เมื่อเราเป็น Start up สื่อท้องถิ่น : ประสบการณ์ปี 4 ที่ไม่เหมือนใคร
สวัสดีครับ ผม โชกุน หรือ นายทธีรชาติ สุนา เป็นหนึ่งในคนองค์กรทบ้านบ้าน (BanBan) ก่อนที่จะเริ่มต้นทำงานด้านสื่อท้องถิ่น ผมเคยเชื่อมาตลอดว่ามันคงเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายวิดีโอและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดพะเยาให้คนอื่นได้รู้จักมากขึ้นก็คงเพียงพอแล้ว ทว่าทันทีที่ผมได้ก้าวเข้ามาลงมือทำจริง ๆ
จึงได้ตระหนักว่าการทำงานในลักษณะนี้มีความซับซ้อนกว่าที่คิดอย่างมาก มันไม่ใช่เพียงการกดชัตเตอร์แล้วได้ภาพสวย ๆ หากแต่คือกระบวนการวางแผน การบริหารจัดการ และการทำงานร่วมกับหลายฝ่าย เพื่อให้ทุกขั้นตอนดำเนินไปอย่างราบรื่นองค์กรของเราถือกำเนิดขึ้นจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่แทบจะเรียกได้ว่าเริ่มจากศูนย์ เราไม่มีงบประมาณสนับสนุน ไม่มีสปอนเซอร์คอยช่วยเหลือ สมาชิกทุกคนในทีมต้องช่วยกันทั้งออกทุน ลงแรง และสละเวลาส่วนตัวเพื่อให้โครงการเกิดขึ้นจริง
ผมยังจำได้ดีว่าช่วงแรกพวกเรานั่งประชุมกันจนดึกดื่น เพื่อกำหนดแนวทางการทำงาน วางแผนว่าจะนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบใดให้ดึงดูดความสนใจผู้ชม และทำให้คนอยากติดตามต่อ มันเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยแต่ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะทุกคนต่างมีเป้าหมายเดียวกันคืออยากเห็นองค์กรของเราเกิดขึ้นจริง
ในทีมมีบทบาทหน้าที่หลากหลาย และแต่ละตำแหน่งล้วนมีความสำคัญ ส่วนผมได้รับหน้าที่เป็น “ผู้กำกับรายการท่องเที่ยว” ซึ่งเป็นบทบาทที่ต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจที่เด็ดขาด ยอมรับตามตรงว่าช่วงแรกผมกังวลมาก กลัวว่าจะทำได้ไม่ดี และกลัวว่าจะทำให้ทีมผิดหวัง แต่เมื่อได้ลงมือทำจริง ความกังวลนั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้ผมทุ่มเทและตั้งใจมากขึ้นประสบการณ์การลงพื้นที่ถ่ายทำคือสิ่งที่ผมไม่มีวันลืม เราเดินทางไปหลายสถานที่ ทั้งปางปูเลาะ น้ำตก ภูอานม้า และแหล่งท่องเที่ยวเล็ก ๆ ที่คนในพื้นที่แนะนำ
หลายครั้งต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเพื่อให้ได้แสงที่สวยที่สุด บางครั้งไปถึงแล้วพบว่าสถานที่ปิดให้บริการ ต้องเปลี่ยนแผนการถ่ายทำกะทันหัน บางครั้งรถเสียกลางทาง ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาหน้างานอย่างเร่งด่วน แม้จะเหน็ดเหนื่อยและเครียดแต่เมื่อได้เห็นธรรมชาติอันงดงาม และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้าน ความเหนื่อยล้าก็หายไปในทันที
สิ่งที่ทำให้ผมภาคภูมิใจมากที่สุดคือทุกครั้งที่ผลงานเผยแพร่ออกไป ผู้ชมให้การตอบรับอย่างดี ความเห็นที่ว่า “ไม่เคยรู้เลยว่าพะเยามีสถานที่แบบนี้” หรือ “อยากลองไปเที่ยวตามรอยดูบ้าง” เป็นแรงยืนยันว่าความพยายามทั้งหมดของเรามีคุณค่าและเกิดผลจริง นี่ไม่ใช่เพียงการผลิตสื่อ แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนออกไปสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเอง
บทเรียนสำคัญอีกอย่างที่ผมได้รับคือการทำงานเป็นทีม ช่วงแรกแม้จะมีความเข้าใจในงานที่ไม่ตรงกันบ้างจนเกิดปัญหา แต่สิ่งที่ทำให้เราผ่านมาได้คือการเปิดใจพูดคุยกันอย่างจริงใจ รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุด กระบวนการนี้ทำให้ทีมของเราแข็งแกร่งและมีความเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นนอกจากงานด้านการถ่ายทำ เรายังต้องจัดการเรื่องการเงิน การวางแผนค่าใช้จ่าย และการหางานใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนในองค์กร
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมได้เรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการ การวางแผนเวลา และการทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น จากที่เคยมองว่าตนเองเป็นเพียงคนทำคอนเทนต์ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนได้ก้าวสู่การเป็นทั้งนักวางแผนและนักแก้ปัญหาไปพร้อมกันแม้งานจะเหน็ดเหนื่อย บางวันกลับดึกดื่นจนแทบหมดแรง แต่ความสุขที่ได้เห็นผลงานสำเร็จลุล่วง ได้เห็นรอยยิ้มของผู้ชม และได้ยินเสียงชื่นชม เป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้ผมอยากทำงานนี้ต่อไป ประสบการณ์ครั้งนี้ยังทำให้ผมอยากให้คนอื่นได้เห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามี
ท้ายที่สุด ผมอยากย้ำว่าการทำงานด้านสื่อท้องถิ่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ใช่เพียงการถ่ายทำวิดีโอ หากแต่คือการส่งต่อเรื่องราวที่มีความหมาย ให้ผู้คนได้เรียนรู้และเห็นคุณค่าของชุมชน พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
