One fine day in Karnchanaburi .. วันเดียวเที่ยวสามน้ำตก
เมื่อถนนสาย ทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 (มอเตอร์เวย์ M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 96 กิโลเมตร เปิดให้ใช้ในวันหยุด โดยยังไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง ซึ่งชาวยย่นระระเวลาในการเดินทางจาก กทม - กาญจนบุรี จากราว 4 ชั่วโมง ให้เหลือเพียง 2 ชั่วโมง .. เราจึงอยากจะทดลองใช้
.. เป้าหมายครั้งนี้ คือ การไปเที่ยว 3 น้ำตก
น้ำตกตาดสะเดา
น้ำตกที่ไม่ได้มีบนแผนที่ อยู่ใกล้ล่นกางเต้นท์ฐานทอง อ.ไทรโยก .. เป็นน้ำตกที่มีเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น คือช่วงฤดูฝนของทุกปี
การเข้าถึงน้ำตกให้ง่าย หากใช้การนำทางโดย Google Map ควรจะปักหมุดที่วัดเวฬุวราราม ซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้าน้ำตก (ไม่งั้นอาจจะหลง) เมื่อผ่านวัดมาไม่ไกลก็จะถึงถนนดินที่เป็นทางเข้า มีป้ายบอกทาง
.. ระยะทางจากทางเจ้าจนถึงจุดจอดรถ อยู่ไม่ไกลจากทางเข้า แต่เป็นถนนดินที่ห่างออกมาราว 5 นาทีของการเดิน .. ชาวบ้านเริ่มเข้ามาทำพื้นที่บริการจอดรถ .. จากนั้นเดินอีกนิดเดียวก็จะถึงทางเดินเข้าน้ำตก จะได้ยินเสียงน้ำอย่างชัดเจน
ตลอดทางเดินไม่ถึง 200 เมตรจะเห็นพืชไร่ และทางน้ำไหลที่อยู่ขนานกัน .. บางช่วงมีเด็กๆมาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
ว่ากันว่า .. น้ำตกตาดสะเดาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง เพราะจะมีน้ำไหลลงมาจากหน้าผาเฉพาะช่วงฤดุฝน และอยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติ สิ่งอำนวยความสะดวกเรียกว่า “ไม่มี”
ทางเดินริมน้ำตกเป็นทางดินแคบมากและลื่นชัน .. แบบมีคนมาถากๆเอาไว้พอเดินและปีนได้คนเดียว จะต้องพยายามหลบหลีก หากมีการเดินสวนกัน
ความงามของน้ำตกที่อยู่ตรงหน้าเราขณะนี้ ไม่เป็นรองน้ำตกที่มีชื่อสีงอื่นๆในกาญจนบุรี เพียงแต่มีขนาดเล็กชั้นเดียว .. ช่วงหน้าฝนน้ำค่อนข้างเยอะ บรรยากาศสดชื่น
การเดินเที่ยวชม และถ่ายภาพต้องระมัดระวังตัวเอง .. หินลื่นมาก ควรจะใช้ไม้เท้าช่วยเดดินและพยุงตัว อาจจะช่วยไม่ให้หกล้มได้บ้าง รองเท้าก็ควรจะให้เหมาะสม ยึดเกาะพื้นได้พอสมควร
เรามาถึงเช้า จึงค่อนข้างจะถ่ายภาพได้สบายๆ และมีแสงที่นุ่มนวลที่สะท้อนฟองของน้ำที่ฟุ้งกระจายเมื่อกระทบโขดหินได้สวยงาม
.. ลำแสงยามเช้าที่ส่องผ่านกิ่งไม้และใบไม้ ช่วยเพิ่มมิติของภาพได้สวยค่ะ
น้ำตกไทรโยคน้อย
น้ำตกไทรโยคน้อย หรือน้ำตกเขาพัง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เหตุที่ได้ชื่อว่าน้ำตกเขาพังเพราะเกิดบนหน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมาจนเกิดโขดหินลดหลั่นกันอยู่บริเวณเชิงเขา
ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นลาดเอียงภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด
.. เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งของกาญจนบุรีเลยค่ะ โดยบริเวณรอบๆ น้ำตกก็จะมีธรรมชาติที่สวยงามและร่มรื่น โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่จะมีน้ำมาก ทำให้เล่นน้ำฟินๆ ชุ่มฉ่ำมากๆ
จากทางเข้า เมื่อขึ้นบันไดมาถึงด้านบน ณ ชั้นชมน้ำตก .. สิ่งแรกที่เราเห็นคือ หัวรถจักรไอน้ำในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งจัดแสดงเอาไว้เพื่อรำลึกถึงการสร้างเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ไทย-เมียนมาในสมัยสงคราม
น้ำตกแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาส มาเมื่อตอนปี พ.ศ.2431 อีกด้วย
น้ำตกไทรโยคน้อย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่เข้าถึงได้ง่ายมาก .. เป็นน้ำตกที่ฮิตฮ๊อต ของใครๆ หลายคนเลย
ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ก็คงเป็นแอ่งน้ำตกที่เล่นน้ำสนุก ไม่ต้องกลัวอันตราย เพราะไม่ลึกมากจนเกินไป ทำให้เป็นบริเวณนี้ที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย
ชอบบันไดน้ำตกมาก .. เป็นไอเดียที่สุดยอด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างเราชอบ
น้ำตกที่ไหลผ่านผาหินปูน สวยงามมากมาย
การเดินทางสะดวกมาก เข้าถึงง่ายสุดๆ เพราะอยู่ติดกับถนนหลักสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ ด้วยระยะทาง 65 กิโลเมตร จากจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติ 33 กิโลเมตร
… หรือทางรถไฟ เริ่มต้นจากสถานีธนบุรี ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ตำบลท่าเสา ห่างจากตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร
น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 500 เมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 - 400 เมตร แบ่งเป็นชั้นต่างๆ 7 ชั้น มีระยะทางจากชั้นล่างสุดขึ้นไปชั้นบนสุด 1500 เมตร
ลำน้ำเมื่อตกลงมาแล้วจะไหลลงแม่น้ำแควใหญ่บริเวณที่ทำการอุทยาน เดิมน้ำตกนี้ชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกสะด่องม่องลาย อันเป็นชื่อลำห้วยม่องลายที่เป็นต้นน้ำ โดยบริเวณน้ำตกจะมีน้ำตลอดปี แต่จะมีน้ำน้อยในช่วงฤดูแล้ง ราวเดือนธันวาคมถึงเมษายน
น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตก 7 ชั้น .. การเดินเข้าจนถึงจุดชมน้ำตกชั้นแรกระยะทางยาวเหมือนกัน อุทยานจึงอำนวยความสะดวก ด้วยการจัดรถกอล์ฟบริการในราคาเที่ยวละ 20 บาทต่อคน .. ช่วยลดทอนความเหนื่อยได้มากทีเดียว
น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตก มีลักษณะที่โดดเด่นกว่าน้ำตกอื่นๆคือเป็นน้ำตกบนเทือกเขาหินปูน ทำให้น้ำมีสีฟ้าอมเขียวเมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ .. ลักษณะทางกายภาพของน้ำตกแต่ละชั้นก็จะแตกต่างกันไป
การเดินชมน้ำตกแต่ละชั้น ทางอุทยานทำทางเดินไว้เชื่อมกันอย่างดีเยี่ยม .. อาจจะต้องเดินทางชันตามสโลปของภูเขาบ้าง เดินฝ่าแรงดึงดูดของโลก แต่นับว่าสะดวก ปลอดภัยดีเยี่ยมค่ะ
บรรยากาศของน้ำตกชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง .. เป็นน้ำตกไม่สูง มีแอ่งน้ำ
บรรยากาศของน้ำตกชั้นที่ 2 วังมัจฉา.. เป็นน้ำตกที่สูงกว่าชั้นแรก มีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำได้ แต่ต้องใส่เสื้อชูชีพเท่านั้น ด้านข้างมีแท่นพื้นไม้ให้นั่งพัก ชทความวามของน้ำตก
บรรยากาศของน้ำตกชั้นที่ 3 ผาน้ำตก .. น้ำตกชั้นนี้สวย ขนาดไม่กว้างมาก น้ำตกไม่ไกระจายตัว แต่รวมตัวไหลลงมาเป็นสายจากความสูงหลายสิบเมตร
ด้านหน้ามีแอ่งน้ำ และโขดหิน .. จึงมีชายที่แข็งแรงคนหนึ่ง โชว์ความฟิตของร่างกาย จนเราได้ภาพที่สวยงามมาฟาก
บริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 - 4 จะมีปลาพลวง (ปลาตระกูลปลาตะเพียน ลำตัวสีน้ำตาลเขียวเกล็ดโต มีหนวดยาว 2 คู่) แหวกว่ายอยู่เป็นจำนวนมากอันเป็นลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่ง
ฉันเดินได้แค่ 3 ชั้นก็หมดเวลา ใกล้ถึงช่วงที่จะปิดอุทยานของวันแล้วค่ะ .. เอาไว้โอกาสหน้าจะพาเดินต่อนะคะ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
