21 ต.ค. เวลา 11:00 • การศึกษา

## Episode140: Kinesiology of Knee joint#12

Biomechanics of patellofemoral joint##
ต่อจากบทความที่แล้วที่ผมได้พูดถึงเรื่อง tibiofemoral joint ไปแล้ว ในบทความนี้ผมจะมาพูดถึงข้อต่ออีกข้อหนึ่งของเข่าที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ "patellofemoral joint" หรือข้อต่อระหว่างสะบ้าและกระดูกต้นขานั่นเองครับ
Patellofemoral joint เป็นข้อต่อที่เกิดจากการเชื่อมต่อระหว่าง patella กับ femoral trochlea โดย patella เป็นกระดูก sesamoid ที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่เป็นจุดหมุนให้เอ็น quadriceps ในการเหยียดเข่า และช่วยเพิ่มแรงในการเหยียดเข่าผ่าน lever arm ที่ยาวขึ้น
ถ้าเรามาดูที่ผิวด้านหลังของ patella เราจะเห็นว่ามี articular facets อยู่ 7 ตำแหน่งด้วยกัน แบ่งเป็น 3 facets ทางด้าน lateral, 3 facets ทางด้าน medial และ odd facet ที่อยู่ด้าน medial สุด โดย lateral facets จะมีขนาดใหญ่และโค้งมากกว่า medial facets เพื่อรองรับแรงที่มากกว่าในด้าน lateral ในขณะที่ femoral trochlea จะมีร่องตรงกลางที่ลึกและกว้าง ทำให้ patella สามารถเคลื่อนที่ขึ้น-ลงได้อย่างมั่นคง และมี lateral trochlear ridge ที่สูงกว่าด้าน medial เพื่อช่วยป้องกันการเคลื่อนหลุดของ patella ไปด้านนอก
การเคลื่อนไหวของ patella บน femoral trochlea มีความน่าสนใจมาก เพราะนอกจากการเคลื่อนที่หลักในแนวขึ้น-ลง(superior-inferior glide) ตามการเหยียด-งอเข่าแล้ว ในแต่ละองศาของการงอเข่า facets แต่ละส่วนของ patella จะสัมผัสกับ femoral trochlea ไม่เหมือนกัน
โดยในท่าที่เข่าเหยียดเต็มที่ patella จะอยู่เหนือ trochlea แต่เมื่อเริ่มงอเข่าประมาณ 10-20° inferior pole ของ patella จะเริ่มสัมผัสกับ trochlea จากนั้นเมื่องอเข่า 45° central facets จะเริ่มสัมผัส และเมื่องอเข่า 90° superior facets จะสัมผัสกับ trochlea ซึ่งที่องศานี้จะเป็นตำแหน่งที่ patella มีการสัมผัสกับ trochlea มากที่สุด
นอกจากการเคลื่อนที่ขึ้น-ลงแล้ว patella ยังมีการเคลื่อนไหวในแนวอื่นๆร่วมด้วย ทั้งการเอียงในแนว frontal plane (medial-lateral tilt), การหมุนรอบแกนตามยาว (medial-lateral rotation), การเคลื่อนที่ในแนวข้าง (medial-lateral translation) และการเอียงในแนว sagittal plane (anterior-posterior tilt) การเคลื่อนไหวเหล่านี้ถูกควบคุมโดยโครงสร้างรอบๆ patella ทั้ง passive และ active stabilizers
Passive stabilizers ที่สำคัญประกอบด้วย medial patellofemoral ligament (MPFL) ซึ่งเป็น primary restraint ในการป้องกันการเคลื่อนหลุดไปด้านนอกของ patella และ medial และ lateral retinaculum ที่เป็นแผ่นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันยึด patella ไว้กับโครงสร้างด้านข้าง ส่วน active stabilizers ที่สำคัญคือกล้ามเนื้อ quadriceps โดยเฉพาะ vastus medialis obliquus (VMO) และ vastus lateralis (VL) ที่ดึง patella ในแนวตรงข้ามกัน ทำให้เกิดความสมดุลและความมั่นคง
ในแง่ของ biomechanics patellofemoral joint มีความสำคัญมากในการทำหน้าที่ของเข่า โดยเฉพาะในกิจกรรมที่ต้องการแรงในการเหยียดเข่า patella จะช่วยเพิ่มแรงในการเหยียดเข่าผ่าน 2 กลไกคือ การเพิ่มแขนของแรง(lever arm) ของ quadriceps tendon โดยการทำให้เอ็นอยู่ห่างจากจุดหมุนของเข่ามากขึ้น และการลดแรงเสียดทานระหว่าง quadriceps tendon กับ femoral condyles โดยการกระจายแรงผ่านผิวข้อที่เรียบลื่น
แรงกดที่เกิดขึ้นที่ patellofemoral joint จะเพิ่มขึ้นตามองศาการงอเข่าและน้ำหนักที่ลงบนขา โดยในท่าเดินปกติจะมีแรงกดประมาณ 0.5 เท่าของน้ำหนักตัว แต่ในท่าขึ้น-ลงบันไดอาจสูงถึง 3.3 เท่า และในท่า deep squat อาจสูงถึง 7.6 เท่าของน้ำหนักตัว
การที่มีแรงกดสูงทำให้ patellofemoral joint เป็นตำแหน่งที่พบปัญหาได้บ่อย โดยเฉพาะอาการปวดบริเวณด้านหน้าเข่าที่เราเรียกว่า "anterior knee pain" หรือ "patellofemoral pain syndrome" ซึ่งมักจะเกิดจากความผิดปกติของการเคลื่อนไหวของ patella หรือ การไม่สมดุลของกล้ามเนื้อรอบๆ patella นั่นเองครับ
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
_PhysioUpskill_
#Physioupskill
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่ https://physioupskill.com/บทความ/ หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่ https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/ ได้เลยครับ
Ref.
Neumann, D. A. (2017). Kinesiology of the musculoskeletal system: Foundations for Rehabilitation. Mosby.
Powers, C. M., & Witvrouw, E. (2016). The patellofemoral joint. Physical Therapy in Sport, 17, 1-8.
Levangie, P. K., & Norkin, C. C. (2011). Joint structure and function: A comprehensive analysis. F.A. Davis Company.
โฆษณา