ช่วงนี้ต้อง✅✅✅บวกคะแนนให้CRWVที่ขยันเข้าซื้อกิจการมาลดต้นทุนกว่า40%
Business model อ่อน มีภาวะพึ่งพิงสูงอำนาจต่อรองต่ำ
แต่ถ้าดูดีๆก็เหมือนมีการปิดจุดอ่อนไว้แล้ว โดยการpartner กับรายใหญ่สร้างBacklog และยังการันตีรายได้จาก Nvidia เองถึง6Billion
กำไรชนะค่าเสื่อมกี่โมง???
CRWV และ Nebius ต่างลุ้นAdjusted EBITDA(core) ปิดบวก
รวมถึงในอีก1-2ปีข้างหน้าเมื่อCapEx ต่อรายได้ลดลง
ตลาดอาจย่อตัวจะเปลี่ยนจากความคาดหวังในBacklog
เป็นเล่นตามงบการเงินตัวจริง ลุ้นงบพลิกEBITเป็นบวก นั่นหมายความว่า กำไรได้ชนะค่าเสื่อมไปเรียบร้อยแล้ว
แต่แน่นอนว่าต้องใช้เวลาอีก1-2ปี ตามoutlook แต่นับเป็นสัญญาณที่ดี
ช่วงนี้ต้อง+++บวกคะแนนให้CRWVที่ขยันเข้าซื้อกิจการมาลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำ
และมีEBITDA margin ที่สูงกว่า50-60% และพยายามลดดอกเบี้ย
(nebiusคาดEBITDA margin 30%)
CRWV ซื้อกิจการ OpenPipe เพื่อลดต้นทุน H100 40% เร็วขึ้น 1.4 เท่า ผ่าน RL toolkit; ขยายลูกค้า 15% ใน Q4 2025
ซื้อ Weights & Biases ลดเวลา AI dev 25-35% error 15%; เพิ่มรายได้ 30% ใน 2026 จาก workflow tools
ซื้อMonolith: ขยายสู่อุตสาหกรรมวิศวกรรม/การผลิต ด้วยแพลตฟอร์มที่ฝัง ML ในเวิร์กโฟลว์ ลดการทดสอบทางPhysical กายภาพ เร่ง R&D และออกแบบผลิตภัณฑ์ไวขึ้น เหมาะกับยานยนต์ อากาศยาน และโรงงาน เพิ่มความเหนียวแน่นของฐานลูกค้าเชิงอุตสาหกรรม
แต่Nbis ผมมองว่า Financial และ Devแข็งกว่ามาก
ในเรื่องการระดมทุนที่
ได้ดอกเบี้ยต่ำกว่า
สร้างแต้มต่ออัตราต่อรอง
การจัดการค่าไฟที่ถูกกว่า
การบุกตลาด EUซึ่งคู่แข่งน้อยกว่า
การใช้พลังงานสะอาด
รวมถึงมีทีมDevที่อาจตามมาจาก Yandex
ยังมีน้องใหม่อย่างIRENที่ประกาศเป้ากำลังขยายไว้สูง แต่market capเล็กกว่าครึ่ง
ต้องลองดูกันครับ
ส่วนตัวผมall in Nbisไปแล้ว
Position sizeโตขึ้นมาก
เกินกว่าใจจะรับได้
ขอdiversification ก่อนครับช่วงนี้
แพงแล้วแพงอีกดูก่อนว่าใครถือหุ้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
