Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนเกิร์ล
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
วันนี้ เวลา 02:30 • ธุรกิจ
Friendship Funds เทรนด์เปิดบัญชีคู่ร่วมกับเพื่อนซี้ ช่วยกันออมเงินไปเที่ยว ตัดปัญหาทริปล่ม
หลายคนคงเคยวางแผนทริปในฝันกับเพื่อน แต่สุดท้ายก็จบลงเพียงแค่ปากเปล่า เพราะคิวไม่ตรงกันบ้าง เก็บเงินไม่ทันบ้าง
หรือหากทริปนั้นเกิดขึ้นจริง ปัญหาตามหลังที่มักจะหนีไม่พ้นก็คือเรื่องเงิน และปัญหาในการเคลียร์บิลหลังจบทริป
ความวุ่นวายนี้เอง ทำให้เกิดเทรนด์ที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่าง “Friendship Funds” หรือกองทุนแห่งมิตรภาพ การเปิดบัญชีเงินฝากร่วมกับเพื่อนซี้ เพื่อเป็นกองทุนสำหรับไปเที่ยวด้วยกัน และตัดจบปัญหาทริปล่ม
เทรนด์นี้น่าสนใจอย่างไร ? แล้วมีอะไรที่เราควรรู้ก่อนเปิดบัญชีคู่บ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของเทรนด์นี้ มาจากคุณ Madison Machen สาวอเมริกันที่กำลังนั่งเครื่องบิน และบังเอิญได้คุยกับคนข้าง ๆ ว่าเธอกำลังไปเที่ยวกับเพื่อนสาว โดยใช้ “บัญชีคู่” ที่เปิดร่วมกัน
หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่าบัญชีคู่ หรือ Joint Account แต่อาจจะเข้าใจว่าเป็นบัญชีสำหรับคู่รักไว้วางแผนอนาคต หรือกลุ่มเพื่อนที่ทำธุรกิจร่วมกันเท่านั้น
แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถเปิดบัญชีคู่ร่วมกับเพื่อนได้ และวิธีการก็ไม่ได้ต่างกับการเปิดบัญชีธนาคารโดยทั่วไปที่เราสามารถเปิดบัญชีได้กับธนาคารทุกแห่ง ทุกสาขา
คุณ Machen ได้ยินดังนั้นก็สนใจ และรู้สึกว่ามันเป็นวิธีออมเงินที่น่าสนุก จึงกลับไปเล่าให้เพื่อน ๆ ของเธอฟัง
จนสุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจเปิดบัญชีคู่ร่วมกัน โดยเริ่มจากเก็บเงินคนละประมาณ 600 บาทต่อสัปดาห์
6 เดือนต่อมา คุณ Machen และเพื่อนสามารถเก็บเงินในบัญชีคู่ได้ประมาณ 32,000 บาท และทริปของพวกเธอก็เกิดขึ้นจริง เธอจึงนำเรื่องนี้มาเล่าใน TikTok จนกลายเป็นไวรัล กวาดยอดวิวไปกว่า 5.4 ล้านครั้ง
ต้องบอกว่าเหตุผลที่คลิปนี้เป็นไวรัล เพราะชาวเน็ตเข้ามาถกกันว่านี่เป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม แต่บางคนก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม หรือเกิดคำถามว่าเราจะเชื่อใจเพื่อนได้แค่ไหน
เพราะข้อควรระวังที่สุดของบัญชีคู่ คือความเชื่อใจ ยิ่งหากเราเปิดบัญชีที่มีเงื่อนไขการถอนเงินแบบ “หรือ” ซึ่งหมายถึงเจ้าของบัญชีคนใดคนหนึ่ง สามารถทำธุรกรรมได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้อีกคนอนุมัติ ก็อาจเกิดปัญหาตามมาได้
แต่หากจะเปิดบัญชีที่มีเงื่อนไขการถอนเงินแบบ “และ” ซึ่งหมายถึงการถอนเงินทุกครั้งต้องได้รับการยินยอมจากทุกคนทุกฝ่าย ก็จะเป็นขั้นตอนธุรกรรมที่ยุ่งยากอีก
ทีนี้ เราลองมาดูกรณีของคุณ Kim Brindell สาวออสเตรเลียที่เล่ากับ Business Insider ว่าเธอและเพื่อน ๆ ก็มีการแชร์กองเงิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเวลาไปเที่ยว ตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ไปจนถึงอาหาร
พวกเธอจึงร่วมกันโอนเงินเข้าบัญชีสัปดาห์ละ 200 บาท ก่อนจะขยับขึ้นเป็น 400 บาท แต่วิธีของเพื่อนสาวกลุ่มนี้ จะมีข้อแตกต่างตรงที่พวกเธอจะโอนเงินไปให้กับเพื่อนเพียงคนเดียวที่ทุกคนไว้ใจ
และเพื่อนคนนั้น ก็จะนำเงินส่วนนี้ไปโอนเข้าบัญชีที่เปิดมาเพื่อเป็นกองทุนอีกที เป็นบัญชีธรรมดาปกติ และเธอจะเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถเข้าถึงบัญชีนี้ได้
คุณ Brindell ยังเล่าอีกว่าตั้งแต่มีวิธีนี้ พวกเธอสามารถไปเที่ยวด้วยกันติดต่อกัน 3 ปี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันเลยตลอดระยะเวลา 15 ปีที่คบกันมา
และวิธีนี้ยังช่วยทำให้พวกเธอได้สนุกกับการเที่ยว เพราะไม่ต้องคอยหยิบโทรศัพท์มือถือมาบันทึกค่าใช้จ่ายทุกครั้ง และยังหลีกเลี่ยงความอึดอัดและความขัดแย้งในการหารจ่ายค่าอะไรต่าง ๆ ระหว่างเพื่อน
อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะเริ่มคิดที่อยากจะเปิดบัญชีคู่ หรือเปิดบัญชีเก็บเงินกับเพื่อนสนิทเหมือนกัน ลงทุนเกิร์ลก็มีคำแนะนำง่าย ๆ เป็น Checklist ให้นำไปปรับใช้ตามความเหมาะสม
1. Trust Check ตกลงกันให้ชัดเจนว่าทุกคนในกลุ่มเชื่อใจกันมากพอ ที่จะไม่นำเงินกองกลางไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือใช้เพื่อเป้าหมายส่วนตัว
2. เลือกระบบบัญชีให้ชัดเจน ว่าจะร่วมกันเก็บเงินอย่างไร เปิดบัญชีคู่แบบ “หรือ” / “และ” หรือจะเปิดบัญชีธรรมดา แล้วให้ใครคนหนึ่งเป็นผู้เก็บเงินเพียงคนเดียว
3. กำหนดจำนวนเงินและความถี่ วันที่แน่นอนในการโอนเงิน หรือจะตั้งค่าการโอนอัตโนมัติในแอปพลิเคชันธนาคาร
4. กำหนดข้อตกลงในการใช้เงินจากกอง Friendship Funds
อย่างคุณ Brindell เล่าว่ากลุ่มของเธอมีความเป็นธรรมมาก โดย Friendship Funds จะถูกใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่ใช้ร่วมกันจริง ๆ เช่น ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าอาหาร ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละคนต้องจ่ายด้วยเงินส่วนตัวของตนเอง
5. วางแผนกรณีฉุกเฉิน เช่น จะทำอย่างไร หากมีใครคนหนึ่งต้องการถอนตัวออกจากกองทุน จะคืนเงินทั้งหมด คืนแค่บางส่วน หรือไม่คืนเลย
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะวิธีการไหนก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน และนอกจากวิธีข้างต้น ก็ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
เช่น Sinking Funds คือการตั้งเป้าหมายการออมเงินที่ชัดเจน โดยสะสมเงินก้อนนี้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน แต่จะเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัวของแต่ละคน
หรือการใช้ฟีเชอร์ Shared Pocket ที่มีอยู่ในแอปพลิเคชันทางการเงินของธนาคาร ที่สามารถสร้างกระเป๋าเงินย่อยขึ้นมา และชวนเพื่อนเข้ามาเติมเงินร่วมกันได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีคู่
เพียงแต่ว่าบัญชีคู่ก็เหมือนเป็นกระเป๋าเงินรวม ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นชั้นดี ที่จะช่วยให้การออมเงินกับเพื่อน ๆ ดูจริงจังและท้าทายขึ้นเท่านั้นเอง..
References :
- CNBC, Business Insider, Make by Kbank
ธุรกิจ
2 บันทึก
5
2
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย