8 ต.ค. เวลา 06:33 • ข่าว

ทนายอินเดียหัวร้อน เขวี้ยงรองเท้าปาหัวผู้พิพากษา ฐานดูหมิ่นพระวิษณุ

เป็นมิติใหม่ในห้องพิจารณาคดี ที่นับวันมัแต่จะแปลกขึ้นทุกที จนมาวันนี้แม้แต่บนบัลลังก์ของท่านผู้พิพากษาที่เคารพ ก็หาใช่พื้นที่ปลอดภัยอีกต่อไป
1
โดยเมื่อวันจันทร์ (6 ตุลาคม 2025) ที่ผ่านมา ณ ศาลฎีกากลางกรุงเดลี ของอินเดีย เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อนาย ราเกซ คิชอร์ ทนายความรุ่นเดอะ วัย 72 ปีเกิดอาการหัวร้อนจนเลือดขึ้นหน้า ถึงขนาดถอดรองเท้า หมายเขวี้ยงใส่หัว นาย ภูชาน รัมกฤษณา กาไว (บี.อาร์. กาไว) ประธานศาลฎีกา ยังเคราะห์ดีที่ท่านประธานศาลสูงยังหลบได้ทัน สามารถรักษามงคลขวัญบนศีรษะของตนไว้ได้อย่างหวุดหวิด
เหตุที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในพื้นที่ศาลสถิตย์ยุติธรรมของกรุงเดลี มาจากความไม่พอใจของ ราเกซ คิชอร์ ที่มีต่อตัวประธานศาลสูงคู่กรณี บี.อาร์.กาไว จากการที่เขาได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีการบูรณะรูปเหมือนองค์พระวิษณุ ที่วัดชารวี ในเมืองขจุราโห แคว้นมัธยประเทศ หลังพบว่าเศียรของรูปปั้นนั้นสูญหายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
และได้มีการยื่นคำร้องขอบูรณะรูปปั้นองค์พระวิษณุขึ้นมาใหม่ในทันที เนื่องจากวัดชารวี เป็นวัดขององค์พระวิศณุ และถือเป็นหนึ่งในวัดสำคัญของชาวฮินดู อีกทั้งอยู่ในกลุ่มวัดขจุราโหตะวันออกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ด้วย
แต่ทว่า คณะตุลาการ ที่นำโดย บี.อาร์.กาไว ได้ยกคำร้องคำขอที่จะในศาลอินเดียเข้าแทรกแซงการพิจารณาสร้างรูปปั้นพระวิษณุสูง 7 ฟุตองค์ใหม่ของวัด ที่สร้างความไม่พอใจให้กับชาวฮินดูผู้ศรัทธาจำนวนไม่น้อย
และยิ่งเป็นการราดน้ำมันในกองไฟขึ้นไปอีก เมื่อ ผู้พิพากษา กาไว ได้ออกมาตอบโต้กลุ่มชาวฮินดูขวาจัดที่ออกมาวิจารณ์ศาลในคดีนี้ว่า
1
"แทนที่จะขอร้องศาล น่าจะไปร้องขอต่อองค์เทพท่านให้ทำอะไรสักอย่างสิ ไม่ใช่หน้าที่ของศาลที่จะตัดสินคดีตามใจสาธารณะ หากท่านเป็นผู้ศรัทธาในพระวิษณุอย่างแรงกล้าแล้วหล่ะก็ ท่านควรไปสวดภาวนา และทำสมาธิเสีย หรือ เปลี่ยนไปสักการะวัดพระศิวะที่อยู่ใกล้ๆ ไปพลางๆก่อนก็ได้"
ความเห็นของ ประธานศาลฎีกา จึงถูกวิจารณ์อย่างหนักโดยชาวโซเชียลอินเดีย เข้าข่ายดูหมิ่นศาสนาฮินดู ที่เป็นศาสนาประจำชาติอย่างร้ายแรง ด้วยการเอารูปเคารพที่มีคุณค่าทางโบราณคดีมาล้อเล่น
และตามมาด้วยเหตุการณ์ปารองเท้าเฉียดหัวประธานศาลสูงในห้องพิจารณาคดี โดย ราเกซ คิชอร์ ทนายความผู้เคร่งศาสนา หลังจากเก็บกดความไม่พอใจมาหลายวัน เพื่อจะมาไถ่บาปด้วยบุญเกือกในวันนี้
แน่นอนว่า การกระทำของทนายราเกซ ถือเป็นการดูหมิ่นศาล ผิดทั้งจรรยา และ มารยาททางวิชาชีพทนายอย่างร้ายแรง ทำให้เขาถูกควบคุมตัวออกจากศาลและถูกลงโทษด้วยการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทนายในทันที
แต่ทั้งนี้ ทนายราเกซ กลับตอบนักข่าวออกสื่อชัดเจนว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ในเมื่อประธานศาลสูงสุดของอินเดียบังอาจจาบจ้วง ล้อเลียน "สนาตนะธรรม" อันสูงส่ง นี่คือคำสั่งของพระผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ที่เกิดปฏิกริยาต่อการกระทำของผม"
และทนายวัย 72 ทิ้งท้ายด้วยว่า เขาไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยที่ได้ทำลงไป ชาวฮินดูจะไม่ทนต่อการดูหมิ่นศาสนาของเราในอินเดีย
และแน่นอนว่า ความเห็นของชาวอินเดียแตกออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน โดยกลุ่มที่เห็นแย้ง รวมถึง คามาลติ กาไว มารดาวัย 84 ปีของประธานศาลฎีกา ออกมาประณามการกระทำของทนายราเกซ อย่างรุนแรงว่า ไม่ต่างจากการดูหมิ่นต่อรัฐธรรมนูญ สร้างความโกลาหลให้บ้านเมือง และอินเดียไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน
ในขณะที่กลุ่มชาวฮินดูฝ่ายขวาของอินเดีย ออกมาชื่นชมการกระทำของทนายราเกซอย่างล้นหลามเช่นกัน โดยมองว่า ทนายมือเกือก มีความกล้าหาญที่ปกป้องศาสนาฮินดู-ธรรมะอันสูงส่งเป็นนิรันดร์ของชาวฮินดู และถึงแม้ในอินเดียจะมีกฎหมายลงโทษผู้ที่ดูหมิ่นศาล แต่ก็มีกฎหมายที่ลงโทษผู้ที่ดูหมิ่นศาสนาเช่นเดียวกัน
ด้านสมาคมทนายความออกมาประณามเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นกันว่า เป็นพฤติกรรมที่หยาบคายขัดต่อศักดิ์ศรีของวิชาชีพ และค่านิยมตามรัฐธรรมนูญในเรื่องมารยาท วินัยและความซื่อสัตย์สุจริตของสถาบันตุลาการ
ส่วนตุชาร์ เมห์ตา อัยการสูงสุดของอินเดีย ได้แสดงความเห็นที่น่าสนใจว่าการโจมตีประธานศาลฎีกาในวันนี้ มาจากการปั่นกระแสข้อมูลที่ผิดพลาดบนโซเชียล และเขายืนยันว่าประธานศาลฎีกาไปเยือนศาสนสถานของทุกศาสนาด้วยความเคารพอย่างสูงเสมอ ไม่ได้เป็นผู้ที่มีอคติต่อศาสนาใดๆ อย่างที่ชาวโซเชียลกล่าวหา
ดังนั้นหากท่านเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้าที่แท้จริงหล่ะก็ ควรหมั่นเจริญภาวนา และทำสมาธิ😇
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา