17 ต.ค. เวลา 05:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ราคาทองวันนี้ บวก 1,600 บาทจากวันก่อนหน้า ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

ราคาทองวันนี้ 17 ต.ค.2568 เปิดการซื้อขาย บวก 1,600 บาทจากวันก่อนหน้า พุ่งพรวดเดียวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ เช่นเดียวกับราคาทองคำโลกพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทอง วันศุกร์ 17 ต.ค. 2568 เปิดการซื้อขาย บวก 1,600 บาทจากวันก่อนหน้า พุ่งพรวดเดียวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ เช่นเดียวกับราคาทองคำโลกพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ทะลุระดับ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 66,800.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 66,900.00 บาท/บาททองคำ
  • ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 65,460.88 บาท/บาททองคำ และขายออก 67,700.00 บาท/บาททองคำ
ราคาทองวันนี้ 17 ต.ค.2568 พุ่งทะยานแรงบวก 1,600 บาท
  • ทอง 1 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 17,525 บาท
  • ทอง 2 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 34,250 บาท
  • ทองครึ่งสลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 9,163 บาท
  • ทอง 2 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 135,400 บาท
  • ทอง 5 บาท ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 338,500 บาท
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 4,332.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 32.61 บาท/ดอลลาร์
โดยราคาทองคำโลกพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) ทะลุระดับ 4,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ–จีน การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงกระแสคาดการณ์การ ลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่หนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองคำสปอตล่าสุด ปรับขึ้น 2.6% แตะ 4,316.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังทำจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 4,318.75 ดอลลาร์ ส่วน สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 2.5% ที่ระดับ 4,304.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2568 ทองคำพุ่งขึ้นแล้วกว่า 60% จากปัจจัยหลายด้านทั้ง
  • ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Tensions)
  • การคาดการณ์ เฟดลดดอกเบี้ยภายในปีนี้และปีหน้า
  • แรงซื้อจาก ธนาคารกลางทั่วโลก
  • แนวโน้มการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ (De-dollarisation)
  • กระแสเงินทุนไหลเข้า กองทุนทองคำ (Gold ETF)
นาย Zain Vawda นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า แนวโน้มราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับ ทิศทางดอกเบี้ยเฟดในปี 2026 และความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน โดยหากไม่มีข้อตกลงทางการค้าที่ชัดเจนหรือในทิศทางที่ดีขึ้น แต่กลับมีความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ทองคำอาจพุ่งทะลุ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สประเมินว่า มีโอกาสเกือบ 98% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนตุลาคม และอีกครั้งใน เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและได้ประโยชน์ในภาวะดอกเบี้ยต่ำ
ด้าน HSBC ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาเฉลี่ยทองคำปี 2025 ขึ้นเป็น 3,355 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สะท้อนมุมมองว่า ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะยังคงแข็งแกร่ง ท่ามกลาง ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังคงเผชิญภาวะ “รัฐบาลชัตดาวน์” ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานของรัฐต้องหยุดการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ โดยกระทรวงการคลังเตือนว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้อ อาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา