11 ต.ค. เวลา 11:12 • ท่องเที่ยว

ตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan) มรดกวิศวกรรม 2200 ปีแห่บเมืองเฉิงตู

เขื่อนและระบบชลประทานตูเจียงเยี่ยน (Dujiangyan Irrigation System - 都江堰) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างทางประวัติศาสตร์
แต่เป็นระบบวิศวกรรมที่ยังมีชีวิตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมานานกว่า 2,200 ปี ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะในการจัดการน้ำในยุคโบราณ
ประวัติศาสตร์: จุดเริ่มต้นแห่งความอัจฉริยะ
ระบบตูเจียงเยี่ยนสร้างขึ้นราวปี พ.ศ. 293 (ประมาณ 256 ปีก่อนคริสตกาล) ในช่วงปลายยุคจ้านกั๋ว (Warring States Period) โดยขุนนาง หลี่ปิง (Li Bing) และลูกชายของเขา ในขณะที่มณฑลเสฉวนยังคงเป็นพื้นที่เสี่ยงต่ออุทกภัยอย่างรุนแรงจาก แม่น้ำหมินเจียง (Minjiang River) ที่ไหลลงมาจากเทือกเขา
วัตถุประสงค์หลักของการสร้างไม่ได้อยู่ที่การสร้างเขื่อนกั้นน้ำแบบทั่วไป แต่เป็นการ "แบ่งและควบคุม" กระแสน้ำอย่างชาญฉลาด เพื่อบรรเทาน้ำท่วมในฤดูฝนและผันน้ำไปหล่อเลี้ยงที่ราบเฉิงตูในฤดูแล้ง ระบบนี้ทำให้ที่ราบเฉิงตูกลายเป็นที่รู้จักในนาม "อู่ข้าวอู่น้ำ" หรือ "ดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์" (The Land of Abundance) ของจีน
สถาปัตยกรรมและโครงสร้างหลัก
หัวใจของระบบตูเจียงเยี่ยนประกอบด้วยสามส่วนหลักที่ทำงานประสานกันโดยอาศัยหลักการทางฟิสิกส์ตามธรรมชาติ:
1. ฟู่ซาจุ่ย (Fish Mouth Weir - 鱼嘴): เป็นเขื่อนกั้นน้ำรูปทรงคล้ายปากปลา ทำหน้าที่ แบ่งแม่น้ำหมินเจียงออกเป็นสองส่วน คือ
• แม่น้ำชั้นนอก (Outer River): รับน้ำหลักส่วนใหญ่และปล่อยทิ้งไปตามปกติ
• แม่น้ำชั้นใน (Inner River): ใช้สำหรับควบคุมปริมาณน้ำเพื่อส่งเข้าสู่ระบบชลประทาน
2. เฟยซาเหยียน (Flying Sand Weir - 飞沙堰): เป็นทางระบายน้ำล้นและตะกอนที่ทำหน้าที่ ระบายกรวด หิน และตะกอนหนัก ออกจากแม่น้ำชั้นในกลับสู่แม่น้ำชั้นนอกโดยอัตโนมัติ ซึ่งป้องกันไม่ให้คลองชลประทานตื้นเขิน นี่คือความอัจฉริยะที่ทำให้ระบบนี้คงอยู่ได้นานนับพันปี
3. เป่าผิงโข่ว (Bottle-Neck Channel - 宝瓶口): เป็นช่องทางเข้าที่ถูกเจาะทะลุภูเขาเพื่อ ควบคุมปริมาณน้ำสูงสุด ที่จะไหลเข้าสู่ระบบชลประทานอย่างเคร่งครัด เปรียบเสมือนคอขวดที่คอยจำกัดการไหลของน้ำไม่ให้เกิดน้ำท่วม
สะพานอันโดดเด่น: อันหลานเฉียว (Anlan Suspension Bridge - 安澜索桥)
แม้ว่าระบบตูเจียงเยี่ยนจะเน้นที่วิศวกรรมการจัดการน้ำ แต่สถานที่นี้ก็มีสะพานแขวนที่งดงาม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สะพานอันหลาน (Anlan Bridge) หรือ "สะพานแห่งความสงบ"
• สถาปัตยกรรม: สะพานอันหลานเป็นสะพานแขวนที่สร้างขึ้นจากไม้และเชือก (ในอดีตใช้เชือกไม้ไผ่) มีเสาไม้ค้ำยันและมีหลังคาคลุมตลอดทางเดินเพื่อป้องกันฝน ลักษณะของสะพานมีความสง่างามและกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างยิ่ง มันเชื่อมต่อสองฝั่งของแม่น้ำหมินเจียง และทอดข้ามส่วนที่มีโครงสร้างหลักของระบบชลประทานอยู่
• ความสำคัญของสะพาน: สะพานนี้ไม่ได้สร้างเพื่อการท่องเที่ยว แต่เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ชาวบ้าน พ่อค้า และที่สำคัญคือ คนงาน ที่ต้องข้ามไปมาเพื่อดูแลรักษาและซ่อมบำรุงระบบชลประทานตลอดทั้งปี ทำให้การดำเนินงานของตูเจียงเยี่ยนสามารถทำได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน
ความสำคัญในอดีตและปัจจุบัน
ความสำคัญในอดีต:
ตูเจียงเยี่ยนเป็นปัจจัยสำคัญที่เปลี่ยนเสฉวนจากพื้นที่ที่ยากต่อการเพาะปลูกให้กลายเป็น แหล่งผลิตอาหารที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน และยังคงเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับที่ราบเฉิงตู ช่วยให้รัฐฉิน (Qin State) สามารถรวบรวมเสบียงและกำลังพลได้เพียงพอสำหรับการรวมแผ่นดินจีนในเวลาต่อมา
ความสำคัญในปัจจุบัน:
• มรดกโลก (UNESCO World Heritage): ระบบชลประทานนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000 ในฐานะตัวอย่างที่โดดเด่นของวิศวกรรมการจัดการน้ำแบบยั่งยืน
• หล่อเลี้ยงพื้นที่กว่า 6,687 ตารางกิโลเมตร: ระบบนี้ยังคงจ่ายน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรกว่า 670,000 เฮกตาร์ในเฉิงตูและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาค
• แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม: ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่สนใจในภูมิปัญญาและประวัติศาสตร์จีนโบราณ
จิตรกรรมและสุนทรียภาพในพื้นที่
แม้ว่าสะพานอันหลานจะเน้นการใช้งานจริง แต่บริเวณโดยรอบและในอาคารวัดที่เกี่ยวข้องกับหลี่ปิง มักประดับด้วย จิตรกรรมและภาพวาด ที่บอกเล่าเรื่องราวความกล้าหาญและความอุตสาหะของหลี่ปิงในการสร้างระบบชลประทาน ภาพเหล่านี้ช่วยให้ผู้มาเยือนได้เข้าใจประวัติศาสตร์และความท้าทายที่ต้องเผชิญในยุคนั้น
นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งด้วยบทกวีและแผ่นจารึกที่ยกย่องความสำเร็จทางวิศวกรรมนี้
ตูเจียงเยี่ยนจึงเป็นมากกว่าโครงสร้างทางกายภาพ แต่เป็นอนุสรณ์แห่ง ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ที่ใช้องค์ความรู้ด้านธรรมชาติเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองที่ยืนยงมาจนถึงปัจจุบัน
โฆษณา