This overlooked habit might be your best stress relief tool
นิสัยที่ถูกมองข้ามนี้อาจเป็นเครื่องมือคลายเครียดที่ดีที่สุดของคุณ
นักจิตวิทยา อยากให้เราจัดสรรเวลาเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น เพื่อให้สมองเราได้มีโอกาสผ่อนคลายและชาร์จพลัง
มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เราวิวัฒนาการมาให้อยู่อาศัยกันเป็นกลุ่ม และมนุษย์ได้ยึดครองโลกเป็นหน่วยของครอบครัวใหญ่ที่เราเรียกว่า อารยธรรม โดยพื้นฐานแล้ว มนุษย์เราต้องการคือ การอยู่ร่วมกับผู้อื่น
แล้วทำไมบางครั้ง ผมถึงอยากมีโลกใบนี้เป็นส่วนตัวของตัวเองบ้าง
ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนชอบอิสระ มีเจตจำนงเสรี และให้ความสำคัญกับประสบการณ์ส่วนตัว ผมก็เป็นผู้ที่ยอมรับและสนับสนุนความหลากหลายในสังคมด้วย โดยเชื่อว่าความแตกต่างถือเป็นสิ่งปกติ ผมไม่ต้องการให้มีเพียงแนวคิดใดแนวคิดหนึ่งครอบงำหรือผูกขาด และโดยทั่วไปแล้วผมก็เป็นคนดี แต่ว่าบางครั้ง ซึ่งผมก็อยากพูดตามตรง ผมอยากให้มวลมนุษยชาติที่ชอบเดือดดาลรอบตัวผม หายวับไปเสียที
แน่นอนว่า มีคนอาศัยอยู่บนโลกเราเป็นจำนวนถึง 8 พันล้านคน ดังนั้น ผมจึงไม่ได้คิดแบบนี้อยู่คนเดียวอย่างแน่นอน ความปรารถนาของมนุษย์ที่จะอยากจะอยู่คนเดียวนั้น มันก็มีพอๆ กันกับสัญชาตญาณของมนุษย์เรา ในการแสวงหาเพื่อนและแสวงหาครอบครัว
นักวิทยาศาสตร์ยังตั้งชื่อว่า “ความเหงาหรือความเปลี่ยวเหงา” อีกด้วย ความเหงา อธิบายอาการและอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้น เมื่อคุณไม่มีเวลาจริงๆ ให้กับตัวเองเลย
คนที่ชอบเก็บตัวเช่นผม เข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าคนส่วนใหญ่ แต่ผมไม่ได้เป็นแบบนี้คนเดียว
ประโยชน์ของการใช้เวลาอยู่คนเดียว
พ่อแม่ที่ต้องเผชิญหน้ากับวันหยุดโรงเรียนหกสัปดาห์ มักจะรู้สึกหงุดหงิดในช่วงเวลานั้นของปี คนที่อาศัยอยู่ในแฟลตที่มีคนอยู่พลุกพล่าน หรือคนทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้คน เช่น ในโรงเรียนและในโรงพยาบาล ก็เข้าใจความรู้สึกนี้เช่นกัน
เหงียน Thuy-Vy Nguyen ศาสตราจารย์ ด้านจิตวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยเดอรัม Durham ประเทศสหราชอาณาจักร ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเผยว่า ที่น่าขันก็คือ แนวคิดในเรื่องความสันโดษ กลับเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ ผลจากการวิจัยของเหงียน แสดงให้เห็นว่า การมีเวลาอยู่คนเดียวนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะช่วยให้ร่างกายของเราอยู่ในโหมดฟื้นตัวหลังความเครียด
เหงียน กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่เราเห็นอยู่เสมอในงานวิจัยของเราคือ การอยู่คนเดียวนั้นดีมากต่อการควบคุมอารมณ์ของเรา”
“เราได้ทำวิจัย โดยได้กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมการวิจัยทดลองเกิดความเครียดขึ้นมาในช่วงเริ่มต้นของการทดลอง จากนั้น เราจึงพาผู้เข้าร่วมการทดลอง ไปยังห้องหนึ่งโดยให้อยู่ตามลำพัง และภายในเวลาเพียง 15 ถึง 30 นาที คุณจะเห็นได้ถึง ความสงบของอารมณ์ และการลดลงของความเครียดเหล่านี้”
ที่น่าสนใจก็คือ ความสงบของอารมณ์ และการลดลงของความเครียดจะไม่ได้ผล เมื่อให้ผู้เข้าร่วมการทดลองอยู่ในห้องเดียวกับผู้อื่น อาจเป็นเพราะว่า การอยู่คนเดียว เป็นเวลาแห่งการพักผ่อนและการเริ่มต้นใหม่
ความโกรธ ความวิตกกังวล และความตื่นเต้นที่เกินกว่าเหตุ ล้วนแล้วแต่สร้างภาระให้กับสมองของเราในระดับหนึ่ง แต่ทุกอย่างที่กล่าวมา ดูเหมือนจะละลายหายไป เมื่อเราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง
เหงียน ยังพบว่า การที่เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง จะมีผลกระทบต่อเราในทางกายภาพด้วย “เราถือว่าฮอร์โมนคอร์ติซอล เป็นตัวบ่งชี้ความเครียด และระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลนี้จะมีระดับที่ลดลง เมื่อเราได้อยู่ตามลำพัง” เหงียน กล่าว
ความรู้สึกสงบ ไม่ใช่ประโยชน์เพียงอย่างเดียว งานวิจัยในช่วงล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 พบว่า การที่เราได้ใช้เวลาอยู่คนเดียว สามารถจะเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้เราได้
ผลจากงานวิจัยอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า การได้ใช้เวลาอยู่คนเดียว ทำให้เราสามารถจะปฏิบัติต่อตนเองด้วยความรัก ความเข้าใจ และความมีจิตใจดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่เราเจ็บปวด ล้มเหลว หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้แล้ว การได้ใช้เวลาอยู่คนเดียว ยังสามารถทำให้ร่างกายของเรา มีความทนทานต่อความเครียดทั้งจากทางด้านร่างกายและด้านจิตใจได้ดี
ความเหงาและความสันโดษ ไม่เหมือนกัน
ทั้งหมดนี้ อาจฟังดูน่าประหลาดใจสำหรับพวกเรา ที่เคยได้ยินว่า ความเหงาเป็นโรคระบาด และเป็นอันตรายด้วย ความเหงาทำให้สุขภาพจิตของเราย่ำแย่ แม้กระทั่ง ความเหงาสามารถทำให้เกิดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหัวใจและหลอดเลือด และทำให้เกิดความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
แต่ว่า ความสันโดษกับความโดดเดี่ยวนั้น แตกต่างกันอย่างมาก ความเหงามักจะเป็นสิ่งที่คุณไม่มีทางเลือกเสมอ ความสันโดษเป็นสิ่งที่คุณสามารถแสวงหา และแม้กระทั่งคุณสามารถจะปรับให้เหมาะสมกับตัวคุณได้
เหงียน กล่าวว่า วิธีแรกที่จะทำได้คือ การสร้างโครงสร้างให้กับเวลาส่วนตัวของคุณ “บางครั้งถ้าเป็นเวลาว่าง คนเราก็จะเริ่มรู้สึกว่ามันท้าทาย” เรามักจะต้องหาอะไรทำ
ในการวิจัยทดลองครั้งหนึ่ง เหงียน ได้ให้ผู้ที่เข้าร่วมการวิจัย จัดเรียงดินสอหลายร้อยแท่ง ซึ่งพวกเขาพบว่า ดีกว่าการนั่งเฉยๆ งานวิจัยก่อนหน้านี้ยังพบว่า ผู้เข้าร่วมการวิจัยยอมช็อตตัวเองด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้าอ่อนๆ มากกว่าจะให้พวกเขานั่งเฉยๆ
ในเวลาที่ว่าง เหงียน เองก็สร้างโมเดลจำลองขนาดเล็ก ซึ่งเธอพบว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า ซึ่งรวมทั้งการอ่านหนังสือ การทำสวน การต่อจิ๊กซอว์ หรือการร่างภาพ ก็ให้ผลดีต่อสุขภาพของเราเช่นเดียวกัน
เหงียน กล่าวว่า “ให้เริ่มต้นด้วยกิจกรรมที่ทำให้มือของคุณไม่ว่าง” แต่อย่าไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
เหงียน กำลังจะทำวิจัยว่า อุปกรณ์โทรศัพท์ที่มารบกวนสมาธิเรา อาจรบกวนกระบวนการรู้คิดรู้จำที่เกิดขึ้นในสมอง ในช่วงที่เราต้องอยู่คนเดียวหรือไม่
เหงียน กล่าวว่า “เมื่อเราอยู่คนเดียว เรามีโอกาสที่จะไตร่ตรองและคิดถึงวันเวลาของเรา” “วิธีที่โทรศัพท์ได้รับการออกแบบมา ค่อนข้างจะดึงดูดความสนใจของเรา และทำให้เรา จะเริ่มทำหลายอย่างพร้อมๆ กันแทน”
เคล็ดลับอีกอย่างคือ การออกไปจากบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าบ้านของคุณมีผู้คนอยู่พลุกพล่าน
เหงียน กล่าวว่า “ถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา เมื่อคุณอยู่คนเดียว คุณอาจไม่สามารถหลีกหนีออกจากความเครียดได้ง่าย” “นั่นเป็นเหตุผลที่พ่อแม่หลายคนรู้สึกว่า พวกเขาต้องปลีกตัวออกไปจากบ้าน เพราะมันแตกต่างกัน ระหว่างเวลาที่เราอยู่คนเดียว กับเวลาที่เป็นส่วนตัว”
ในฐานะพ่อแม่ที่เหงาและโดดเดี่ยว ที่กำลังเตรียมตัวทั้งกายและใจรอวันหยุดฤดูร้อนอันยาวนานของลูกๆ ที่แสนจะวุ่นวาย ที่กำลังจะมาถึง ฉันบอกคุณได้เลยว่า นั่นเป็นข่าวดี
ผู้เขียน : Ian Taylor
แปลไทยโดย : Wichai Purisa (senior scientist)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
