Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
8 ต.ค. เวลา 15:17
สรุป 10 บริษัทยักษ์ เทคโนโลยีจีน ที่อยู่ใน MEGA10CHINATECH ที่กำลัง IPO
1. Tencent ระบบนิเวศเทคโนโลยีอันดับ 1 ในจีน
Tencent ครองตำแหน่งผู้นำด้านโซเชียลมีเดีย เกม และ FinTech ของจีน ด้วย WeChat ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 1.3 พันล้านคน และ WeChat Pay ที่ครองส่วนแบ่งตลาดการชำระเงินดิจิทัลในจีนกว่า 40%
ในตลาดเกม Tencent ผลิตรายได้สูงสุดในโลกกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Epic Games, Riot Games และบริษัทเกมชั้นนำอีกหลายแห่ง สร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม
2. Alibaba ผู้ครองอาณาจักร E-commerce, Cloud และ AI
Alibaba ผู้บุกเบิก E-commerce จีนที่ครอง ส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกออนไลน์ในจีนกว่า 47% ผ่านแพลตฟอร์ม Taobao และ Tmall ที่มีผู้ใช้งานกว่า 900 ล้านคน และสร้างยอดขาย GMV มากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
Alibaba Cloud เป็นผู้ให้บริการคลาวด์อันดับ 1 ในเอเชีย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 38% ในจีน และอันดับ 4 ของโลก รองจาก AWS, Azure และ Google Cloud พร้อมรายได้จาก Cloud ที่เติบโต 20% ต่อปี
ด้าน AI บริษัทได้เปิดตัว Qwen (Tongyi Qianwen) โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่มีความสามารถแข่งขันกับ GPT และ Claude โดย Qwen 2.5 รองรับ 29 ภาษา พร้อมเปิดให้ใช้งานแบบ open-source ทำให้ Alibaba กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในสงคราม AI โลก นอกจากนี้ยังมี Alipay ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคน และครองส่วนแบ่งตลาดชำระเงินดิจิทัลในจีนกว่า 55%
3. Baidu บริษัท Google ของจีนและผู้นำ AI + Autonomous Driving
Baidu ครองตลาดเสิร์ชเอนจิ้นในจีน 70% ด้วยผู้ใช้งาน 600 ล้านคนต่อเดือน และกำลังปรับตัวเป็นผู้นำด้าน AI อย่างจริงจัง
โมเดล AI ERNIE Bot มีผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านคน และแข่งขันโดยตรงกับ ChatGPT ในตลาดจีน ด้าน Autonomous Driving บริษัทมี Apollo Go แพลตฟอร์มรถยนต์ไร้คนขับที่ให้บริการแล้วกว่า 6 ล้านเที่ยว ใน 11 เมืองในจีน พร้อมเป้าหมายขยายเป็น 100 เมืองภายในปี 2030 Baidu ลงทุนด้าน AI และ Autonomous Driving มากกว่า 20% ของรายได้ทำให้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเทคโนโลยีอนาคต
4. BYD ราชาแห่ง EV ที่แซง Tesla ในจีน
BYD กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Tesla บริษัทครอง ส่วนแบ่งตลาด EV ในจีน 32% และส่งออกไปกว่า 70 ประเทศทั่วโลก จุดแข็งคือการผลิตแบตเตอรี่เอง (Blade Battery) ที่ปลอดภัยกว่าและถูกกว่าคู่แข่ง
BYD ไม่ได้มีเพียงรถยนต์ แต่ยังผลิตระบบขนส่งสาธารณะไฟฟ้า รถบัส รถรางไฟฟ้า และกำลังขยายสู่ตลาดยุโรปและอเมริกาใต้อย่างก้าวกระโดด ทำให้เป็นบริษัทที่น่าจับตามองที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์
5. JD คู่แข่ง Alibaba ที่แกร่งด้วยโลจิสติกส์
JD เป็นแพลตฟอร์ม E-commerce อันดับ 2 ของจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาดประมาณ 17% และมีผู้ใช้งาน 580 ล้านคน จุดเด่นคือระบบโลจิสติกส์ที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง
JD Logistics บริหารคลังสินค้า 1,600 แห่ง ด้วยพนักงานส่งของตัวเอง 400,000 คน ทำให้สามารถส่งของได้ภายใน 24 ชั่วโมงในเมืองใหญ่ และหุ่นยนต์ส่งของและโดรนในพื้นที่ห่างไกล
บริษัทกำลังขยายธุรกิจด้าน B2B, สุขภาพ และเทคโนโลยี supply chain ด้วย AI และระบบอัตโนมัติ ทำให้เป็นคู่แข่งสำคัญของ Alibaba
6. NetEase จักรวรรดิเกมและดนตรีออนไลน์
NetEase เป็นบริษัทเกมอันดับ 2 ของจีนรองจาก Tencent ด้วยรายได้จากเกมกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และครอง ส่วนแบ่งตลาดเกมมือถือในจีน 15% ด้วยเกมดังอย่าง Onmyoji, Identity V และ Knives Out
นอกจากนี้ NetEase Cloud Music เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงอันดับ 2 ของจีน มีผู้ใช้งาน 200 ล้านคน และครอง ส่วนแบ่งตลาด 15% รองจาก Tencent Music จุดเด่นคือระบบแนะนำเพลงด้วย AI และชุมชนที่แข็งแกร่ง
บริษัทยังลงทุนใน e-commerce การศึกษาออนไลน์ และ AI ทำให้เป็นผู้เล่นหลากหลายสายธุรกิจที่มั่นคง
7. Midea ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ครองโลก
Midea Group เป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบ HVAC (การทำความร้อน การระบายอากาศ และการปรับอากาศ) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครองส่วนแบ่งตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโลก 9%
บริษัทผลิตสินค้ากว่า 200 ล้านชิ้นต่อปี ส่งออกไปกว่า 200 ประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ไปจนถึงระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม (KUKA Robotics)
Midea ลงทุนด้าน สมาร์ตโฮมและ IoT อย่างหนัก มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกว่า 400 ล้านชิ้น และเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI-powered appliances ทำให้เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ
8. Meituan เจ้าของ Super App แห่งชีวิตประจำวันของคนจีน
Meituan คือ Super App ที่ใหญ่ที่สุดในจีนด้านบริการในชีวิตประจำวัน ด้วยผู้ใช้งาน 680 ล้านคน และครองส่วนแบ่ง 67% ของตลาดฟู้ดดิลิเวอรีในจีน
บริษัทไม่ได้มีเพียงฟู้ดดิลิเวอรี แต่ยังครอบคลุมการจองโรงแรม ตั๋วหนัง บริการนวด ร้านอาหาร และ Bike-sharing และขยายธุรกิจสู่ Community Group Buying และ Autonomous Delivery ด้วยหุ่นยนต์ส่งอาหารกว่า 100,000 ตัว
Meituan เป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจแบบ O2O (Online-to-Offline) ที่ขับเคลื่อนชีวิตประจำวันของคนจีน
9. Xiaomi จากผู้ที่ทำทุกอย่างตั้งแต่ไม่จิ้มฟัน ยันรถ EV
จากแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ครอง ส่วนแบ่งตลาดโลกอันดับ 3 ที่ 14% Xiaomi ได้ก้าวสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสวยงาม ด้วยยอดจองรถรุ่น SU7 ที่ ทะลุ 100,000 คันภายใน 24 ชั่วโมงแรก
บริษัทมีระบบนิเวศ IoT ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 655 ล้านเครื่องทั่วโลก และกำลังเติบโตในตลาด EV จีนที่ทำให้ Xiaomi กลายเป็นผู้เล่นสำคัญระดับโลก
10. SMIC เจ้าตลาดชิปจีนที่เติบโตระเบิด ที่รัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่
SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corporation) คือผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาดในจีน 20% และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีท่ามกลางข้อจำกัดจากสหรัฐฯ
รัฐบาลจีนสนับสนุนด้วยการลงทุนมหาศาล เพื่อให้ประเทศมีความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี ทำให้ SMIC จึงเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันเทคโนโลยีระหว่างมหาอำนาจ
ทั้ง 10 บริษัทนี้ไม่ได้เป็นเพียงยักษ์ใหญ่ในจีน แต่กำลังสร้างอิทธิพลที่เปลี่ยนแปลงตลาดโลกอย่างแท้จริง จากโซเชียลมีเดีย E-commerce คลาวด์ AI เกม รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ฟู้ดดิลิเวอรี ไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์ ที่จะกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีโลกในทศวรรษหน้า
ถ้าไม่อยากตกขบวนไปกับ จีน ประเทศมหาอำนาจใหม่ของโลก ไม่พลาดโอกาสการลงทุนครั้งเดียวในศตวรรษนี้ ที่เศรษฐกิจจีนกำลังจะเทียบชั้นสหรัฐอเมริกา ด้วยธีมการลงทุน MEGA10CHINATECH จาก บลจ.ทาลิส ที่กำลังเสนอขายในวันที่ 8 - 15 ตุลาคม นี้
กองทุน MEGA10CHINATECH-A เข้าไปลงทุนในบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และ/หรือ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจในธีมเทคโนโลยี (Technology Themes) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Hong Kong Stock Exchange; HKEX) ที่เป็นส่วนประกอบใน Hang Seng Tech Index (HSTECH) และคัดเลือกจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุดจากการเรียงลำดับ และสภาพคล่องสูง
บริษัทที่คาดว่ากองทุน MEGA10CHINATECH-A จะเข้าไปลงทุน ได้แก่ Tencent, Alibaba, Baidu, BYD, JD, NetEase, Midea, Meituan, Xiaomi, SMIC
*บริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการลงทุน ณ ขณะนั้น
กองทุนจะเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total Return) และยังมีกองทุนประเภท RMF ที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนหลักเพียงกองเดียว ที่บริหารจัดการโดยบลจ.ทาลิส ซึ่งกองทุนจะลงทุนในกองทุนหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน
กองทุน MEGA10CHINATECHRMF จะลงทุนในกองทุน MEGA10CHINATECH-A (กองทุนหลัก)
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีของกรมสรรพากร
ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลา นอกจากนี้จะต้องชำระเงินเพิ่ม และ/หรือเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร
46 บันทึก
40
59
46
40
59
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย