เมื่อผมยืนหน้าร้าน Lululemon ด้วยความสงสัยว่า...
กางเกงออกกำลังกาย ตัวละ 3500 ใครมันจะไปซื้อ ?
.
ช่วงวันอาทิตย์ ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งของดูไบ รูปแบบห้างคล้ายๆ MegaBangna ของไทย ผมสังเกตุเห็นอะไรหลายอย่าง เลยอยากเอามาแชร์ครับ
.
1️⃣ ผมยืนอยู่ราวๆ เกือบชั่วโมง ผมนับถุงที่ถูกซื้อออกมาจากร้าน Umbro 0 Puma 1 UnderArmour 3 Lulu 6 .... อันนี้ผมแปลกใจเล็กน้อย ใช่ครับผมรู้จากงบการเงินว่า Lulu ขายได้เยอะ รายได้ทั่วโลกกว่า 3 แสนล้านบาท แต่ผมคิดว่ารายได้สูงเพราะขายแพง ไม่ได้คิดว่าจะมีจำนวนคนซื้อเยอะมากกว่าแบรนด์อื่นๆ
.
2️⃣ อายุของคนที่เดินเข้ามีตั้งแต่ GenY GenZ และ Alpha ผมสังเกตุเห็นหน้าน้องคนนึงอายุน่าจะซัก 10 ขวบ ถือถุง Lulu ออกมา ด้วยแววตาที่โคตรมีความสุข ราวกับได้ของเล่น แสดงให้เห็นว่า Run-way ทางอายุของแบรนด์ยังไปได้อีกหลายปี ไม่น่าจะเป็นแบรนด์คนแก่ที่เด็กเลิกใช้ในเร็ววัน
.
3️⃣ ถ้าใครตามหุ้นต่างประเทศ จะรู้ว่าหุ้น Lulu ราคาตกลงมากว่า 70% ด้วยความกังวลของการเติบโตในประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลัก โดยล่าสุดผู้บริหารวาง direction ไว้ว่าตลาดหลักอาจจะโตไม่แรง แต่ตลาดที่โตแรงต่อจากนี้คือตลาดนอก อเมริกา เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย... ตอนนี้ผมยืนอยู่ในตะวันออกกลาง ซึ่งก็เห็นภาพการเติบโต แบบที่เค้าบอก (เวลาไปห้าง ผมยืนหน้าร้านประจำ และไปหลายห้าง เลยพอเห็นภาพ) แสดงว่ามันพอจะเป็นไปได้
.
4️⃣ อีกตลาดนึงที่ Lulu มุ่งมั่นที่จะเติบโตคือ "Men Wear" อันนี้ก็น่าสนใจครับ เท่าที่ผมเห็น ผมคิดว่าลูกค้าเกือบครึ่งของ Lulu ปัจจุบันเป็นผู้ชายครับ ซึ่งอันนี้ผมก็แปลกใจ เพราะผมเคยมองว่า Lulu คือแบรนด์ของผู้หญิง... สังเกตุเห็นในภาพนะครับ คนยืนรอหน้าร้านในรูปเป็นผู้หญิง เค้ากำลังรอแฟนเค้าชอปปิ้งอยู่ ภาพนี้แปลกตามาก ปกติจะสลับฝั่งกัน 😀
.
5️⃣ สุดท้าย เราต้องไม่ลืมความเสี่ยงจากคู่แข่งครับ ความเสี่ยงนี้เป็นของจริง โดยเฉพาะจากแบรนด์ Alo ห้างไหนที่มี Alo เท่าที่ผมเห็น ลูกค้าของเค้าเยอะไม่ต่างจาก Lulu เลย ทั้งๆ ที่ ราคาโดยเฉลี่ยของ Alo ก็แพง หรืออาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำ
.
แล้วคุณแหละครับ คิดยังไงกับกางเกงออกกำลังกายตัวละ 3000 ? คอมเม้นมาแชร์กันได้เลยครับ ผมอยากรู้จริงๆ ว่าคนคิดยังไงกัน
.
#มนุษย์เงินเดือน
#ลงทุนในหุ้น
#พัฒนาตนเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
