม่เคยลดน้อยลง แต่
สิ่งที่ต้องแก้ทำให้รัฐบาลมีความเป็นตัวเองให้มากที่สุด ช่วยเหลือกลุ่มทุนได้ สนับสนุนกลุ่มทุนได้ หาทางออกให้กลุ่มทุน แต่ต้องไม่ให้กลุ่มทุนชี้นำรัฐบาล เท่านั้นเอง แล้วประเทศมีการแข่งขันได้เต็มที่แน่ แล้วทุกคนจะรู้ถึงโอกาส และสังคมการเมืองก็จะเปลี่ยนไป และไทยจะเริ่มปรับความเป็นสากล ความเป็นธรรมาภิบาลมากขึ้น เพราะเราถูกบีบจากสังคมทั้งภายในและภายนอก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรามีสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจในช่วงนี้ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์​ กฏการค้าซับซ้อนขึ้น ผู้ประกอบการต้องเผชิญความผันผวน รัฐบาลทุกประเทศคิดมาตรการที่เป็นประโยชน์กับประเทศของเขาและอาจเป็นโทษกับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ซึ่งวันนี้โลกเป็นอย่างไร เราก็ปรับเปลี่ยน ซึ่งการที่สหรัฐฯขึ้นภาษี สิ่งแรกที่เราต้องคิดถึงตลาดอื่นอยู่ที่ไหน เราต้องไปให้ได้ มีตลาดอื่นที่สามารถรองรับได้หรือไม่ เราต้องมองฐานการผลิตของเรา
ผมเคยคิดขึ้นภาษีมากๆ ไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม การกีดกันทางเศรษฐกิจขึ้นมา อยากกินกุ้งอร่อยๆ กรอบๆสดๆ ถูกๆ คุณจะหากุ้งถูกจากประเทศไทยที่ไหนมี อยากกินเบียร์ดีๆที่ราคามาตรฐาน ผู้คนกินได้ระดับล่างกินล่าง ระดับกลาง ระดับสูงอีกอย่างหนึ่ง จะไปซื้อที่ไหน ถ้าไม่ใช่ประเทศไทย ถ้าขึ้นภาษีไปคนประเทศนั้นเดือดร้อน เราต้องดูตรงนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ขึ้นภาษีมา ไปบอกว่า ลดมาเถอะ อะไรก็ยอม ผมว่า เราทำแบบนั้นไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องต้องชื่นชมรัฐบาลที่แล้วมา ที่สุดท้ายเราได้ภาษีมา 19% เราไม่ได้เสียอะไรเลย เราใช้กลไกทุกอย่างที่เรามี ลดมาเหลือ 19% ด้วยปัญหาความขัดแย้งที่เรามีกับประเทศเพื่อนบ้านของเรา ทางสหรัฐฯ ก็พยายามมีข้อตกลงที่ดีต่อกัน เพื่ออะไรก็แล้วแต่ เพื่อประโยชน์ประเทศเขาด้วยในการที่จะมามีส่วนเกี่ยวข้องการค้า
ความมั่นคงในภูมิภาคนี้ สิ่งแรกที่ตนคิด อยากได้เงื่อนไขแบบนี้ ต้องคุยกันได้ รับฟังกันได้ ปากก็ต้องพูด ภาษีลดได้อีกหรือไม่ ถ้าลดได้อีก ทำให้เราตัดสินใจตามคำแนะนำของเขาได้มากขึ้น เพื่อความสงบสุขของโลกใบนี้ต้องช่วยกัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลใช้โอกาสทั้งหลาย เพื่ออุตสาหกรรมไทย เพื่อปากท้องคนไทยทุกคน เรื่องการปรับตัวด้านต่างๆ ตนให้คำยืนยันว่า ไทยให้ความรู้กับประชาชน ให้ความสำคัญกับสังคมสีเขียว ภาคผลิตต้องดูเรื่องการผลิตคาร์บอน รัฐพร้อมให้สิทธิประโยชน์กับภาคธุรกิจที่ส่งเสริมด้าานพลังงานสะอาด และรัฐบาลกำลังมีนโยบายเรื่องโซลาร์ชุมชน ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มตั้งแต่ตอนที่เป็น รมว.ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ซึ่งพอวันนี้ได้กลับมาตรงนี้อีกมีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อมั่นว่า จะสามารถเร่งให้นโยบายนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา