5 ต.ค. เวลา 15:55 • การศึกษา
มหาวิทยาลัยพะเยา

เริ่มต้นบทเรียนการเป็น Start Up ท้องถิ่นหน้าใหม่

สวัสดีครับ ผมชื่อชาคริต อริวสะโร มีชื่อเล่นว่า เจ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยพะเยาครับ ผมถูกชักชวนจากเพื่อนใหม่มาตั้งองค์กรร่วมกันโดยใช้ชื่อองค์กรว่า “สีมัคคา” เป็นองค์กรสำหรับท้องถิ่นที่ทุกคอนเทนต์ในองค์กรต้องมีความเป็นท้องถิ่นแบบร่วมสมัยคนรุ่นใหม่ก็ดูได้โดยไม่รู้สึกว่ามันเชย
เริ่มแรกตำแหน่งในองค์กรของผมที่ได้คือ Creative / Script Writer รายการ UP date ซึ่งเป็นรายการข่าวที่คอยอัปเดตความเคลื่อนไหวทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยพะเยาโดยที่เรื่องการลงคอนเทนต์ตามวันเราจะมีการลงข่าวแบบวันเว้นวันในช่วงแรกก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนให้ลงข่าวเป็นทุกวันในท้ายที่สุด เพราะว่าข่าวควรมีการอัปเดตทุกวันเพื่อให้ผู้ติดตามได้ทราบข่าวสารใหม่ๆในแต่ละวัน
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำงานภายใต้องค์กรคือ การยอมรับว่าเราไม่ใช่คนเก่งที่สุด แต่ต้องรู้จักเคารพความคิดเห็นผู้อื่น ลดอีโก้ และทำงานร่วมกับทีมอย่างมืออาชีพ ไอเดียส่วนตัวเป็นสิ่งดี แต่ต้องปรับให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์องค์กร จึงจะทำให้งานราบรื่นและสนุกมากขึ้น
หน้าที่หลักในการทำงานคือ การค้นหาเรื่องใหม่ๆที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนมาทำข่าวที่ผ่านวิสัยทัศน์องค์กรโดยไม่ลอกเลียนแบบงานผู้อื่น เพราะว่าหากเราจะทำข่าวแต่ยังไม่มีอะไรที่เป็นไอเดียตนเองจะยากมากที่จะทำให้ผู้ติดตามเชื่อมั่นและมีความเป็นเจ้าของไอเดียนั้นแต่แรก การทำข่าวต้องคำนึงด้วยว่าผู้รับจะได้อะไรไปบ้าง ไม่ใช่แค่ทำๆให้เสร็จๆไปแล้วค่อยหาใหม่อีกเรื่องเราต้องตั้งใจเพื่อข่าวมีคุณค่าและสะท้อนความเป็นสื่อท้องถิ่นที่สุด
ความยากของการทำข่าวคือการคิดให้รอบคอบว่าข่าวสดใหม่ มีคุณค่าหรือไม่ โดยข่าวแจ้งเกิดของผมคือข่าวทางเนินซอยจุฬาที่สร้างทางรถไฟ ผมพบปัญหาเองจึงลงพื้นที่ทำทันที ผลคือมียอดชม 14,700 ครั้งบนเพจ และ 30,000 ครั้งใน TikTok ได้รับคำชมจากองค์กร
การรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันด้วยกันต้องบอกก่อนว่าผมมีหน้าที่เขียนสคริปต์รายการ UP date ปัญหาแรกที่จะเจอเลยภาพที่ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้สมมุติว่าคุณเขียนว่าต้องถ่ายแบบนี้มาแต่พอมาเจอเหตุการณ์จริงมันกลับไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ทำให้ภาพที่เราต้องการเล่าข่าวออกมาไม่มีตรงนี้ต้องทำอย่างไรง่ายมากคือ การวางแผนสำรองเข้าไว้แก้บทตรงหน้างานแล้วทำงานก่อนต่อต้องใจเย็นเข้าสู้ อย่าใจร้อนมันจะทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกไม่สบายใจ
ยอมรับผิดชอบว่าที่เราทำลงไปมันผิดพลาด อันดับแรกต้องขอโทษให้เป็นห้ามดื้อด้านว่าเราไม่ผิดมีอยู่แล้วที่เกิดปัญหาแล้วเราทำผิดโดยไม่รู้ตัวยกตัวอย่าง ในงานข่าวทางเนินผมมีหน้าที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงเพราะฉะนั้นเวลาที่ Producer ตีกลับมาว่าภาพมันใช้ไม่ได้เลยเราต้องน้อมรับความผิดพลาดของเราให้เป็นเพื่อที่จะทำให้การทำงานในครั้งหน้าไม่มีความผิดพลาดขึ้นมาอีกครั้ง เวลาทำงานจริงเราต้องยอมรับว่ามีอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาเป็นธรรมดาแต่มืออาชีพจะไม่ทำแบบนั้น กล้าทำก็กล้ารับไม่ต้องโทษเพราะถือว่าผิดร่วมกันไม่ควรงอแง
สุดท้ายนี้ผมขอฝากไว้ว่าการทำงานร่วมกันหลายคนต้องคำนึงความเป็นกลางเข้าไว้ ลดอีโก้แล้วรับฟังเพื่อนให้มากที่สุดโดยนำไอเดียมาประกอบกันจนกลายเป็นหนึ่งเดียวโดยที่ไม่เครียดกับมันเกินไป คำนึงความรู้สึกของเพื่อนให้ได้มากที่สุดและยอมรับความผิดที่ได้กระทำลงไปโดยไม่โทษผู้อื่นขอบคุณครับ
โฆษณา