* จากดราม่า “เซียนพระ” ทำให้เรื่องของหลวงปู่ทวดกลับมาเป็นกระแสความนิยมในเหรียญหลวงปู่ทวดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มคน Gen Y และ Gen Z ซึ่งมองว่าเป็น “เครื่องรางแห่งความมั่นใจ” มากกว่าแค่เครื่องรางทางศาสนา สะท้อนให้เห็นว่าตำนานอายุ 400 ปียังคงสามารถเชื่อมใจคนยุคดิจิทัลได้【“ผ่าเบื้องหลังเหรียญปู่ทวด” ที่พูดถึงประเด็นในวงการพระเครื่อง, https://fb.watch/CF-ilPoqEx/?】
* หลวงปู่ทวดจึงกลายเป็นภาพแทนของ “Soft Power แห่งศรัทธาไทย” อย่างแท้จริง เป็นพลังอ่อนที่ไม่ต้องใช้การโฆษณา แต่แผ่ขยายด้วยความเชื่อและการบอกต่อจากรุ่นสู่รุ่น เปรียบเหมือนการสร้าง Social Capital หรือทุนทางสังคม ที่เกิดจากความไว้วางใจร่วมกันในคุณค่าความดีและเมตตา ไม่ต้องผ่านเครื่องมือสื่อสารหรือเทคโนโลยีใดๆ แต่เติบโตจากใจของผู้คนเอง
* ในมุมของจิตวิทยาแบรนด์ หลวงปู่ทวดสะท้อน Archetype แบบ The Sage หรือเป็น “ผู้มีปัญญา ผู้ให้คำแนะนำ และผู้ปกป้องด้วยเมตตา” คล้ายกับที่แบรนด์ระดับโลกอย่าง Google ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ให้ความรู้, National Geographic ที่เป็นผู้รักษาความจริงของธรรมชาติ, หรือ The New York Times ที่เป็นผู้พิทักษ์ข้อมูลและความจริงในสังคม ทั้งหมดนี้ต่างใช้พลังแห่งความรู้และความน่าเชื่อถือสร้างอิทธิพล เช่นเดียวกับที่หลวงปู่ทวดใช้ “ศรัทธาและปัญญา” สร้างอิทธิพลในหัวใจของคนไทย