14 ต.ค. เวลา 14:44 • บ้าน & สวน

Hydroponics Farm and Technology

สัปดาห์ที่ 121 บังเอิญไฟดับ ปั้มเสียไม่สูบน้ำๆ เข้ารางไม่ได้ “ตายยังเขียด” 😪 ที่เขามักเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ผักตายยกราง” โดยเฉพาะระบบการปลูกผักแบบ NFT (Nutrient Film Technique).....
“กุก กุก” เสียงดังอยู่บนหลังคา Farm ผมชะโงกหน้ามองดูเห็นนกเขา 2 ตัวกำลังส่งเสียงประหนึ่งกำลังสนทนากัน ผมมองไม่ออกว่านกเขานั้นจะเป็นเพศผู้ หรือเพศเมีย เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ในการเลี้ยงนกเขาแต่ดูลักษณะแล้วคาดเดาเอาเองว่าน่าจะเป็นนกเขาชวาพึ่งคงมาอาศัยอยู่ได้ไม่นาน
เสียงที่ดังพัดผ่านตามสายลมทางช่องทางเดินของตัวบ้านกลับเรียกเจ้าแมวเหลือง🐈 ที่ดูงุ่นง่ามพยายามที่จะมาปีนป่ายหลังคา Farm ไปหาคู่นก นกเขาเหมือนจะรู้รีบชวนกันบินหนีไป เป็นประสบการณ์ของยามเช้าเล็กๆ น้อยๆ ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป ส่วนผมยังมีภาระกิจที่ต้องทำต่อไปภายใน Farm เสมือนหนึ่งถูกมัดมือชกไม่อาจจะปฏิเสธได้ “ทำมาถึงขนาดนี้ก็ต้องทำต่อไป Having made it this far, we must continue.” 😄😄😄 ผมคิด:
สัปดาห์นี้คงต้องใช้เวลาอยู่หลายวันพอสมควร เนื่องจากเป็นระบบที่ต้องจัดการน้ำที่อยู่ในถังให้ไหลเวียนไปเข้ารางในการส่งเสริมให้พืชได้รับสารอาหารมองดูแล้วไม่น่าที่จะมีอะไร มีถังใส่น้ำใบหนึ่ง เอาปั้มน้ำมาติด เสียบไฟ น้ำเข้ารางก็จบ...ก็จบจริงๆ 😄😄😄 จบแบบลูกทุ่ง
บังเอิญไฟดับ ปั้มเสียไม่สูบน้ำๆ เข้ารางไม่ได้ “ตายยังเขียด” 😪 ที่เขามักเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ผักตายยกราง” โดยเฉพาะระบบการปลูกผักแบบ NFT (Nutrient Film Technique) ที่อาศัยสารละลายธาตุอาหารไปหล่อเลี้ยงในการปลูกพืชแบบ ไฮโดรโปรนิกส์ลองคิดตามกันไปก็พอที่จะมองเห็นภาพว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นถ้าไม่มีน้ำที่มีธาตุอาหารไปหล่อเลี้ยงพืชในรางปลูก
หลายเดือนที่ผ่านมาพอมีเวลาในวันศุกร์และวันเสาร์ หรือเวลาว่างที่มีอยู่อย่างน้อยนิด ผมมักจะทบทวนเพื่อเตรียมแผนงานที่จะจัดการกับ Farm ในทุกมิติ เพื่อนำเทคโนโลยี IOT มาช่วยแก้ปัญหาด้านการเกษตรแบบไฮโดรโปรนิกส์ที่ใช้งบประมาณไม่มากนัก
ระบบงานที่ผ่านมาจากสัปดาห์ที่แล้ว “IOT Control Temperature” หลักใหญ่ๆ จะต้องทำทั้งด้าน Hardware และ Software รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ที่จะมาร่วมใช้งานเฉกเช่นเดียวกับระบบ IOT Control Flow Water ที่จะนำมาติดตั้งภายใน Farm เป็นความท้าทายที่สูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ที่อาจทำให้นอนไม่หลับไปหลายคืน 😄😄😄
ก่อนอื่นผมเข้า Farm ไปจัดการถังใส่น้ำขนาดประมาณ 60 ลิตร สีดำที่มีของเดิมอยู่แล้วยกถังเปล่าไปวางไว้ใต้ฝาปิดท้ายรางทั้งสองชุดๆ [ชุดหนึ่งมีรางปลูกอยู่สี่เส้น] ผมวางไว้แบ่งครึ่งให้อยู่กึ่งกลางกันพอดี โดยกะดูด้วยสายตาไม่ได้วัดด้วยตลับเมตร แต่ก็ตรงพอดีอยู่นะครับ😁
ที่ฝาปิดท้ายรางมีรูระบายน้ำไหลกลับไปลงถังทั้งสองเส้น ผมนำเอาท่อน้ำขนาดครึ่งนิ้วมาต่อโดยกะระยะให้ลงถึงพอดีทั้งสองเส้นนำเอาท่อ Venturi มาต่อเสริมเพื่อให้ช่วยผลิตออกซิเจนในน้ำแบบธรรมชาติโดยอาศัยแรงน้ำที่ไหลผ่านท่อและดึงอากาศมาผสมกันทำให้เกิดออกซิเจนในน้ำได้
แต่พอทดสอบดูแล้วออกซิเจนไม่ได้มีมากมายอะไรพอมีฟองผุดออกมาตามแรงน้ำถ้าจะให้มีมากก็ต้องใส่ปั้มน้ำลงไป โถ่! ผมอุทาน: 😲 สู้เอาปั้มออกซิเจนปลามาใส่เลยตรงๆ จะดีกว่า 😄😄😄 แต่เปลืองไฟ อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด เสียเวลาดีกว่าเสียเงินหาวิธีใหม่ดีกว่า
ทดสอบลองผิดลองถูกอยู่หลายวัน "บิงโก“ ดีใจ 😊 เหมือนชัยชนะสมัยเด็กๆ ที่เคยเล่นเกมใครบิงโกก่อนคนนั้นชนะ ผมผยักหน้าแบบพอรับได้ในผลที่ออกมาฟองน้ำผุดออกมาอย่างมากมายในขณะที่น้ำไหลจากรางลงถังทั้งสองเส้นฟองอากาศถูกเติมลงในน้ำจากท่อกาศที่ต่อไว้ก่อนที่น้ำจะไหลกลับลงไปในถัง
ถ้าฟองอากาศมากเกินไปผมก็ปิดวาลว์ด้านบนด้วยฝาอุดท่อน้ำแบบเกลียวเจาะรูไว้เล็กๆ พอให้อากาศผ่านไปได้แต่ถ้าต้องการให้มีอากาศมากผมก็เอาฝาอุดออกปล่อยให้เป็นอิสระเท่านี้ผมก็ได้การเติมออกซิเจนแบบธรรมชาติ 👍
สร้างอีอกซิเจนในถังน้ำแบบธรรมชาติ
ในถังน้ำผมใส่ปั้มน้ำตัวแรกเป็นปั้มน้ำตู้ปลา SONIC AP-5000 กำลังปั้มขนาด 2700L/h ซึ่งพอเพียงต่อการนำน้ำไปใช้ในรางทั้ง 2 ชุดจำนวนทั้งหมด 8 ราง โดยทำการเปิดวาลว์แต่ละชุดกะดูให้น้ำไหลพอประมาณทั้ง 8 วาลว์ให้เท่าๆ กัน เป็นเรื่องไม่ยากนักแต่ก็ต้องเดินไปเดินมาอยู่หลายรอบเพื่อปรับสมดุลย์การไหลของน้ำกับการเติมอ๊อกซิเจนให้เหมาะสมถึงแม้นจะเดินไปมาอยู่หลายรอบก็ไม่เวียนหัวแต่เมื่อยน่อง 😁 เย็นนี้ต้องมีนวด
สำหรับปลั๊กไฟของปั้มน้ำตัวแรกผมให้เป็นปั้มหลักเพื่อใช้ในการดูดน้ำเติมรางเป็นแบบไฟ AC 220 V ติดตั้งไว้ให้ทำงานแบบ 24/7 ไม่มีพักเสมือนการเลี้ยงปลาในตู้ที่ต้องปล่อยอ๊อกซิเจนอยู่ตลอดเวลา สำหรับการปลูกผักแบบรางแล้วก็ต้องปล่อยให้น้ำไหล 24/7 เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามผมก็ต้องวางแผนสำหรับปั้มน้ำสำรองไว้เหมือนกันมิฉะนั้นถ้าปั้มหยุดทำงานมีหวังตายยกราง 😄😄😄
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินดูน้ำในถังความคิดแวบหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่หัวสมองอันน้อยนิด ถ้าน้ำกำลังจะหมดถังถึงแล้วออกไปทำธุระข้างนอกหรือไปต่างจังหวัด 2-3 วันจะรู้ได้อย่างไร ❓
ถ้าน้ำแห้งลงไปเกือบหมดถังขึ้นมาปั้มน้ำจะเสียหายได้และอาจเกิดอัตรายในเรื่องของไฟฟ้า สำหรับผักในรางแล้วถ้าปั้มน้ำไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงเข้ารางผักจะตายยังเดียว 😔 ต้องหาวิธีแบบง่ายๆ ตามสไตล์ DIY ยังไม่ถึงขั้นต้องนำเอา IOT มาใช้งาน
หลังจาก สะเด็ดความคิด [Clear out your thoughts] แล้ว ผมเดินไปที่กอง โดเร่ม่อนมองซ้ายมองขวาแลเห็นพลาสติกกระบวยตักน้ำที่มีด้ามเป็นพลาสติกยาวประมาณศอกหนึ่งลักษณะของด้ามกระบวยจะเป็นทรงคล้ายท่อน้ำแต่เป็นพลาสติกบางกว่าปลายด้านหนึ่งตันส่วนปลายอีกด้านหนึ่งเจาะรูไว้ทำที่แขวน ตอนที่ยังดีๆ อยู่ซื้อมา 20 บาทไว้ตักน้ำใช้อยู่พักหนึ่งตัวกระบวยตักแตกส่วนด้ามยังอยู่ “ได้การละเอาด้ามกระบวยมาใช้งานทำเป็นแท่งวัดน้ำดีกว่า” ผมคิด: 😄😄😄
นำด้ามกระตักน้ำดัดแปลงมาเป็นที่วัดระดับน้ำ
แท่งกระบวยจะทรงตัวอยู่ในน้ำได้อย่างไร ❓
เป็นโจทย์ที่ต้องหาอุปกรณ์มาเสริมผมไปเอาท่อพลาสติกท่อนหนึ่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 นิ้วมาเป็นตัวประคองและใช้ขายึดท่อเจาะไว้กับข้างในถังน้ำ
ส่วนระดับน้ำแค่ไหนนั้นได้ใช้การวัดและขีดเส้นบอกระดับไว้จำนวน 20 30 40 ลิตรตามลำดับ เผื่อไว้เป็นจุดสังเกตหากน้ำอยู่ที่ระดับ 40 ก็บอกได้ว่าน้ำยังเต็มระดับ ถ้าอยู่ 30 ก็ประมาณกลาง ๆ แต่ถ้าลดลงเหลือ 20 เริ่มถึงจุดอันตรายแล้วต้องรีบเติมน้ำด่วน
สำหรับปลายด้านบนของกระบวยที่เป็นรูปคล้ายหัวใจสีแดง [ของเดิมเป็นตัวบิดของเข็มขัดรัดท่อ] นำมาติดไว้ที่ปลายบนสุดเพื่อเป็นจุดสังเกตโดยมองผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ก่อนหน้านี้
ถ้าหัวใจลดลงมาถึงขอบพลาสติกเมื่อไหร่ต้องรีบจัดการเรื่องน้ำในถังง่ายๆ แบบนี้ที่ทำอยู่ 😄😄😄 ส่วนจะนำ IOT มาวัดระดับน้ำเมื่อไหร่คงต้องเป็นตัวเลือกของการพัฒนาในลำดับต่อไป สำหรับ 2 -3 วันที่ผ่านมาคงได้งานวางรางและติดตั้งอุปกรณ์ส่งน้ำให้กับรางแบบ 24/7 และคงต้องพักการเข้า Farm ไปทำงานอื่นก่อนโดยเฉพาะงานด้าน IOT Control Flow Water ที่ต้องเขียน Code เพื่อนำมาใช้งานใน Farm ต่อไป
อีกหลายวันผ่านมาซึ่งข้ามสัปดาห์ไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหน มั่วแต่ร้องไห้อยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ 🖥️ น้ำตาที่ไหลออกมาเต็มดวงตาทั้งสองข้าง 🥺 ไม่ได้บ่งบอกถึงการเสียอกเสียใจแต่อย่างใดเป็นเพราะแสบตาที่นั่งอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวันต่อสัปดาห์ เพื่อพัฒนา code และจัดการระบบในการตรวจสอบน้ำเข้ารางก่อนเป็นอันดับแรก
code ข้ามวัน ข้ามคืน ❗
ในเบื้องต้นผมจะต้องวางแผนการออกแบบระบบและเขียน code ให้กับอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมการตรวจสอบและการที่น้ำหยุดไหลในการป้อนน้ำเข้าราง ในส่วนของงานด้านอุปกรณ์ Hardware ผมเลือกใช้ NodeMcu ESP8266 มาเป็นแกนกลางของระบบเสมือนเป็นสมองคล้ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อสั่งงานพร้อมกับได้นำเซ็นเซอร์วัดอัตราการไหลของน้ำ YF-S201 Water Flow Sensor และ Module Relay แบบ 1 ช่อง 5 V พร้อม Adapter จ่ายไฟ 12 V
อุปกรณ์ครบพร้อมที่จะทำงานในส่วนของ coding เพื่อเขียนชุดคำสั่งให้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานตามที่เราต้องการเขียน Code สำหรับส่วนไหนติดขัดก็ต้องหาวิธีการแก้ไข
บางชุดบางคำสั่งของ Code ต้องแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ได้งานตามที่ต้องการ ในการ coding ชุดแรกผมต้องการให้ระบบได้ตรวจสอบเช็ดการไหลของน้ำในรางโดยแสดงให้เห็นอัตราการไหลของน้ำ L/h เป็นตัวเลข
และเมื่อน้ำหยุดไหลต้องแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานผ่านมือถือ 📱 ให้ทราบ โดยอาศัยโปรแกรมในการทำงาน Arduino IDE เขียน code เสร็จผ่านการ “Verify” ไม่ผ่าน 😄😄😄 กลับไปแก้ไขใหม่ วนเวียนอยู่อย่างนี้เช้าจรดเย็นๆ จรดค่ำ มีบางวันเลย 24 นาฬิการ 🕛 เข้าสู่วันใหม่ “ไม่เสร็จ ไม่เลิก ไม่ท้อถอย” เป็นหลักยึดของการพัฒนา Code ของผมเพื่อให้ได้งานตามต้องการ
หลายวันแล้วที่หมกหมุ่นอยู่กับการเขียน Code บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ 🖥️ ❗
สี่วันผ่านมาแล้วเลยหยุดพักส่องกระจกแทนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หนวดเคราเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้า ดวงตาดูคล้ำไปบ้างคล้ายนกฮู 🦉 ผลพ่วงของการไม่ยอมพักมุ่งแต่จะเอาชนะให้ได้ “ต้องหยุดพักจริงๆ” ผมยืนยัน:
เพื่อทำการ Reset สมองให้ปลอดโปร่งเพื่อเริ่มต้นเขียน code ใหม่ ถัดมาอีกสองวันหลังที่ได้พักผ่อนโดยไม่จับคอมพิวเตอร์เลย ได้ผลหลังจากลงมือทำ coding ใหม่คราวนี้ Verify ผ่านได้ค่าตามต้องการ “เฮ้อ...ได้สักที” ผมถอนหายใจออกจนรู้สึกได้ ”มันต้องอย่างนี้” ผมพูด: ออกมาด้วยความดีใจที่ได้ทำสำเร็จ
จากนั้นจึงไปทำในส่วนของ UI (User Interface) ที่ให้ใช้งานได้บนมือถือ 📱 โดยผ่าน Blynk App ออกแบบให้ดูใช้งานง่าย สวยงาม และเข้าถึงข้อมูลได้อย่างแม่นยำทำเฉพาะส่วนนี้ก่อนรายการคำสั่งอื่นๆ ค่อยว่ากัน
เช้าวันใหม่ในสัปดาห์ผมหอบอุปกรณ์ทั้งหมดเข้า Farm ❗
เพื่อทดสอบ Code ที่ผมได้ทำไว้ อุปกรณ์ถูกต่อเข้ากับระบบภายในของกล่องกันน้ำฝาใสที่มีปลั๊กไฟติดตั้งไว้พร้อมใช้งานได้ทันที ผมนำเอาอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันและทำการเชื่อมต่อสายไปยังอุปกรณ์เหล่านั้นจ่ายไฟเข้า NodeMcu ESP8266 ไฟเข้าไม่มีปัญหาสังเกตได้จากไฟสีฟ้าที่อยู่บนตัวบอร์ด และไฟที่ Relay ติดพร้อมใช้งาน
ส่วน YF-S201 Water Flow Sensor อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่มีไฟแสดงสถานะการทำงานต้องดูจากโทรศัพท์มือถือที่ผมใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่อร่วมกันยังไม่แสดงค่าอะไรมากมายนักเพราะยังไม่ต่อจริงแบบสมบูรณ์แค่ Test ว่าอุปกรณ์พร้อมที่จะใช้งานหรือไม่
ทดสอบระบบและติดตั้งตัววัด น้ำ YF-S201 Water Flow Sensor
ช่วงบ่ายในวันเดียวกันหลังจากอาหารมื้อกลางวันและดื่มกาแฟถ้วยโปรดพลังงานของร่างการและสมองพร้อมที่จะทำงานต่อ ก่อนอื่นเลยผมต้องจัดการกับ YF-S201 Water Flow Sensor ที่นำมาใช้ในการวัดอัตราการไหลของน้ำ
ผมนำท่อน้ำมา 2 ท่อนเพื่อที่จะใช้ต่อกับตัว Sensor และพันเทปเกลียวทั้งสองด้านนำไปติดตั้งไว้ที่ตัวท่อน้ำประปาขนาด 4หุน [1/2นิ้ว] ส่วนที่เป็นสายไฟและสายสัญญาณตรงช่วงข้อต่อผมนำตะกั่วหลอด แบบเหลวไม่ต้องใช้ความร้อนมาใส่ปิดไว้เวลาแห้งแล้วจะเป็นฉนวนกันน้ำได้
ใช้ท่อหดสวมทับสายไฟอีกชั้น ❗
เพื่อป้องกันสายไฟชำรุดและอาจต้องโดนละอองน้ำโดยตรงหรือทางอ้อมผมนำเอาท่อหดใส่ไว้เริ่มตั้งแต่ที่ผมเอาตะกั่วเหลวหยอดเอาไว้กันน้ำมาจนถึงตัวปลั๊กไฟความยาวประมาณเกือบหนึ่งเมตร และใช้ลมเป่าความร้อนที่ท่อหดเมื่อท่อหดโดนความร้อนพลาสติกของท่อหดก็จะรัดเข้ากับสายไฟ
ส่วนปลายท่อประปาที่มีขนาด 4 หุน ด้านหนึ่งผมต่อไว้กับรางน้ำย้อนกลับลงถัง อีกด้านหนึ่งนำลงบนถังน้ำ การวางท่อน้ำที่มี Sensor จะต้องวางให้ถูกต้องๆ ดูที่ลูกศรบอกทิศทางบนตัว Sensor จึงจะถูกต้องอย่าใส่กลับกัน จากนั้นก็วางรางเดินสายไฟไปยังตัวควบคุม Control อุปกรณ์ที่ได้เขียน Code ไว้บนบอร์ดของ NodeMcu Esp8266
ถึงเวลา Test ❗
เปิดไฟเข้าปั้มๆ ทำงานส่งน้ำเข้าไปยังรางปลูกผักเสียงน้ำที่ย้อนกลับจากรางตกมาในถังพักน้ำเสียงน้ำไหลเหมือนน้ำตกทั่วไปแต่ไม่ดังมากนักฟังดูแล้วก็เพลินอยู่เหมือนกัน 😄😄😄 พร้อมกับตัวเลขที่บอกอัตราการไหลของน้ำปรากฏบนมือถือ Android ตัวเลขวิ่งขึ้นวิ่งลง
ผมเดินไปสำรวจก๊อกปล่อยน้ำที่อยู่บนหัวรางปรับให้น้ำไหลเท่าๆ กันทั้ง 8 หัวจ่าย เดินไปเดินมาหลายรอบชัดเวียนหัว 😵‍💫 ดูตัวเลขของ Sensor ไปด้วยค่าความเหมาะสมที่ตั้งไว้อยู่ประมาณ 400 – 430 L/h เป็นค่าที่ผมเลือกใช้ [จำค่านี้ไว้ค่านี้จะมีความสำคัญในตอนต่อไป]
ติดตั้งระบบและทำการทดสอบ TEST การทำงานของระบบ
หลังจากปรับค่าจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงทดสอบการปิดปั้มน้ำได้ผลตัวเลขเริ่มถอยลงเรื่อยๆ ไปจนถึงระดับ 0 [เลขศูนย์] สัญญาณบนมือถือ 📱 ดังขึ้นพร้อมกับข้อความ “ระบบน้ำมีปัญหา ! ตรวจสอบทันที” เป็นข้อความแจ้งเตือนผู้ใช้งานถึงความผิดปกติของปั้มน้ำซึ่งอาจเสียหรือไฟฟ้าดับก็เป็นได้ก็ต้องรีบไปดูและแก้ไข
ถ้าเป็นเหตุบังเอิญเราไม่ได้อยู่ใน Farm และไม่มีใครโทรมาบอกเป็นเวลาสักครึ่งวัน ลองนึกภาพดูผักคง “ตุย” ทั้งราง 😪 ผมลองทิ้งเวลาไว้ทุกๆ 1 นาที ก็จะแจ้งเตือนผมอยู่เรื่อยเพราะระบบขยันแจ้งเตือนๆ จนกว่าแบตจะหมด 😄😄😄
ไม่ได้การแล้วต้องเขียน Code ปรับการตั้งแจ้งเตือนตามที่ผู้ใช้ต้องการดีกว่า วันนี้ได้แค่นี้ถือว่าเยี่ยมแล้ว 👍 จากนั้นลองเปิด/ปิดไฟเข้าปั้มน้ำ Sensor วิ่งทำงานจนน้ำเดินมาถึงเลข 400 – 430 ระบบก็แสดงเลขปกติ 🆗
ที่เหลือเอาไว้ต่อเติมเสิรมแต่งในคราวหน้าเพิ่มเติมส่วนสำคัญๆ ต่างที่จะให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการไหลของน้ำบนรางได้อย่างเป็นมิติและข้อสำคัญไม่ต้องมานั่งเฝ้ารางผักตลอดทั้งวันปล่อยให้ระบบทำหน้าที่ของมันอย่างนี้จึงจะเรียกว่า ระบบ IoT (Internet of Things) แล้วไว้พบกันใหม่ในคราวหน้า วันนนี้ลาไปก่อน สวัสดดีครับ 🙏
อย่าปล่อยให้ความคิดที่สวยงามติดอยู่ในหัว
จงผลักมันออกมาเป็นโค้ด
เพราะมูลค่าที่แท้จริง อยู่ที่ฟังก์ชันที่ใช้งานได้
Don't let beautiful ideas get stuck in your head,
push them into code,
because the real value lies in the functionality they provide
🔊 ถ้าชอบกด like (React)
ถ้าใช่กด Share ร่วมแชร์ประสบการณ์ (Comment) หรือ Line ID :
โฆษณา