Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุนเกิร์ล
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 02:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ถ้าญาติไม่ได้ทำพินัยกรรมก่อนเสียชีวิต แบบในเรื่อง “ลักกันวันตาย”จะจัดการบัญชีการเงินของผู้ตายอย่างไร
หลายคนคงจะเห็น “ลักกันวันตาย” ภาพยนตร์เรื่องใหม่จาก Netflix ที่เป็นเรื่องราวของนายธนาคาร 2 คน แอบลักลอบนำเงินในบัญชีของคนตาย ออกมาใช้ส่วนตัว
ซึ่งทำให้ “ลูก” ที่เป็นทายาทตามกฎหมายของผู้ตาย ต้องออกตามหาเงินก้อนนั้น เพราะผู้ตายไม่ได้ทิ้งพินัยกรรมใด ๆ ไว้
แล้วสงสัยหรือไม่ว่า หากเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน อย่างพ่อแม่เสียชีวิตกะทันหัน โดยที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมก่อนตายไว้เหมือนในภาพยนตร์
เราที่เป็นลูก จะต้องทำอย่างไรต่อ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ตามขั้นตอนโดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีผู้เสียชีวิต สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การแจ้งตาย ภายใน 24 ชั่วโมง
โดยผู้พบศพ มีหน้าที่แจ้งเรื่องต่อนายทะเบียนในท้องที่ เพื่อออกใบมรณบัตรให้ครอบครัวหรือทายาท นำเอกสารไปใช้ดำเนินการเรื่องอื่น ๆ ต่อ
ในกรณีการแจ้งตายเกินกว่า 24 ชั่วโมง ผู้อำนวยการทะเบียนกลางอาจขยายเวลาให้ตามสมควร แต่ไม่ควรเกิน 7 วัน เพราะอาจมีค่าปรับ หลังจากนั้นเราจะได้รับใบมรณบัตร
คราวนี้ มาถึงคำถามที่ว่าเราจะเข้าถึงบัญชีการเงินของผู้ตายได้อย่างไร โดยในบทความนี้ เราจะพูดถึงประเด็นเรื่องของบัญชีเงินฝากเท่านั้น ไม่นับรวมทรัพย์สินอื่น ๆ ของผู้ตาย
1. ไปร้องขอศาลเป็น “ผู้จัดการมรดก”
เมื่อมีคนไปแจ้งธนาคารถึงการเสียชีวิตของเจ้าของบัญชี เงินในบัญชีนั้นจะถือเป็น “ทรัพย์มรดก” และจะถูกระงับการทำธุรกรรม ทำให้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ทันที
ดังนั้น ทายาทโดยธรรม จะต้องยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็น “ผู้จัดการมรดก” (กรณีผู้เสียชีวิต มีลูกมากกว่า 1 คน ต้องให้ลูกคนอื่นเซ็นชื่อยินยอมให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้จัดการมรดก)
ซึ่งผู้จัดการมรดก คือ ตัวแทนทางกฎหมายที่ถูกแต่งตั้งจากศาล มีหน้าที่เป็นผู้จัดการทรัพย์สินให้กับทายาททุกคน และชำระหนี้สินของผู้เสียชีวิต
ในกรณีที่ผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมมรดกเอาไว้ล่วงหน้า ทายาทโดยธรรมตามลำดับ จะเป็นผู้ได้สิทธิรับมรดก
โดยเรียงตามลำดับดังนี้
1. ผู้สืบสันดาน (ลูกเจ้าของมรดก)
2. บิดามารดา
3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
4. พี่น้องร่วมบิดา หรือร่วมมารดาเดียวกัน
5. ปู่ ย่า ตา ยาย
6. ลุง ป้า น้า อา
1
ทายาทดังกล่าว มีสิทธิยื่นคำร้องเพื่อขอแต่งตั้งเป็น ผู้จัดการมรดก ซึ่งขั้นตอนนี้อาจว่าจ้างทนาย หรือจัดการยื่นคำร้องด้วยตัวเองได้ โดยรวบรวมเอกสารยื่นต่อศาลแพ่ง หรือศาลจังหวัดในพื้นที่ที่ผู้ตายมีภูมิลำเนา
โดยเอกสารเบื้องต้นที่ต้องเตรียมไปยื่น คือ
- ใบมรณบัตรของผู้เสียชีวิต
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
ภายหลังจากศาลพิจารณาคำร้อง และเห็นชอบแล้ว ศาลจะออก “หนังสือแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจากศาล” อย่างเป็นทางการ เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการจัดการทรัพย์สินของผู้ตายต่อไป
2. ไปติดต่อธนาคาร โดยเบื้องต้นให้นำเอกสารสำคัญไปดังนี้
- หนังสือแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจากศาล
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้จัดการมรดก
- ใบมรณบัตรของผู้เสียชีวิต
- สมุดบัญชีของผู้เสียชีวิต (ถ้ามี)
จากนั้น ผู้จัดการมรดก ก็จะสามารถตัดสินใจได้ว่า จะปิดบัญชี โอนเงินในบัญชี หรือเปลี่ยนชื่อบัญชีเงินฝากให้เป็นชื่อตนเอง
สุดท้าย สิ่งที่ควรจำไว้คือ เงินในบัญชีของผู้เสียชีวิต ถือเป็น “ทรัพย์มรดก” ซึ่งไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกอย่างเป็นทางการ
หากมีผู้ใดพยายามถอนหรือโอนเงินออกไปก่อนขั้นตอนก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นลูกหลานหรือญาติใกล้ชิด ก็อาจเข้าข่ายยักยอกทรัพย์มรดกได้
ดังนั้น คนในครอบครัวควรพูดคุยและเตรียมการเรื่องทรัพย์สินตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต แบบในเรื่อง “ลักกันวันตาย”..
References :
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์, สถาบันอนุญาโตตุลาการ, สำนักงานกิจการยุติธรรม
เศรษฐกิจ
การลงทุน
59 บันทึก
42
77
59
42
77
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย