7 ต.ค. เวลา 15:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ครั้งเดียวในศตวรรษ: จีนขึ้นเป็นมหาอำนาจโลก /โดย ลงทุนแมน

- ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โลกได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของจีน จากประเทศกำลังพัฒนาสู่มหาอำนาจระดับโลก นี่ไม่ใช่แค่การเติบโตทางเศรษฐกิจธรรมดา แต่เป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในศตวรรษ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงระเบียบโลกในทุกมิติ
เรื่องนี้ทำไมเราทุกคนต้องรู้ไว้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1. จาก "โรงงานโลก" สู่ "ศูนย์กลางนวัตกรรม"
การก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีของจีนไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นโรงงานของโลกอีกต่อไป ประเทศนี้กำลังเปลี่ยนตัวเองเป็น ศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก ด้วยการลงทุนอย่างมหาศาลในด้านวิจัยและพัฒนา
การแข่งขันในเทคโนโลยีล้ำสมัย
- Artificial Intelligence (AI) จีนเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI ทั้งในด้านการวิจัยและการประยุกต์ใช้จริง
- Semiconductor แม้จะเผชิญกับข้อจำกัดจากต่างประเทศ แต่จีนกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของตนเองอย่างจริงจัง โดยมีบริษัท SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corporation) เป็นผู้นำ
- 5G และเทคโนโลยีการสื่อสาร จีนเป็นผู้นำในการพัฒนาและนำเทคโนโลยี 5G ไปใช้งานจริงได้แบบแพร่หลายและครอบคลุมประชากรมากที่สุดในโลก
1
บริษัทเทคโนโลยีจีนกำลังเริ่มก้าวจากการครอบงำตลาดจีนสู่การท้าชิงในตลาดโลก
- Alibaba ยักษ์ใหญ่ด้าน E-commerce และ Cloud Computing และกำลังทุ่มทุนวิจัยด้าน AI จนกลายเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลกในด้านนี้ โมเดล AI ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีคือ Qwen
2
- Tencent ผู้นำด้านโซเชียลมีเดีย, เกม, และ FinTech ชั้นนำของจีน บริษัทนี้ยังได้ลงทุนในบริษัทอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมระบบนิเวศของตัวเองให้แข็งแกร่ง
- Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ IoT ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และล่าสุดได้ขึ้นเป็นผู้เล่นรายสำคัญของตลาดรถยนต์ EV ในประเทศจีน และในอนาคตหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นผู้เล่นคนสำคัญของตลาดรถยนต์ EV โลก
- SMIC ผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของจีน ที่มีภาครัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศจีนสามารถก้าวได้ทันประเทศสหรัฐอเมริกา
การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นว่าจีนไม่ได้แค่ผลิตสินค้าตามแบบที่คนอื่นออกแบบในอดีต แต่กำลังสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก
1
2. ผู้นำธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต
จีนกำลังครอบงำอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของโลก จีนไม่ได้แค่มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด แต่กำลังเป็นผู้กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมนี้
พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) จีนเป็นผู้ผลิตและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ที่สุดในโลก ครอบงำมากกว่า 70% ของการผลิตโซลาร์เซลล์ทั่วโลก
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ บริษัท BYD กำลังเป็นผู้ผลิตรถ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Tesla ในบางช่วงเวลา ถึงขนาดมีเรือขนาดยักษ์ที่คอยบรรทุกรถยนต์ของตัวเองจากโรงงานประเทศผู้ผลิตแล่นไปหาตลาดที่ส่งออก
1
บริษัท CATL (Contemporary Amperex Technology) ผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV รายใหญ่ที่สุดในโลก ครอบงำส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 30%
นอกจากนั้นจีนกำลังต่อยอดสู่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ความเชี่ยวชาญด้านแบตเตอรี่และระบบอัตโนมัติทำให้จีนก้าวสู่
- หุ่นยนต์ Humanoid การพัฒนาหุ่นยนต์รูปคนที่สามารถใช้งานได้จริงในโรงงานและชีวิตประจำวัน
- ระบบขนส่งอัจฉริยะ รถไร้คนขับและระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย
จีนไม่ได้แค่ผลิตสินค้าเหล่านี้ แต่ครอบงำทั้งห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป รวมไปถึงตลาดที่มีประชากรมหาศาลที่พร้อมทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์เหล่านั้นทันที
1
3. Soft Power จีนกำลังครอบงำทั่วโลก
การแพร่กระจายของวัฒนธรรมจีน ในขณะที่หลายคนมองว่าอำนาจมาจากการทหารและเศรษฐกิจ แต่จีนกำลังพิสูจน์ว่า Soft Power เป็นอาวุธที่ทรงพลังไม่แพ้กัน
บันเทิงและวัฒนธรรม
- ภาพยนตร์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
- ดนตรี C-Pop กำลังแพร่หลายไปทั่วเอเชียและทั่วโลก
แพลตฟอร์มดิจิทัล
- TikTok (Douyin) แอปพลิเคชันที่มีผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก กำลังเปลี่ยนวิธีที่คนบริโภคเนื้อหา และกำลังรุกเข้าสู่อีคอมเมิร์ซแบบที่นำหน้าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด
แบรนด์ไลฟ์สไตล์
- Pop Mart แบรนด์ของเล่นสะสมที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก รวมไปถึงประเทศทางตะวันตกก็นิยมในสินค้าของ Pop Mart
- เชนร้านชานม แบรนด์ชานมจีน หรือแม้แต่ไอศกรีม soft serve เช่น Mixue เชนที่ขยายไปทั่วโลกด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง มีสาขามากกว่า 20,000 แห่ง
- เชนร้านอาหารจีนสมัยใหม่กำลังเปิดสาขาในเมืองใหญ่ทั่วโลก อย่างเราคนไทยสัมผัสได้ว่าแบรนด์จีนเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อผู้บริโภคชาวไทย และเรื่องแบบนี้กำลังแพร่ขยายไปทั่วโลก
ภาษา การศึกษา และการท่องเที่ยว
การเรียนภาษาจีนกลายเป็นทักษะที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงการท่องเที่ยวในประเทศจีนที่มีจุดเด่นเรื่องการผสมผสานระหว่างสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ วัฒนธรรมดั้งเดิม และความสวยงามของธรรมชาติ
3
บริษัทที่พัฒนาโรงแรมจีนชื่อดังอย่าง H World ก็เติบโตไปกับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศจีน
Trip แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน กำลังขยายไปทั่วโลกแบบที่ทุกคนกำลังจับตามอง
สรุปแล้ว Soft Power ของจีนกำลังทำให้วัฒนธรรมจีนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก โดยที่คนทั่วโลกไม่รู้ตัว
4. พลังชนชั้นกลางจีนสู่ความได้เปรียบของแพลตฟอร์มผู้บริโภค
ตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก จีนมีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน และที่สำคัญคือ ชนชั้นกลางที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ชนชั้นกลางจีนคาดว่าจะมีมากกว่า 550 ล้านคนภายในปี 2030
- กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
- ความต้องการสินค้าและบริการคุณภาพสูงที่เพิ่มขึ้น
การขยายตัวสู่เมืองรอง ไม่ใช่แค่เมืองใหญ่อย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ แต่เมืองรองและเมืองเล็กๆ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วสร้างตลาดใหม่ที่มีศักยภาพมหาศาล เราจะได้เห็นว่ามีเมืองใหม่ของจีนเกิดขึ้นอย่างมากมาย และเมืองเหล่านั้นมีประชากรที่มากกว่าเมืองหลวงของหลายประเทศชั้นนำเสียอีก
แพลตฟอร์มผู้บริโภคชั้นนำที่เกิดจากบริษัทที่จับผู้บริโภคจีนได้ กำลังเติบโตอย่างน่าทึ่ง
- Anta แบรนด์กีฬาที่กำลังแข่งขันกับ Nike และ Adidas
- Meituan แพลตฟอร์ม Super App ที่ให้บริการตั้งแต่สั่งอาหาร จองโรงแรม ไปจนถึงบริการต่างๆ
- Alibaba ไม่เพียงแค่ E-commerce แต่ยังเป็นระบบนิเวศที่ครอบคลุมทุกด้านของชีวิตผู้บริโภค
3
ใครจับผู้บริโภคจีนได้ = ได้เงินมหาศาล
บริษัทที่ประสบความสำเร็จในจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาล:
1
เพราะมี ขนาดตลาดที่ใหญ่มาก ทำให้สามารถลงทุนใน R&D และขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
เพราะมี ข้อมูลผู้บริโภคมหาศาล ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงใจ
เพราะมี ความสามารถในการขยายตัว เมื่อประสบความสำเร็จในจีน การขยายไปยังตลาดอื่นๆ ทำได้ง่ายกว่า
สรุปการขึ้นเป็นมหาอำนาจของจีนในศตรวรรษนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ลงทุนแมนคิดว่าเป็นผลมาจาก 4 เรื่องนี้
1. การลงทุนอย่างมหาศาลในนวัตกรรมและเทคโนโลยี
2. การครอบงำอุตสาหกรรมพลังงานแห่งอนาคต
3. การแพร่กระจายของซอฟต์เพาเวอร์และวัฒนธรรม
4. ตลาดผู้บริโภคภายในที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นี่คือ “ครั้งเดียวในศตวรรษ” ที่เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจโลกอย่างชัดเจน จีนไม่ได้แค่เติบโต แต่กำลังเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของเกมโลก ในทุกมิติ ตั้งแต่เทคโนโลยี พลังงาน วัฒนธรรม ไปจนถึงการบริโภค
คำถามไม่ใช่ว่าจีนจะเป็นมหาอำนาจหรือไม่ แต่คือ โลกจะปรับตัวอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้..
1
ถ้าไม่อยากตกขบวนไปกับ จีน ประเทศมหาอำนาจใหม่ของโลก ไม่พลาดโอกาสการลงทุนครั้งเดียวในศตวรรษนี้ ที่เศรษฐกิจจีนกำลังจะเทียบชั้นสหรัฐอเมริกา ด้วย 2 ธีมการลงทุน MEGA10CHINATECH และ MEGA10CHINAPOP จาก บลจ.ทาลิส ที่กำลังเสนอขายในวันที่ 8 - 15 ตุลาคม นี้
1.กองทุน MEGA10CHINATECH-A เข้าไปลงทุนในบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และ/หรือ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจในธีมเทคโนโลยี (Technology Themes) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange; HKEX) ที่เป็นส่วนประกอบใน Hang Seng Tech Index (HSTECH) และคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุดจากการเรียงลำดับ และสภาพคล่องสูง
*บริษัทที่คาดว่ากองทุน MEGA10CHINATECH-A จะเข้าไปลงทุน เช่น Tencent, Alibaba, BYD, SMIC, Baidu
1
2.กองทุน MEGA10CHINAPOP-A เข้าไปลงทุนในบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้า และ/หรือ ให้บริการ อันเกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทผู้ประกอบการ และ/หรือ เจ้าของตราสินค้า (Brand) และบริการที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นอย่างดีทั้งในประเทศจีนรวมถึงในระดับสากล ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange หรือ HKEX)
โดยจะเลือกลงทุนในตราสารทุนของบริษัทข้างต้นที่ถูกจัดกลุ่มอยู่ในหมวดอุตสาหกรรมสินค้าจำเป็น (Consumer Staples) และสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) และคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุดจากการเรียงลำดับ และสภาพคล่องสูง
*บริษัทที่คาดว่ากองทุน MEGA10CHINAPOP-A จะเข้าไปลงทุน เช่น Pop Mart, Meituan, Nongfu, Trip, Anta, Foshan Haitian, H world, Mixue, Laopu Gold
*บริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการลงทุน ณ ขณะนั้น
ทั้ง 2 กองทุนจะเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total Return) และยังมีกองทุนประเภท RMF ที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ
ซึ่งเป็นกองทุนที่ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนหลักเพียงกองเดียว ที่บริหารจัดการโดยบลจ.ทาลิส ซึ่งกองทุนจะลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน
-กองทุน MEGA10CHINATECHRMF จะลงทุนในกองทุน MEGA10CHINATECH-A (กองทุนหลัก)
-กองทุน MEGA10CHINAPOPRMF จะลงทุนในกองทุน MEGA10CHINAPOP-A (กองทุนหลัก)
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีของกรมสรรพากร
ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลา นอกจากนี้จะต้องชำระเงินเพิ่ม และ/หรือเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร
โฆษณา