10 ต.ค. เวลา 16:23 • ครอบครัว & เด็ก

ภาพวาดจากหัวใจ ...

ฝีมือวาดภาพจากเด็กคนเดียวกันค่ะ
ภาพแรกหลังความโกรธอย่างรุนแรง และเศร้า ทะเลาะกับแม่และพี่สาวด้วยถ้อยคำรุนแรง พอรู้ข่าวคราวก็แจ้งคุณแม่ว่า ยังไม่ต้องเข็นให้ลูกเรียนเก่ง ทำให้เด็กมีความสุขก่อน สร้างวินัยให้ได้ก่อน เขาไม่ใช่เด็กไม่ได้เรื่อง ขอให้เขามีความสุขทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นมาเอง ...แนะนำให้ครอบครัวปรึกษาจิตแพทย์เด็กนะคะ แต่ระหว่างนี้ กว่าคิวจะมาก่อนที่เด็กบาดเจ็บแล้วจะดิ่งลงไปเราก็ช่วยดึงไว้ก่อน ....
นัดคุณแม่มาพูดคุยด้วยกัน ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง แนะนำเทคนิคการเลี้ยงดูเชิงบวก ยืนยันคำแนะนำของตัวเองคือปรึกษาจิตแพทย์ แล้วระหว่างรอคิวตรวจขอให้พาเด็กมาหาทุกสัปดาห์
ทุกวันศุกร์ ไม่ต้องไปเรียนพิเศษซักวัน เรียนเยอะแล้ว พักซักวันพามาคลินิกนะคะ พาเขามาเล่นที่นี่ ในหัวไม่ได้มีแผนรักษาอะไรเลย เราไม่ใช่จิตแพทย์ รู้แค่ว่า ทำพื้นที่ตรงนี้ให้เขาปลอดภัย มีความสุข กล้าเล่า และเล่นในสิ่งที่เขาอยากเล่น เล่นให้สบายใจแล้วกลับบ้าน
หลังจากนั้นตัวเองก็ไปเตรียมของเล่นไว้มากมายสำหรับเด็กโต ทั้งลูกปัด หนังสือ ดินปั้น กระดาษ สี และคิดว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้นี่แหละจะช่วยเยียวยา ...
ซื้อของเล่นมาทำไมเยอะแยะ น้องชายสงสัย คลินิกนะ ไม่ใช่โรงเรียนอนุบาล...
...ก็ตอบไปล้านแปดเหตุผล แปลได้ว่าอย่ามายุ่ง เรื่องของฉัน ฉันจะเอาไว้ให้ลูกฉันเล่น ...จบนะ
จนเขาเห็นเด็กๆเล่นนั่นแหละ น้องชาย พ่อ แม่ถึงเข้าใจ ว่าทำไมเราแสวงหาของพวกนี้มาจัง
วันนั้นเด็กมาถึงคลินิกไม่ยอมลงจากรถแม่ นั่งก้มหน้ากัดกินขนม หลบตา พูดเสียงเบาๆ ทั้งๆที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เป็นทารกเลย
มาดูต้นไม้ต้นนี้กับป้าเร็ว ป้าว่ามันไม่สบาย หนูมาช่วยป้าดูทีว่าเราจะรักษามันได้มั้ย ชวนเขาลงจากรถโดยไม่ให้เขารู้สึกว่าถูกบังคับมาหาหมอ .....
เด็กค่อยยอมลงจากรถ
เดิบไปดูต้นขจรที่ปลูกใส่กระถางที่ซุ้มไม้เลื้อยที่ทำไว้ ...
หนูคิดว่าต้นไม้ต้นนี้ แข็งแรงไหม มันป่วยหรือเปล่า
พยักหน้า ตอบเบาๆ ก้มหน้า เวลาพูดไม่เต็มเสียง...ไม่สบาย
ดูยังไงคะว่ามันไม่สบาย
ใบมันสีเหลืองเยอะ
แล้วหนูว่ามันจะตายมั้ยเนี่ย มันไม่สบายหนักเลยนะ
มันน่าจะตาย ...เด็กตอบ ก็เป็นไปตามที่เดาไว้แหละว่าคำตอบคงประมาณนี้...
เรามาลองรักษามันช่วยกันดีไหม เผื่อมันจะรอดตาย
แล้วโปรเจ็ครักษาต้นไม้ (ต้นขจร) ป่วยก็เกิดขึ้น...ระหว่างช่วยกันดูแลต้นไม้ก็ลองถามแล้วรอเขาเล่าให้ฟัง ...เขาค่อยๆเล่าเมื่อรู้สึกว่าตรงนั้นปลอดภัยพอ ...เรารวบรวมข้อมูลไว้เพื่อปรึกษาคุณหมอที่ต้องดูแลเขาอีกที
วันนั้นเขาตื่นเต้นกับหนังสือมาก อยากอ่านหลายเล่ม นั่งร้อยลูกปัดให้ตุ๊กตา วาดรูป และปั้นดินน้ำมันสองสามแบบก่อนกลับบ้าน ....
ป้าแอบตกใจกับรูปที่เด็กวาด....
รูปอะไรคะ
มันเป็นตึกที่อยู่ของคน เด็กตอบ ตอนแรกเด็กระบายสีท้องฟ้าด้วยสีฟ้าสดใส แล้วเปลี่ยนใจเอาสีดำสนิทมาแทน ฟ้ามืดมิด
สีเหลืองๆคืออะไรคะ .....เขาจุดพลุกัน
ตั้งใจระบายมาก น้ำหนักสีสวยนะ ใส่กรอบกัน แปะไว้ตรงไหนดีคะ .....
แล้วรูปนี้ก็แปะที่ผนังคลินิก
แล้วก็โชคดี หนึ่งสัปดาห์ถัดมาเด็กมาคลินิกตามนัด (ลุ้นมากว่าจะมาไหม อยากให้เขาเห็นต้นไม้ที่เขาดูแล ต้นไม้ทุกต้นเปลี่ยนแปลงทุกวัน ยิ่งหนึ่งสัปดาห์จะต่างไปชัดเจน) ต้นไม้ก็ดีขึ้นให้เขาเห็นกับตา
ความภาคภูมิใจเกิดขึ้น เขาช่วยให้ต้นไม้รอดตายได้ เด็กน้อยถูกมอบหมายหน้าที่ช่วยดูแลต้นไม้ ตัดดอก ตัดแต่งกิ่ง บางวันให้จัดแจกันดอกไม้ ปล่อยเขาทำตามที่ใจเขาว่าสวย บางวันได้รับอนุญาตให้ตัดดอกขจรกลับไปทำกับข้าวที่บ้านได้ ...หนูไม่เคยทาน
หลังจากดูแลต้นไม้ จะมาเล่นตามชอบใจ
...หลายสัปดาห์ผ่านไป จึงได้เข้าพบคุณหมอที่ดูแลจริงๆ ...
ส่วนป้าหมอทางนี้เขาก็แวะมาหา มาเล่นตามวันศุกร์ที่เขาว่างและป้าไม่ได้แอบปิดคลินิกไปไหน ยิ่งวันศุกร์นี้หลานๆมา มีเพื่อนเล่นสนุก ทุกอย่างเยียวยาด้วยการเล่นอย่างอิสระ ....
นี่คือภาพวาดของวันนี้ สดใสจนหมอก็ใจฟู ...
เขาบอกว่าเขาอยากทำสายรุ้งให้เต็มไปหมด แต่เขาไม่มีเวลามากพอ
ปล.ไม่ใช่จิตแพทย์ค่ะ หมอเด็กธรรมดา ไม่ได้รับทำจิตบำบัด ไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ บอกเล่าเพราะต้องการอยากให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความสุขของเด็กๆ ...คนละเรื่องกับความรักนะคะ เด็กหลายคนพ่อแม่รักแต่ไม่มีความสุข ....และไม่รู้ว่าพ่อแม่รัก
และถ้ามีปห.การเลี้ยงดู เรื่องความสัมพันธ์สะดุด รีบไปหาที่ปรึกษาค่ะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก จิตแพทย์เหมือนยาสามัญประจำบ้านของพ่อแม่ยุคนี้ ยิ่งทิ้งปัญหาเรื้อรัง ยิ่งเยียวยายาก
ทักษะการเลี้ยงดูเชิงบวก การสื่อสารที่ดี การแสดงออกของความรักที่เด็กเข้าใจได้ การชื่นชมที่เหมาะสม การให้รางวัลอย่างถูกต้องเหมาะสมไม่ให้กลายเป็นสินบนหรือต่อรอง การสร้างกติกาตามวัยและรักษากติกานั้น การลงโทษที่จำแต่บอบช้ำให้น้อย
และถ้าเราตั้งกติกาไว้ดี เด็กๆเขาจะใช้หน้าจอได้ตามเวลา และมีกติกาในการใช้ที่เขาจะรักษามันได้ด้วยตัวเองจริงๆค่ะ เราลำบากประคับประคองประมาณสิบปีแรกของชีวิต บางคนได้เร็วกว่านี้.....
เราไม่ต้องเตือนเขาจะคุมตัวเอง ...
มีงานเอามาใช้ เสร็จวาง ถึงเวลาเล่น เล่น ถึงเวลาวาง ...
ในที่ที่ไม่มี เล่นอย่างอื่นไปเลย ไม่ถามหาเกม ไม่ถามหามือถือ ไม่ถามหาจอ ...
ดอกไม้ที่เคยจัด
วันนี้ปิดท้ายด้วยเล่นขายของ ....
คนขายสามคน ลูกค้ามีคนเดียว ...กินจนอ้วน
โฆษณา