วันนี้ เวลา 08:32 • การศึกษา

ความวิบัติยังคงก้าวหน้าต่อไป

การศึกษาไม่ใช่แค่ตัวเลขในสมุดพก แต่คือการมองเห็นศักยภาพที่แตกต่างของเด็กแต่ละคน ไม่ว่าจะเก่งวิชาการ ศิลปะ กีฬา ดนตรี หรือภาษา
ทุกความสามารถล้วนมีคุณค่าและต่อยอดได้ในอนาคต
ถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องเปลี่ยนมุมมองว่า “เด็กทุกคนมีความเก่งในแบบของตนเอง”
ช่วงนี้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายใหม่ที่น่าสนใจเลยครับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบแนวทางให้กับผู้บริหาร สพฐ. ชุดใหม่ ว่าควรปรับระบบการวัดและประเมินผลของเด็ก ๆ เสียที เพราะที่ผ่านมาเรามักใช้เกณฑ์เดียวกันหมด ทั้งที่จริงแล้วเด็กแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นวิชาการ ศิลปะ ดนตรี หรือกีฬา
สิ่งที่รัฐมนตรีเสนอคือ อย่ามองแค่การสอบแล้วเอามาจัดอันดับ เด็กได้ที่ 1 ถึง 5 หรือรั้งท้ายห้อง เพราะมันไม่ได้สะท้อนการเรียนรู้ที่แท้จริง แต่ควรดูว่าเด็กคนนั้นพัฒนาขึ้นจากตัวเองแค่ไหนเมื่อเทียบกับที่เคยเป็น หรือถ้าเทียบกับเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เด็กคนนั้นก้าวหน้าไปมากน้อยเพียงใด แบบนี้จะทำให้เห็นการเรียนรู้ที่แท้จริงมากกว่า
อีกเรื่องสำคัญที่รัฐมนตรีพูดไว้ก็คือ คำว่า “เด็กเก่ง” ไม่ควรจำกัดอยู่แค่เด็กที่เรียนวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์เก่งเท่านั้น เพราะความเก่งมีหลายรูปแบบ เด็กบางคนถนัดศิลปะ กีฬา ภาษา หรือดนตรี ซึ่งถ้าได้รับการสนับสนุนจริงจัง ก็สามารถต่อยอดไปสู่อาชีพและอนาคตได้เหมือนกัน
แนวคิดนี้ยังอยากให้ผู้ปกครองเข้าใจด้วยว่า ถ้าลูกสนใจหรือมีความสามารถด้านไหน ก็ควรส่งเสริมเต็มที่ แม้มันจะไม่ใช่วิชาหลักก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้ว ความถนัดและความสุขของเด็กคือกุญแจสำคัญในการพัฒนาเขาให้เติบโตอย่างมั่นใจ
#nbtconnext #คนคลองกระแชง #เล่าเท่าที่รู้
โฆษณา