16 ต.ค. เวลา 05:06 • ธุรกิจ
1. หากคุณเป็นคนบ้านนอก คือปกติใช้ชีวิตในต่างจังหวัด การติดต่อหน่วยงานราชการในต่างจังหวัด ยังคงไม่ต่างอะไรกับการเข้าพบเจ้าขุนมูลนาย ที่มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ยกเว้น คุณเป็นผู้ที่พอจะมีบารมี มีฐานะทางสังคมในท้องถิ่น ผ่านนามสกุล หรือลูกเถ้าแก่ โรงสี ไร่อ้อย บริษัทห้างร้านขนาดใหญ่ บรรดาเจ้าหน้าที่จะต้อนรับด้วยความยิ้มแย้มและกุลีกุจอ ทักทายตั้งแต่คุณเดินขึ้นบันไดมายังสำนักงาน
2. หากคุณเป็นคนบ้านนอก กำเนิดจากบ้านนอก แต่คุณไปศึกษาอยู่ต่างถิ่นแดนไกล ทำงานอยู่ในเมืองหลวง เมื่อมีเหตุจำเป็นที่จะต้องติดต่อหน่วยงานราชการในต่างจังหวัดบ้านเกิด บุคลิกที่มั่นอกมั่นใจ และการพูดจาฉะฉาน เปี่ยมด้วยความรู้และการแต่งกายที่ผิดไปจากชาวบ้าน สายตาเจ้าหน้าที่จะมารวมตัวกันอยู่ที่ตัวคุณ และจะมีเจ้าหน้าที่เดินนอบน้อมมาถามว่า คุณมาติดต่อเรื่องใด ทั้งๆ ที่ยายหลานคู่หนึ่ง มานั่งรอก่อนคุณ จนผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เด็กน้อยร้องไห้โยเย เป็นที่น่าเวทนา
3. คุณต้องตระหนักถึงจุดอ่อนของวาทะกรรมคำว่า "การกระจายอำนาจจากส่วนกลาง ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" ว่ามันไม่ต่างอะไรกับ "ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม" แถมด้วยสิ่งที่เพิ่มเติมมาก็คือ ผู้ใหญ่ลี กลัวเมียหลวง หวงเมียน้อย ตามต้อยหลานสาวเมีย จนสิ่งเหล่านี้ปะปนไปกับงาน พี่เมีย น้องเมีย แม่เมีย พ่อตา ป้าเมีย บุคคลเหล่านี้คือ "VVIP" เสมอ
4. ส่วนตัวเราคิดว่ารัฐวิสาหกิจ พอใช้ได้อยู่ หรือว่าเป็นเพราะเราใช้ทั้งความรู้ เงินทอง และบารมีข่มก็ไม่ทราบ พูดตรงๆแบบนี้แหละ! แต่ภาพรวมคือเราคิดว่า ดีกว่าหน่วยงานราชการ ที่ญาติๆเราบ่นให้ฟัง
สรุปส่วนตัวเรามองว่า
ส่วนกลาง ควรไปสุ่มตรวจการให้บริการ
ของหน่วยงานราชการในตจว.บ่อยๆ
คนเฒ่าคนแก่ หูตาฝ้าฟาง คนยากไร้ ไม่มีความรู้
ช่วยพูดจากับเขาดีๆ ช่วยลุกจากโต๊ะทำงาน
เดินออกมาไถ่ถามกันบ้างก็ได้ไหม
เพราะพวกคุณได้รับเงินเดือน100%
จากภาษีของพี่น้องประชาชน
โฆษณา