1. จนถึงปัจจุบัน ภาครัฐยังไม่มีมติหรือรูปธรรมที่ชัดเจนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ขยายอายุเกษียญค่ะ นายกฯ จะเสนอนโยบายอย่างใดก็ได้ เพื่อให้แต่ละหน่วยงานไปทำการบ้าน ให้ดูว่ามีกิจกรรม มีงานอะไรให้ต้องทำตลอด และหลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการบ้านเสร็จ (จริงๆ) ก็จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณา "อย่างเป็นขั้นเป็นตอน"
2. นโยบายขยายอายุเกษียญของภาครัฐ มีมาอย่างต่อเนื่องในทุกรัฐบาล นัยว่าเพื่อแก้ปัญหาสังคมสูงวัย แต่ทุกครั้งจะเป็นเพียงการ "test the waters" เพื่อดูแรงกระเพื่อม
3. นโยบายภาครัฐ ไม่สามารถใช้บังคับกับภาคเอกชนได้ เพียงแต่คาดว่าจะช่วยดึงดูดแรงงานเข้าสู่ภาครัฐ และจะใช้บังคับเอากับภาครัฐหรือหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับของภาครัฐได้เท่านั้น แต่สำหรับหน่วยงานอิสระ สามารถจะดำเนินการกำหนดระเบียบได้เลย ไม่ต้องรอภาครัฐ เพียงแต่จะต้องแจ้งต่อหน่วยงานข้าราชการพลเรือน เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในระบบ
4. จนถึงปัจจุบันสำหรับทั้งในภารครัฐและเอกชน จะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ ยังคงกำหนดอายุเกษัยญที่ 60 ปี โดยสามารถพิจารณาต่อสัญญาจ้างรายปี เฉพาะกรณีได้ แต่จะไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการอื่นใด จะได้เพียงค่าจ้างตามสัญญาจ้างปีต่อปี และโดยปรกติ มักจะต่อไม่เกิน 5 ปี วิธีนี้ปฏิบัติกันมานานมากๆ แล้วค่ะ
การพิจารณาต่อสัญญารายปี ตามข้อ 4
จึงทำให้ที่ผ่านมา ทั้งภาครัฐและเอกชน
มองว่า ไหนๆก็ไหนๆ
ก็กำหนดอายุเกษียญที่ 65 ปีไปเลยได้หรือไหม?
5. ต้องไม่ลิมว่าภายในองค์กร การ implement นโยบายดังกล่าว อาจจะเกิดแรงกดดันมหาศาล เพราะอาจจะทำให้คนแก่นั่งทับเก้าอี้รอเวลาเกษียญ นั่งประชุมไปหลับไป ส่วนคนหนุ่มสาว ก็ติดกับดัก สว.สูงวัยเหล่านี้ ที่อาจจะครอบงำความคิด ทำให้คนวัยหนุ่มสาวขาดแรงจูงใจ เพราะถูกดึงเวลาการเติบโตในตำแหน่งหน้าที่การงาน
ในกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่มีตัวแทนสหภาพแรงงาน
ไว้สำหรับเรียกร้องผลประโยชน์ให้กลุ่มลูกจ้าง
แต่เมื่อพูดเรื่องขยายอายุเกษียญ
ก็กลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อิหลักอิเหลื่อ
เพราะเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นสมาชิกสหภาพ
คงจะไม่ยอมโง่ โดยง่ายค่ะ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
