Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Shoper Gamer
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 09:20 • การศึกษา
IT Why
Switch Layer 3 มีไว้ทำไม
โดย
ในโลกของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง Switch Layer 3 (สวิตช์ เลเยอร์ 3) ได้กลายเป็นคำตอบสำหรับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและ ลดความซับซ้อนของโครงสร้างเครือข่าย
★
Switch Layer 3 คืออะไร
Switch Layer 3 คือ สวิตช์เครือข่ายที่มีความสามารถพิเศษในการทำงานในเลเยอร์ 3 (Network Layer) ของ OSI Model ซึ่งหมายความว่ามันสามารถทำหน้าที่ได้ทั้ง Switching (การสลับข้อมูล) และ Routing (การหาเส้นทาง) ได้ในอุปกรณ์เดียว
★
ความแตกต่างจาก Switch ทั่วไป
○ Switch Layer 2 ทั่วไป ทำงานที่ชั้น Data Link (เลเยอร์ 2) โดยใช้แค่ MAC Address ในการส่งข้อมูล
○ Switch Layer 3 ทำงานได้ทั้งเลเยอร์ 2 และ เลเยอร์ 3 โดยใช้ทั้ง MAC และ IP Address ทำให้สามารถส่งข้อมูลข้ามเครือข่ายได้
★
Switch Layer 3 ทำงานอย่างไร
1) การวิเคราะห์แพ็กเก็ต ที่เข้ามา
2) การตัดสินใจเส้นทาง โดยใช้ IP Address เป็นหลัก
3) การส่งต่อแพ็กเก็ต หากเป็นข้อมูลภายใน VLAN เดียวกัน จะส่งต่อแบบ Layer 2 แต่ถ้าเป็นการส่งข้าม VLAN (Inter-VLAN) มันจะทำหน้าที่ Route (หาเส้นทาง) ให้เอง
4) การจัดการตาราง Routing แบบไดนามิก (Dynamic Routing)
★
ส่วนประกอบสำคัญที่เสริมเข้ามา
สวิตช์ Layer 3 มีฟีเจอร์ที่ยกระดับความสามารถให้เทียบเท่าหรือดีกว่าเราเตอร์ในบางด้าน
1) Routing Engine หน่วยประมวลผลการหาเส้นทาง ที่รองรับ Routing Protocols มาตรฐาน เช่น OSPF, EIGRP, BGP ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาเราเตอร์ภายนอก
2) IP Routing Table ตารางที่ใช้เก็บข้อมูลเส้นทางเครือข่ายทั้งหมด รองรับทั้ง Static และ Dynamic Routes เพื่อการหาเส้นทางที่รวดเร็ว
3) ACL (Access Control List) ฟีเจอร์ที่ใช้ควบคุมการเข้าถึงเครือข่าย สามารถฟิลเตอร์แพ็กเก็ตตาม IP หรือ Port เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
1
4) QoS (Quality of Service) หน้าที่จัดลำดับความสำคัญของ Traffic (เช่น ให้เสียงโทรศัพท์มี Priority สูงสุด) เพื่อรองรับ Real-Time Applications
1
★
ประโยชน์ของ Switch Layer 3
✅ ลดความล่าช้า (Low Latency) เนื่องจากสามารถทำ Routing ระหว่าง VLAN ได้เร็วมาก โดยไม่ต้องส่งข้อมูลไปให้เราเตอร์ภายนอก
✅ ลดความซับซ้อน ใช้งานอุปกรณ์น้อยลง เพราะรวม Switching และ Routing ไว้ในกล่องเดียว
✅ ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดความจำเป็นในการซื้อเราเตอร์ราคาแพงมาใช้เฉพาะกิจ
✅ เพิ่มประสิทธิภาพ บริหารจัดการ Bandwidth และ Traffic ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
★
ตัวอย่างการใช้งาน
Switch Layer 3 มีความสามารถในการตั้งค่าขั้นสูงหลายอย่าง เช่น
1) การทำ Inter-VLAN Routing โดยการกำหนด IP Address ให้กับ VLAN Interface โดยตรง และ เปิดใช้งาน IP Routing ก็จะทำให้ VLAN ต่างๆ สื่อสารกันได้ทันที
2) การตั้งค่า Static Route สามารถเพิ่มเส้นทางไปยังเครือข่ายภายนอกอื่นๆ ได้
3) การตั้งค่า ACL (ความปลอดภัย) สามารถกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อไม่อนุญาตให้ VLAN หนึ่งเข้าถึงอีก VLAN หนึ่งได้
★
สถานการณ์ที่เหมาะกับการใช้ Switch Layer 3
Switch Layer 3 คือโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ดังต่อไปนี้:
○ องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีหลายแผนก ต้องการแยก VLAN และ ต้องการการสื่อสารระหว่างแผนกที่รวดเร็ว แต่มีงบประมาณจำกัดสำหรับอุปกรณ์
○ Data Center ที่ต้องการประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์สูงมาก และ ต้องการลด Latency ระหว่างระบบ
○ Campus Network ที่มีอาคารหลายหลัง ต้องการจัดการเครือข่ายแบบรวมศูนย์ และ มีผู้ใช้จำนวนมาก
✏️ Shoper Gamer
>>
https://shopergamer.vercel.app/
✓
Switch คืออะไร 👇
>>
https://www.blockdit.com/posts/66c029b944df4c9850ca5bec
✓
Data Link Layer ใน OSI Model คืออะไร 👇
>>
https://www.blockdit.com/posts/687095f207472d530d85bda1
✓
Network Layer ใน OSI Model คืออะไร 👇
>>
https://www.blockdit.com/posts/687524a91224853d5b1535c8
Credit :
👇
●
https://www.ruijie.com/fr-fr/support/tech-gallery/l2-switches-and-l3-switches
●
https://planetechusa.com/what-is-a-layer-3-switch/
●
https://learningnetwork.cisco.com/s/question/0D53i00000Kt0UICAZ/hoping-for-clarification-on-layer-3-switching
●
https://www.fibermall.com/blog/layer-3-switches.htm
ข่าวรอบโลก
เทคโนโลยี
networking
บันทึก
1
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Gadget Why
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย