🚨 ด่วนที่สุด! สหรัฐฯ-อังกฤษ ผนึกกำลัง "คว่ำบาตร" เครือข่ายสแกมเมอร์ Jin Bei Group/Prince Group
นี่คือการประสานงานครั้งใหญ่ที่สุดและเป็นประวัติการณ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ในการโจมตีเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อพลเมืองทั่วโลก โดยมีเป้าหมายหลักคือ Prince Group และบริษัทลูก Jin Bei Group ในกัมพูชา
1. "เฉิน จื้อ" กับอาณาจักรอาชญากรรมข้ามชาติ
นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) คือผู้ก่อตั้งและประธานของ Prince Holding Group (Prince Group) กลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งในกัมพูชา ซึ่งประกอบธุรกิจที่ดูเหมือนจะถูกกฎหมายในด้านอสังหาริมทรัพย์ การบริการทางการเงิน (รวมถึง Prince Bank Plc.) และธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริการ (โรงแรม และคาสิโน)
แต่ล่าสุด กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา รวมถึงสหราชอาณาจักร ได้ประกาศคว่ำบาตรและดำเนินคดีทางอาญา โดยกำหนดให้ Prince Group เป็น "องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (TCO)" และมีการยึดทรัพย์สินเป็นบิตคอยน์มูลค่ามหาศาล ซึ่งถือเป็นการริบทรัพย์สินครั้งประวัติศาสตร์
นายเฉิน จื้อ ประธาน Prince Group ผู้สร้างอาณาจักรธุรกิจหรูหราในกัมพูชา ซึ่งถูกนานาชาติระบุว่าเป็น 'องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ' (TCO)
รายได้มหาศาลของ Prince Group ถูกกล่าวหาว่ามาจากการดำเนินงานผิดกฎหมายอย่างเป็นระบบ โดยใช้บริษัทในเครือเป็นเครื่องมือสำคัญ:
Jin Bei Group คืออะไร? Jin Bei Group เป็นบริษัทลูกของ Prince Group ที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมและคาสิโนระดับหรูในเมืองสีหนุวิลล์ แต่ถูกระบุว่าอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ถูกใช้เป็น "ศูนย์หลอกลวง" (Scam Compounds)
เกี่ยวข้องคดีฆาตกรรม: Jin Bei Group ยังถูกเชื่อมโยงกับรายงานอาชญากรรมร้ายแรง รวมถึง คดีฆาตกรรม หยี่หมิงต้าหลี่ ชายชาวจีนวัย 25 ปี ที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงในเครือข่าย
การปิดช่องทางฟอกเงิน (คว่ำบาตร): สหรัฐฯ และอังกฤษ ได้ร่วมกันประกาศคว่ำบาตร โดยขึ้นบัญชีดำบริษัทในเครือ 146 แห่ง รวมถึง Jin Bei Group และ Prince Bank Plc. การคว่ำบาตรนี้จะ ตัดเครือข่ายเหล่านี้ออกจากระบบการเงินของสหรัฐฯ และอังกฤษ ทำให้เงินสกปรกไม่สามารถนำไปใช้จ่ายหรือลงทุนอย่างถูกกฎหมายได้อีก
การทำลายฐานปฏิบัติการ (การดำเนินคดี): การดำเนินคดีทางอาญาและการกำหนดเป้าหมายองค์กรที่ใช้ทรัพย์สินเป็นศูนย์สแกมเมอร์ (เช่น Jin Bei Group) เป็นการ ทำลายโครงสร้างทางธุรกิจ ที่อยู่เบื้องหลังศูนย์กักขังและบังคับใช้แรงงาน