16 ต.ค. เวลา 07:04 • การเมือง
1. ทบทวนก่อนถกเถียง
เมื่อมีสปส. ของกระทรวงแรงงาน สำหรับลูกจ้างและผู้ที่มีความสามารถจ่ายเงินเข้ากองทุนฯ (มาตรา 33, 39 และ40) มาตั้งแต่เรายังไม่เกิด ต่อมาในปี '45 ก็เกิดสปสช. ของกระทรวงสธ. ที่จัดสวัสดิการบัตรทอง "สำหรับคนจนผู้ยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีความสามารถจ่าย"
โครงการบัตรทองเริ่มนำร่องปี'44 โดยรัฐบาลคุณทักษิณฯ
เป้าหมายคือให้คนไทยทุกคนมีสิทธิรักษาอย่างเท่าเทียม
หนึ่งในนโยบายสธ.ที่สำคัญของไทย
ที่ได้รับการชื่นชมว่า "ดีที่สุดในโลกนาจา"
....แต่ปัญหาใหญ่สุดก็คือ....
จำนวนคนไทยที่อยู่ในระบบสปสช.
คิดเป็นสัดส่วนถึงกว่า 70% ของประชากรทั้งหมด!
เพราะไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุนาจา!
....แต่ตัวเลขจากสภาพัฒฯบอกว่า...
จำนวนคนไทยที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน
คิดเป็นสัดส่วนราว 4-5% ของประชากรทั้งหมดนาจา!
2. พิจารณาเรื่องราวโดยธรรม
การจัดทำงบฯ ของสปสช. จะเริ่มต้นจากการ "ประเมินความต้องการงบประมาณของหน่วยบริการ" ก่อนเสมอ จะตั้งขึ้นมาลอยๆไม่ได้ ซึ่งได้จากการรวบรวมข้อมูลมาจาก หน่วยบริการในพื้นที่ อาทิ รพ.และคลีนิก ที่อยู้ในระบบสปสช. ผ่านจำนวนผู้มีสิทธิฯ จากนั้นจึงเสนอร่างงบฯ ผ่านพ่อคือกระทรวงสธ. เพื่อให้แม่พิจารณาก่อน (กระทรวงการคลัง) แต่ถ้าแม่เขียม! แม่จะด่าและบอกว่า สปสช. เอ็งไปปรับปรุงมาใหม่ มันเยอะไปป่าววะ! จนเมื่อปรับปรุงแล้ว ก็ยังต้องส่งให้พี่ชายคือครม.อนุมัติ ก่อนส่งไปให้พี่สาวคือสส. (โดยปกติพี่สาวใช้ปากทำงาน)
1
จากนั้นจึงจะสามารถจัดสรรงบไปยังหน่วยบริการ โดยต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนเสมอ เพื่อให้การเบิกจ่ายมีประสิทธิภาพและความโปร่งใส่ตรวจสอบได้
1
3. รพ.มงกุฎวัฒนะ คือรพ.เอกชน และรพ.ดังกล่าว ก็ไม่ใช่รพ.เอกชนรายเดียว ที่เลือกเข้าระบบบัตรทอง ยังมี รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล, รพ.พริ้นซ์ สุขุมวิท, รพ.พระรามเก้า, รพ.วิภาราม และรพ.สมิติเวช อีกด้วย
แต่เหตุใดมีเพียงรพ.พระมงกุฎ
ที่ออกมาให้ข่าว และแถมตัวเลขหนี้
ก็ยังไม่ตรงกันกับสปสช.อีกด้วย
ส่วนตัวเราจึงสนใจ
และตั้งคำถามเฉพาะกรณีรพ.เอกชน
อย่างรพ.มงกุฎวัฒนะ ที่มีข่าวบนหน้าสื่อ
มาโดยตลอดเวลา
............
ขออภัยที่ตอบไม่ตรงคำถาม
เพราะมันตอบไม่ได้
ใครตอบได้ จะเลี้ยงข้าวมันไก่บุญตงกี่นาจา!
1
โฆษณา