15 ต.ค. เวลา 21:09 • ปรัชญา

watthakhanun

แม้แต่ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนปัจจุบัน ที่ไม่รู้ว่าข้ามห้วยมาจากไหน ? ก็มีความเด็ดขาดที่น่าเลื่อมใสมาก ประมาณว่าถ้าหากว่าใครมีนอกมีในอะไรกับพระ จะจัดการอย่างเด็ดขาด..! แล้วให้ทุกคนช่วยกันดูแลควบคุมวัดวาอารามให้อยู่ในกรอบ กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้ว "น้ำตาจิไหล..!"
ท่านทั้งหลายไม่เคยที่จะศึกษาเลยแม้แต่น้อยว่า ในช่วงที่ผ่านมานั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแต่ละจังหวัด หรือแม้กระทั่งปัจจุบันนี้อีกหลายจังหวัด ที่ตั้งสำนักงานก็คือวัด..! ส่วนท่านซึ่งมีที่ตั้งสำนักงานต่างหาก พวกบรรดาข้าวของเครื่องใช้ ครุภัณฑ์ ลหุภัณฑ์ แม้กระทั่งพระพุทธรูปประจำสำนักงานก็ยังขอไปจากวัด..! งบประมาณสนับสนุนต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็ขอจากวัด..! แล้วท่านจะให้เจ้าหน้าที่ของท่าน ไปเข้มงวดกวดขันกับบุคคลที่ช่วยเหลือท่านทุกอย่างแบบไหนกัน ?
เรื่องพวกนี้ทำให้กระผม/อาตมภาพนึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เพิ่งจะเป็น "วันนวมินทรมหาราช" ซึ่งเป็นการรำลึกถึงพระองค์ท่านเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบรมราโชวาทตอนหนึ่งของพระองค์ท่านก็คือ "เราต้องเข้าใจ เข้าถึง จึงจะพัฒนาได้"
แต่บรรดาเสนาบดีของเราก็ดี ผู้ที่เป็นใหญ่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาก็ตาม ไม่ได้มีความเข้าใจแบบธรรมเนียมในพระพุทธศาสนาเลย แถมยังไม่เข้าใจเสียด้วยว่า งบประมาณน้อยนิดที่ท่านจัดสรรไปให้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดไม่เคยพอที่จะใช้งาน ยังต้องไปขอจากพระอยู่เลย..!
แล้วท่านก็จะให้เขาไปเข้มงวดกวดขันกับพระ ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งก็ "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" เพราะว่านี่ก็ผู้บังคับบัญชา นั่นก็ผู้มีพระคุณ พูดง่าย ๆ ว่าทุกวันนี้ที่อยู่ได้ ก็เกิดจากการที่พระภิกษุสามเณรให้การสนับสนุนช่วยเหลือ แต่ท่านทั้งหลายไม่เข้าใจถึงตรงนี้ มีแต่ต้องการจะให้ลูกน้องไปเข้มงวดกวดขันในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เป็นการแก้ไขปัญหาในทางที่ไม่ถูกต้อง
ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเป็นต้นมา จะต้องประกาศยุทธศาสตร์ชาติ จะ ๒๐ ปี ๓๐ ปี หรือ ๔๐ ปีก็ตาม ในการสร้างเด็กของเราตั้งแต่ระดับปฐมวัย ให้รู้จักละอายชั่ว กลัวบาป โตไปไม่โกง อยู่ในลักษณะของการปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกินความใฝ่ฝัน เพราะว่าประเทศญี่ปุ่นทำสำเร็จมาแล้ว คนของเขาซื่อสัตย์ ซื่อตรง ส่วนใหญ่แล้วกล้าพูดกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และมีจิตสาธารณะช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มที่
เรื่องพวกนี้ไม่ใช่คนยุคหนึ่งสมัยหนึ่งจะทำได้ แต่ต้องเป็นการปลูกฝังกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก เมื่อประกาศยุทธศาสตร์แล้ว คราวนี้ก็เจาะลงไปเลยว่าแต่ละกระทรวงต้องทำอย่างไรบ้าง ? เรื่องพวกนี้แค่ปรึกษาบรรดานักวิชาการ รับรองได้ว่าขั้นตอนต่าง ๆ จะออกมาวิลิศมาหรากว่าที่ท่านคิดเสียอีก
พูดง่าย ๆ ว่ามีอำนาจอยู่ในมือแต่ใช้ไม่เป็น หรือใช้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง มากกว่าที่จะทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ขอให้ตนเองอยู่ในอำนาจ สามารถที่จะบิดเบือนเรื่องทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของตนเองได้ ต่อให้เอาชาวมุสลิมเข้ามาเป็นรัฐมนตรี สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติเท่าไรก็ช่างมัน ขอให้กูได้ประโยชน์ก็แล้วกัน..!
กระผม/อาตมภาพอยากจะเตือนว่า สิ่งที่บรรพบุรุษของท่านสร้างเสริมมาจนมีชื่อเสียงเกียรติคุณปรากฏนั้น จะโดนทำลายฉิบหายวายป่วงลงไปก็เพราะน้ำมือลูกหลานอย่างท่านนี่แหละ อย่าให้เหมือนกับเพลงที่เขาร้องกันว่า "วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร..!" ก็แล้วกัน..!
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๘
โฆษณา