14 ต.ค. เวลา 01:04 • ธุรกิจ

สร้างแบรนด์ให้ต่าง ด้วยเทคนิค 50:50

รวมแนวคิดสร้างแบรนด์ ให้เลียนแบบไม่ได้ จาก La Glace และ Guss Damn Good
ในยุคที่สินค้าใหม่เกิดตลอดเวลา จะทำยังไงให้คนเห็นว่าสินค้าของเราแตกต่าง?
รู้จักกับศาสตร์การสร้างแบรนด์ให้แตกต่างแบบที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้ จาก Session: The Art of Uniqueness ศาสตร์แห่งการสร้างแบรนด์ ให้เลียนแบบไม่ได้ โดยคุณระริน ธรรมวัฒนะ, Chief Icecream Artist and Founder, Guss Damn Good และคุณเอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์, CEO La Glace ในงาน ลงทุนแมน SUMMIT 2025
อยากสร้างสินค้าให้แตกต่าง ต้องมอบประสบการณ์ที่มีความหมาย
🍦 สำหรับ ‘Guss Damn Good’
Guss Damn Good แบรนด์คราฟต์ไอศกรีมที่แตกต่าง และน่าจดจำในยุคนี้ เริ่มมาจากคุณระริน ธรรมวัฒนะ และคุณนที จรัสสุริยงค์ ได้เจอกับคราฟต์ไอศกรีมที่มีรสชาติอร่อยที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และได้พบ Insight สุดประทับใจ คือ คนที่บอสตันกินไอศกรีมตอนหน้าหนาว เพราะว่ามันทำให้เขาคิดถึงช่วงฤดูร้อน ไม่ว่าจะเป็นพื้นหญ้าสีเขียว แสงแดดอ่อน ๆ
รวมถึงการออกไปปิกนิกกับครอบครัว ซึ่งทั้งสองคนก็เห็นว่าไอศกรีมมันลึกซึ้งและมีความหมายมาก ทั้งเรื่องของ Moment และ Feeling จึงอยากนำสิ่งเหล่านี้กลับมาที่ประเทศไทย
Guss Damn Good มี Tagline ที่ว่า ‘Feeling" Crafted Ice-Cream’ คือเป็นคราฟต์ไอศกรีมที่มีความรู้สึกอยู่ภายใน และมีปรัชญาในการทำ Product Development คือ ‘Story to Flavor’
🔹 ส่วนของ Product Development กับแบรนด์อื่น ๆ Guss Damn Good มีการไป Collaboration กับแบรนด์มากมายกว่า 200 แบรนด์ จากปรัชญาดังกล่าว ทำให้ Guss Damn Good คราฟต์เรื่องราวของแบรนด์นั้น ๆ ให้มาเป็น Feeling และพัฒนาต่อมาเป็น Flavor ซึ่งก็จะทำให้สามารถส่งผ่านเรื่องราวของแบรนด์ต่าง ๆ ให้มาอยู่ในไอศกรีมได้อย่างลงตัว
ซึ่งส่วนของขั้นตอนการพัฒนานั้น ทาง Guss Damn Good ก็ได้มีการพูดคุยกับแบรนด์ และเอา Key Message หรือโจทย์ของเขา เช่น สิ่งที่ต้องการสื่อ, วัฒนธรรม, สีของสินค้า มาอยู่ในรสชาติของไอศกรีม Guss Damn Good ให้ได้
🔹 ส่วนของ Product Development ของ Guss Damn Good ในตอนนี้ Guss Damn Good มี Outlet มากถึง 18 สาขา คุณระริน ธรรมวัฒนะ เล่าว่าลูกค้าที่มากินไอศกรีมก็จะชอบกินไอศกรีมที่เป็นสกู๊ป และทางแบรนด์เองก็อยากที่จะขยี้ประสบการณ์ของลูกค้า ให้มากกว่าการกินไอศกรีมแค่หนึ่งสกู๊ป จึงออก ‘Sundae in a cup’ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากว่าลูกค้าได้กินไอศกรีมที่มี Texture หลากหลาย เช่น อุณหภูมิของไอศกรีม
โดยจะเห็นว่าสินค้าที่ออกมานอกจากสามารถมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้แล้ว ยังมอบความแปลกใหม่จากสิ่งที่ดูไม่น่าเข้ากันให้ออกมาลงตัวได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ Guss Damn Good ทำเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์นั่นเอง
💄 สำหรับ ‘La Glace’
La Glace เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนี้ ซึ่งคุณเอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์ ก็ได้กล่าวว่า แกนหลักของ La Glace คือการแบ่งการออกสินค้าใหม่เป็น ‘50/50’
🔹 50% แรก ในส่วนแรก มาจาก การทำตามใจสิ่งที่ต้องการจะออก ไม่ได้ดูในเรื่องของเทรนด์ตลาด และ Data แต่แค่รู้สึกว่าบางครั้งการที่เราสร้างสิ่งใหม่บางอย่าง เราไม่สามารถที่จะถามลูกค้าได้ ซึ่งสินค้าในส่วนนี้จะเน้นในความ Creative หรือเรียกอีกอย่างว่า Fresh Idea
👉 คุณเอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์ ก็ได้แชร์ว่า Fresh Idea ที่ได้มาบางครั้งมันก็เกิดจากการปล่อยใจ หรือการเสพอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การหาไอเดียจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว, ต่าง Industry หรือหาจากสิ่งที่ไม่คิดจะทำแล้ววันหนึ่งมันก็จะค่อย ๆ ประกอบร่างออกมาเป็น Idea เอง
🔹 50% ที่สอง ในส่วนนี้จะทำโดยการ Matching ในเรื่องของ Data ดูว่า เทรนด์ไหนกำลังมา เช่น ตอนนี้เทรนด์ผิวฉ่ำวาวกำลังมาแรง ก็จะออกสินค้าประมาณนั้นและดัดแปลงบางอย่างที่เป็นตัวตนของ La Glace เข้าไปในสินค้าชิ้นนั้น แล้วจึงปล่อยสินค้าชิ้นนั้นออกมาสู่ตลาด
สร้าง Branding ให้น่าจดจำ จากการทำตัวเป็นนักเล่าเรื่อง ฉบับ ‘Guss Damn Good’
🍦 สำหรับ ‘Guss Damn Good’
เรื่องของ Branding ทาง Guss Damn Good มี 4 เรื่องที่เป็นสิ่งที่แตกต่าง ประกอบด้วย
👉 1. Fun: โดย Guss Damn Good เองสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูมีความสนุกสนาน ให้กับคนที่มองเข้ามาที่แบรนด์
👉 2. Attention to Detail: สำหรับ Guss Damn Good เองก็พยายามที่จะส่ง Attention to Detail ต่าง ๆ ให้ลูกค้า เช่น ไอศกรีมที่มีลูกเล่นในการกิน กินเข้าไปแล้วเจอส่วนผสมต่าง ๆ หรือทางฝาของ Product เองก็เป็นลายมือ
👉 3. Bold: ทาง Guss Damn Good กล้าทำในสิ่งที่หลาย ๆ แบรนด์ไม่กล้าทำ เช่น ทำไอศกรีมรสชาติห่านพะโล้ เป็นต้น
👉 4. Storyteller: แบรนด์ Guss Damn Good เองเป็นนักเล่าเรื่องอีกหนึ่งคนที่เล่าเรื่องผ่านไอศกรีม
สำหรับการ Collaboration กับแบรนด์อื่น นอกจาก Guss Damn Good จะเข้ามาช่วยในการเล่าเรื่องแล้ว ก็ยังเข้ามาช่วยสร้างอารมณ์ (Emotional) ให้กับลูกค้าแบรนด์นั้นด้วยเช่นกัน
สร้าง Branding และ Marketing ให้น่าสนใจ ด้วยการใส่ ‘จริต’ ที่ใช่ลงไปในแบรนด์ ฉบับ ‘La Glace’
💄 สำหรับ ‘La Glace’
🔹 เรื่องของ Branding ทาง La Glace มองว่า Branding คือ สิ่งที่เราเป็นและพยายามจะสื่อสิ่งที่เป็นออกให้กับลูกค้าที่มองมา สิ่งนั้นคือ ‘ความมั่นใจ’ เพราะความมั่นใจคือแกนสำคัญที่จะทำให้เราใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องกังวล ทั้งความมั่นใจในตัวเอง, หน้าตา, เสื้อผ้า, ทรงผม และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่ง La Glace ต้องการจะสื่อว่า ไม่ได้เป็นเพียงแค่แบรนด์เครื่องสำอาง แต่เป็นแบรนด์ที่ต้องการสื่อจริตให้ลูกค้า และไม่ว่าเดินไปที่ไหนก็สามารถที่จะ Empower คนอื่น ๆ ได้ โดยส่งมอบจริตเหล่านั้นได้ผ่านการถ่ายแบบที่ La Glace อยากนำเสนอ
โดย La Glace แบ่งการทำ Marketing เป็น 2 เรื่อง ได้แก่
👉 เรื่องแรกที่เป็นเรื่องหลัก คือ การผลิต Content ซึ่งในแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีกฎกติกาต่างกัน La Glace ก็พยายามทำให้ถูกกฎกติกาตรงนั้น เพื่อนำส่งให้ถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งทางแบรนด์เองก็มีทีม Content ที่มีโครงสร้างสูตรสำเร็จ ที่รู้ได้ว่าเมื่อเราปล่อยคลิปออกมามันจะออกมาดีแน่นอน ก็เลยทำให้อัตราความสำเร็จสูงขึ้น รวมถึงทำงานกับทีม Data ที่รับฟังลูกค้า เมื่อเวลาปล่อยอะไรไปมันก็จะตรงจุดมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
👉 เรื่องที่สอง คือการทำ Billboard โดย Location ที่เลือกใช้ในแต่ละครั้งมาจาก Data Tracking ดูว่าจังหวัดไหนคนซื้อเยอะมากที่สุด ก็จะทำในพื้นที่นั้น ซึ่งใน Billboard ก็จะใช้ Visual และ Tagline เพื่อดึงดูดให้คนอ่านกลับมาอ่านซ้ำ
3 บทเรียนสำคัญที่ต้องรู้ ถ้าอยากเป็นผู้ประกอบการในยุคนี้
🎯 1. การเป็นผู้ประกอบการ ต้องมาพร้อมความเสียสละ ไม่ว่าใครก็ตามที่จะมาเป็นผู้ประกอบการ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือความเสียสละ เพราะไม่มีช่วงเวลาเริ่มงาน-เลิกงานที่ชัดเจนขนาดนั้น และเรายังคิดถึงธุรกิจของเราตลอด เหมือนกับเรา Include ธุรกิจที่ทำเข้ามาจนมันกลายเป็น lifestyle ของเราไปโดยปริยาย ดังนั้นหากใครจะมาเป็นผู้ประกอบการก็ต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ไว้
🎯 2. การเป็นผู้ประกอบการ ต้องยอมเหนื่อยเพื่อผลักดันสิ่งที่อยากทำให้เกิดขึ้น เช่น เทคนิค ‘80/20’ ดังนี้
20% คือ บางครั้งเราอาจจะมีความสุขกับสิ่งที่เราทำได้เพียงแค่ 20% ของวันเท่านั้น หรือคือ Joy ของเราในการดำเนินธุรกิจในทุก ๆ วัน
80% คือ มีงานอีก 80% ที่อาจจะเป็นงานที่เราไม่อยากทำในแต่ละวัน แต่เราต้องทำเพื่อที่จะผลักดันให้ 20% ของเรามันเกิดขึ้นได้
🎯 3. อุปสรรคจะทำให้เราเติบโตขึ้น เมื่อเป็นผู้ประกอบการไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงความล้มเหลวได้ แต่ขอให้กล้าที่ลงมือทำมัน เมื่อเราผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ จะทำให้เรามีสติในการจัดการกับเรื่องบางอย่างมากขึ้น ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เพราะบทเรียนที่ดีที่สุดคือ ‘การที่เราล้มเหลว และการที่เราแก้ไขมัน’
และนี่คือสรุปเรื่องราวการสร้างแบรนด์ของ 2 แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำในยุคนี้ จาก Session: The Art of Uniqueness ศาสตร์แห่งการสร้างแบรนด์ ให้เลียนแบบไม่ได้ โดยคุณระริน ธรรมวัฒนะ, Chief Icecream Artist and Founder, Guss Damn Good และคุณเอมลินทร์ ธีรธนากิตติพงษ์, CEO La Glace ในงาน ลงทุนแมน SUMMIT 2025
โฆษณา