12 ต.ค. เวลา 04:00 • ธุรกิจ

แกะสูตรลับ Xiaomi ปั้นอาณาจักร รถยนต์ไฟฟ้า ภายใน 2 ปี

ถ้าเราไปบอกคนอื่นว่า ธุรกิจเราเคยขายสินค้าหลักพันบาท
แต่อยากขายสินค้าหลักล้านบาท คนอื่นคงบอกว่า เราน่าจะฝันกลางวันอยู่แน่ ๆ
แต่นี่คือเรื่องราวจริงของ Xiaomi บริษัทที่เคยขายสมาร์ตโฟนแค่หลักพันบาท แล้วผันตัวไปขายรถยนต์ที่มีราคาหลักล้านบาท ในเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น
เรียกได้ว่า นี่ไม่ธรรมดามาก ๆ เพราะชิ้นส่วนสมาร์ตโฟนมีแค่หลักพันชิ้น แต่ชิ้นส่วนรถยนต์มีหลักหมื่นชิ้น แปลว่า มีความซับซ้อนในการผลิตเพิ่มขึ้นอีกไม่รู้เท่าไร
อะไรคือสูตรลับ ที่ทำให้ Xiaomi ทำเรื่องแบบนี้ได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Lei Jun อ่านว่า เหลยจวิน ผู้ก่อตั้ง Xiaomi เคยพูดไว้ว่า
บริษัทใช้เวลา 75 วัน เพื่อปรึกษากันภายในว่า ทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมาขายดีไหม
ซึ่งในที่สุด Xiaomi ก็ตกลงที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาขาย แม้ตัวเองไม่เคยรู้เรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อนเลยด้วยซ้ำ
การตัดสินใจที่ใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือนตอนต้นปี 2021
ไม่ได้เกิดเพราะว่าอยู่ดี ๆ บริษัทอยากทำรถยนต์ของตัวเอง
แต่เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ แบน Xiaomi ในสมัยแรก
แม้ต่อมาจะยกเลิกแบนในภายหลัง แต่ Xiaomi ก็รู้ดีว่า
ถ้าจะเน้นขายสมาร์ตโฟนอย่างเดียวต่อไป คงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากขึ้นกว่านี้แน่นอน
1
แต่ลองคิดภาพตามว่า เราเคยชินกับการผลิตสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถ้าย้ายไปผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่เคยทำมาก่อน เราจะทำอย่างไรดี
เก็บคำตอบไว้ในใจ ถ้าหลายคนกำลังคิดตาม
ลองมาดูคำตอบของเหลยจวิน ผู้ก่อตั้ง Xiaomi ว่าเขาทำแบบที่เราคิดกันอยู่ไหม
เริ่มกันที่โจทย์แรก
Xiaomi จะผลิตรถยนต์ของตัวเองอย่างไรดี ?
แน่นอนว่า Xiaomi ไม่เคยผลิตรถยนต์มาก่อน จึงต้องไปหาพาร์ตเนอร์ที่ผลิตรถยนต์อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งสุดท้ายก็ลงเอยกับ BAIC ผู้ผลิตรถยนต์ในปักกิ่งที่มีรัฐบาลหนุนหลัง
แต่ Xiaomi ก็ยังต้องหาพาร์ตเนอร์คนอื่นเพิ่มเติม เพราะหัวใจหลักของรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่แบตเตอรี่ ทำให้ต้องไปจับมือกับ CATL ที่เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 1 ของโลก
ตอนนี้ Xiaomi รู้แล้วว่า ต้องผลิตรถยนต์อย่างไรและที่ไหน
แต่การทำแบบนี้ ก็ไม่ได้การันตีว่าบริษัทจะพึ่งพาคนอื่นแบบนี้ไปได้ตลอด
2
ซึ่งการที่จะพึ่งพาตัวเองได้ ก็ต้องสร้างระบบขึ้นมาในบริษัท เพื่อวางรากฐานการเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้มั่นคงมากขึ้น
Xiaomi จึงเริ่มดึงตัวคนในวงการอุตสาหกรรมนี้จากบริษัทอื่นในจีนเข้ามา ไล่ตั้งแต่ Geely, SAIC, Wuling ไปจนถึงบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่าง BMW อีกด้วย
คนเก่ง ๆ จากบริษัทรถยนต์พวกนี้ ไม่ได้เข้ามาแค่ตัวเปล่าอย่างเดียว แต่ยังเอาบทเรียนความสำเร็จและความผิดพลาดของที่ทำงานเก่าของตัวเอง มาให้ Xiaomi ได้เรียนรู้
ซึ่งทำให้แทนที่ Xiaomi จะเสียเวลาลองผิดลองถูกกับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง ก็สามารถพัฒนารถยนต์ที่กลบข้อเสียของบริษัทรถยนต์อื่นได้เลยทันที
นอกจากดึงตัวคนเก่งเข้ามาแล้ว ยังลงทุนกับบริษัทที่เกี่ยวกับซัปพลายเชนของรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ไปจนถึงการสร้างโรงงานของตัวเองขึ้นมาเพิ่มเติมอีกด้วย
โดยเม็ดเงินลงทุนนี้มากถึงหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งเงินตรงนี้ก็มาจากรายได้จากการขายสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ Xiaomi ได้เข้ามาในทุกปีอยู่แล้ว
ทำให้ Xiaomi แทบได้เปรียบเหนือบริษัทรถยนต์อื่น ที่ต้องพึ่งพารายได้จากรถยนต์ แต่ตัวเองใช้รายได้ที่มั่นคงอยู่แล้ว มาลงทุนเพิ่มเติมได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลมากนัก
ตอนนี้ Xiaomi มีทั้งคนเก่ง และซัปพลายเชนรถยนต์ไฟฟ้า แต่ปัญหาต่อมาคือ แล้วเราจะขายรถยนต์ในราคาเท่าไรดี
Xiaomi แก้โจทย์นี้ด้วยการก๊อบปี้ตำราธุรกิจสมาร์ตโฟนของตัวเอง ด้วยการเน้นขายในราคาที่จับต้องได้ แต่อยู่ในระดับเดียวกันกับแบรนด์ราคาแพง
ซึ่งเป็นท่าทำธุรกิจที่ถนัดของ Xiaomi มานานแล้ว จากการขายสมาร์ตโฟนที่มีฟีเชอร์ตรงตามความต้องการของลูกค้า แต่มีราคาที่เอื้อมถึงได้สำหรับคนทั่วไป
การทำรถยนต์ไฟฟ้าขายของ Xiaomi ก็แทบไม่ต่างกัน เพราะเลือกจะขายในราคาประมาณ 1 ล้านบาท แต่รูปทรงภายนอกคล้ายกับ Porsche และ Tesla
พอออกมาแบบนี้ ทำให้ในเวลาแค่ 27 นาทีหลังจากที่ Xiaomi เปิดให้จองรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง มียอดสั่งจองล่วงหน้ามากถึง 50,000 คันเลยทีเดียว
จนในเดือนมีนาคม ปีนี้ Xiaomi ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองทั้งหมดกว่า 200,000 คันไปแล้ว..
อย่างไรก็ตาม Xiaomi ก็ไม่ได้หยุดตัวเองแค่เท่านี้
เพราะจริง ๆ แล้ว ความฝันของบริษัทสูงสุดในตอนนี้
ก็คือ อยากทำสิ่งที่เรียกว่า “Human x Car x Home”
พูดง่าย ๆ คือ การทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ตโฟน
หรือรถยนต์เชื่อมต่อเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ผ่านระบบปฏิบัติการของตัวเองที่ชื่อว่า HyperOS
1
ซึ่งปัจจุบัน ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ตโฟน และรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi ใช้ระบบปฏิบัติการนี้เป็นเบื้องหลังอยู่แล้ว การเชื่อมต่อถึงกันก็คงทำได้ไม่ยากเย็นอะไรนัก
ในวันแรกที่ Xiaomi ก่อตั้งขึ้นมา เหลยจวิน ได้รับแรงบันดาลใจจาก Apple เพราะชื่นชมในตัวของสตีฟ จอบส์
ที่เป็นเหมือนไอดอลของตัวเอง
ในวันนี้ แม้ทุกอย่างจะดูเลียนแบบมาจาก Apple
แต่ดูเหมือนว่า Xiaomi กำลังไปไกลกว่าการขาย
สมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แค่อย่างเดียว
เพราะการเดิมพันที่คุยกันในบริษัทแค่ 75 วัน และสร้างรถยนต์ไฟฟ้าได้สำเร็จในเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้น
ในขณะที่ Apple ใช้เวลามานานกว่า 10 ปีกับการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ยอมยกธงขาว ในปีที่ Xiaomi เริ่มสร้างอาณาจักรรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง..
โฆษณา