วันนี้ เวลา 07:21 • ข่าว

รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยึดบริษัท Nexperia อ้างความเสี่ยงด้านความมั่นคง ไล่ตะเพิด CEO จีน

Blockdit Originals: บทความพิเศษ
สงครามการค้าเดือดพล่านทุกสมรภูมิ!! ล่าลุดหวยเบอร์ใหญ่มาออกที่ Nexperia บริษัทเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ เมื่อรัฐบาล ดัชต์ประกาศยึดกิจการมาเป็นของรัฐ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงทางเทคโนโลยี ตราบใดที่บริษัทยังผู้บริหารสูงสุดเป็นคนจีน จะทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ของชาติตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรง
เป็นการเคลื่อนไหวที่น่าตกใจพอสมควร ที่เกิดขึ้นในประเทศโลกเสรีตะวันตก อย่างเนเธอร์แลนด์ เมื่อกระทรวงเศรษฐกิจของเนเธอแลนด์ได้ออกแถลงการณ์ว่า ได้ใช้อำนาจตาม "กฎหมายความพร้อมของสินค้า" (Goods Availability Act) ในสถานการณ์ที่รัฐบาลเล็งเห็นแล้วว่ามีความจำเป็นพิเศษอย่างยิ่งยวด เพื่อเข้าควบคุมกิจการของบริษัท Nexperia ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา
ซึ่งกฎหมายว่าด้วยเรื่องความพร้อมของสินค้าฉบับนี้ มีใช้ตั้งแต่ปี 1952 ในยุคสงครามเย็น ที่อนุญาตให้รัฐสามารถเข้าแทรกแซงกิจการของบริษัทเอกชนได้ทันที หากพิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคง และ เศรษฐกิจของชาติ และให้แน่ใจว่าสินค้าที่มีความจำเป็นจะต้องมีอย่างพอเพียงต่อความต้องการของประเทศ
กรณีที่รัฐยึดกิจการบริษัทเอกชนอาจมีให้เห็นบ่อยๆในประเทศสังคมนิยม แต่กับประเทศเสรีนิยมตะวันตก อย่างเนเธอแลนด์ด้วยแล้ว นับเป็นเรื่องแปลกทีเดียว และที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือเหตุผลของการยึดกิจการบริษัทเซมิคอนดัคเตอร์ยักษ์ใหญ่ว่ามาจากความบกพร่องด้านการบริหารที่ร้ายแรง จนไม่อาจไว้ใจให้ Nexperia อยู่ภายในการนำของ CEO จาง เสว่เจิ้ง อีกต่อไปได้
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องเข้าแทรกแซงกิจการ Nexperia เพื่อให้แน่ใจว่าเนเธอร์แลนด์จะมีทั้งชิพสำเร็จรูป และ กึ่งสำเร็จรูป พร้อมใช้ในประเทศในกรณีฉุกเฉินก่อนที่เราจะสูญเสียขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี ที่เสี่ยงต่อความมั่งคงทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์และยุโรป
โดยรัฐบาลดัชต์ยืนยันว่า กระบวนการผลิตชิพในโรงงาน Nexperia ต่อจากนี้ไปยังคงดำเนินไปตามปกติ จะมีเพียงการบริหารจัดการภายใน หรือการตัดสินใจของผู้บริหารชุดเดิมจะถูกสั่งระงับ ที่มีผลย้อนหลังด้วย หากมีฝ่ายใดได้รับผลกระทบจากการแทรกแซงกิจการครั้งนี้ ให้ไปสู้กันอีกทีในชั้นศาล
2
Nexperia เป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดัคเตอร์ระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองไมเมเคิน ของเนเธอร์แลนด์ มีต้นกำเนิดจากการควบกิจการของ Phillips กับ Mullard ที่เป็นบริษัทผลิตเครื่องไฟฟ้าของอังกฤษในปี 1920 แต่ต่อมาในปี 2006 ก็ได้แตกธุรกิจมาผลิตชิพเซมิคอนดัคเตอร์ จนกลายมาเป็น Nexperia ในปัจจุบัน
ประเด็นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นในปี 2018 เมื่อมีกลุ่มทุนจากจีนโดย Beijing Jianguang Asset Management ได้เข้าซื้อกิจการของ Nexperia แล้วนำไปขายต่อให้กับ Wingtech Technology บริษัทเซมิคอนดัคเตอร์จากเจ้อเจียงที่ก่อตั้งโดย จาง เสว่เจิ้ง แต่รูปแบบองค์กรเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้การดูแลของรัฐบาลจีน เมื่อ Wingtech ควบกิจการ Nexperia ได้แล้ว ก็ส่ง จาง เสว่เจิ้ง มาดูแลกิจการในเนเธอร์แลนด์ด้วย
ดังนั้น Nexperia จึงถูกมองว่าเป็นบริษัทที่เบื้องหน้าเป็นกังหัน แต่เบื้องหลังเป็นมังกรซ่อนอยู่อย่างลึกซึ้ง กลายเป็นผู้ผลิตชิพรายใหญ่ของยุโรป มีศักยภาพในการจ้างงานมากกว่า 12,500 ตำแหน่ง และ ผลิตชิพได้มากถึง 5 หมื่นล้านชิ้นในแต่ละปี
2
และวันนี้ความแข็งแกร่งของ Nexperia ก็กลายเป็นเป้าโจมตีของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ประกาศสงครามการค้ายก 2 กับจีน โดยเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลเนเธอแลนด์ได้รับข้อความสั้นๆ จากประเทศมหาอำนาจจากอีกฟากของแอตแลนติกว่า รัฐบาลทรัมป์รู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง ที่ Nexperia ยังมีจาง เสว่เจิ้ง เป็น CEO แต่ตราบใดที่ Nexperia ยังมีผู้บริหารเป็นคนจีน ก็จะไม่สามารถส่งออกชิพเข้าตลาดสหรัฐได้
และสหรัฐก็มีเหตุผลในการสนับสนุนความเห็นนี้ เพราะรัฐบาลวอชิงตันได้ขึ้นบัญชีดำ บริษัท Wingtech ของ จาง เสว่เจิ้ง เป็นนิติบุคคลที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐมาแล้ว เพราะมีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในกิจการเซมิคอนดัคเตอร์ ซึ่งสหรัฐถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความละเอียดอ่อนสูง
คำตอบเดียวที่สหรัฐต้องการจาก Nexperia คือ จาง เสว่เจิ้ง และ Wingtech ต้องออกไป แต่จะทำอย่างไรในเมื่อมันเป็นกิจการของคนจีนไปแล้ว และนั่นจึงเป็นที่มาของการขุดกฎหมายเก่าสมัยสงครามเย็นออกมาใช้ เพื่อยึดคืน Nexperia กลับคืนเป็นของรัฐ และปลด จาง เสว่เจิ้ง ออกจากตำแหน่ง CEO ได้ แล้วจึงแต่งตั้ง สเตฟาน ทิลเกอร์ CFO เดิมของบริษัท ขึ้นเป็น CEO แทน
1
แน่นอนว่ารัฐบาลปักกิ่งไม่พอใจ จึงตอบโต้ทันควันด้วยการสั่งระงับการส่งออกชิ้นส่วนประกอบสำหรับผลิตชิพจากจีน ไปยังโรงงาน Nexperia ที่เนเธอร์แลนด์ทันที พร้อมประณามว่านี่คือการปล้นที่แฝงตัวมาในคราบของกฎหมาย และยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชาติตะวันตกกำลังหวาดกลัวความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน และใช้คำว่า "ภัยคุกคามความมั่นคง" เป็นข้อแก้ตัวที่ตามจีนไม่ทัน
ในขณะที่สนามรบเล็กที่ Nexperia ที่เชือดกันจนเลือดสาดไปแล้ว สนามรบใหญ่ระหว่างสหรัฐ และจีน ยังคงดำเนินต่อไปอย่างร้อนแรง หลังจากที่รัฐบาลจีนออกประกาศระงับการส่งออกสินแร่แรร์เอิร์ธ ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตชิพ Ai ระดับสูง โดนัลด์ ทรัมป์ก็เตรียมขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 100% และใช้อิทธิพลที่จะจำกัดการเข้าถึงชิพระดับสูง เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของจีนได้
เอาให้มันตายกันไปข้างหนึ่ง รางวัลโนบง โนเบลอะไร ไม่เอาแล้ว พอได้ลงสนามรบค่อยดูเป็นตัวเองหน่อย
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา