Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTVHD36
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
18 ต.ค. เวลา 09:00 • ข่าวรอบโลก
ครั้งแรก! สหรัฐฯ หลุด Top 10 พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
ดัชนีพาสปอร์ตปี 2025 พบ อันดับพาสปอร์ตสหรัฐฯ อยู่ที่อันดับ 12 นับเป็นครั้งแรกที่พาสปอร์ตสหรัฐฯ ไม่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกพาสฟอร์ตทรงอิทธิพลที่สุด
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์ (Henley Passport Index) เปิดเผยผลการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดยพบว่า พาสปอร์ตของสหรัฐฯ หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 12 เท่ากับมาเลเซีย ส่วนอันดับที่ 1 ยังคงเป็นของสิงคโปร์ อันดับ 2 เป็นของเกาหลีใต้ และอันดับ 3 เป็นของญี่ปุ่น
การจัดทำดัชนีพาสปอร์ตเฮนรีใช้วิธีการจัดอันดับพาสปอร์ตของชาติต่าง ๆ ด้วยการวัดจำนวนประเทศปลายทางที่ผู้ถือพาสปอร์ตของชาตินั้น ๆ สามารถเดินทางเข้าได้เลย โดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่าก่อน
พาสปอร์ตสหรัฐอเมริกา
ในปี 2014 พาสปอร์ต ของสหรัฐฯ เคยขึ้นไปรั้งอันดับ 1 มาแล้ว แต่อันดับได้ร่วงลงเรื่อย ๆ ในปีต่อ ๆ มา และการจัดอันดับในปีนี้นับว่าสหรัฐฯ ถูกจัดให้อยู่ในลำดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์เริ่มจัดอันดับเมื่อ 20 ปีก่อน
เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนด้านการพักอาศัยและการเป็นพลเมือง วิเคราะห์ว่า การที่อันดับของพาสปอร์ตสหรัฐฯ ลดต่ำลงเรื่อย ๆ เป็นเพราะสหรัฐฯ ขาดสมดุลในเรื่องการอนุญาตให้พลเมืองชาติอื่นเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า
โดยพลเมืองอเมริกันสามารเดินทางเข้าประเทศอื่นโดยไม่ต้องขอวีซ่ามากถึง 180 ประเทศ แต่มีเพียง 46 ชาติเท่านั้นที่เดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ด้วยเหตุนี้ สหรัฐฯ จึงถูกจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 77 จากทั้งหมด 199 ประเทศ ในดัชนีความเปิดกว้างของเฮนลีย์
นอกจากนี้ ยังพบว่าอันดับพาสปอร์ตของสหรัฐฯ ในดัชนีเฮนลีย์ยังร่วงลง 2 อันดับ โดยเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส เปิดเผยว่า เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา บราซิลได้กำหนดให้ผู้ถือพาสปอร์ตสหรัฐฯ ต้องยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศ เช่นเดียวกับที่ชาวบราซิลต้องขอวีซ่าเข้าสู่สหรัฐฯ ส่วนจีนไมได้บรรจุสหรัฐฯ ในรายชื่อเพิ่มเติมประเทศที่พลเมืองสามารถเดินทางเข้าสู่จีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงโดยปาปัวนิวกินีและเมียนมา ยังส่งผลกระทบต่ออันดับของสหรัฐฯ ขณะที่การใช้ระบบอีวีซ่าของโซมาเลียและการตัดสินใจของเวียดนามที่ไม่บรรจุสหรัฐฯ ในรายชื่อประเทศที่พลเมืองสามารถเดินทางเข้าเมืองโดยไม่ต้องขอวีซ่า ล้วนทำให้การอันดับพาสปอร์ตของสหรัฐฯ ร่วงลงไป
อีกปัจจัยที่มีผลก็คือการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ใช้มาตรการควบคุมคนเข้าเมืองและการเดินทาง โดยมีนักเรียนต่างชาติและแรงงานข้ามประเทศเป้าหมาย
สหรัฐฯ ยังใช้มาตรการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 250 ดอลลาร์ หรือ 8,000 บาท กับผู้ยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศและกำหนดให้บุคคลเหล่านี้ต้องเข้ารับการสัมภาษณ์
สำหรับสหรัฐฯ นับว่ามีสถานการณ์ความไม่เท่าเทียมในการเข้าเมืองโดยไม่ใช้วีซ่า และการเปิดกว้างที่เลวร้ายที่สุด เป็นรองเพียงแค่ออสเตรเลีย แต่ยังเลวร้ายกว่าแคนาดา นิวซีแลนด์ และ ญี่ปุ่น
ในทางตรงกันข้าม จีนกลับมีอันดับในด้านนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยได้ไต่จากอันดับที่ 94 ในปี 2015 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 64 ในปี 2025
นอกจากนี้ จีนยังมีอันดับที่ดีขึ้นในดัชนีความเปิดกว้างของเฮนลีย์ โดยอนุญาตให้พลเมืองจาก 76 ชาติ เข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า มากกว่าสหรัฐฯ ถึง 30 ประเทศ
เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ตเนอร์ส ยังระบุว่า รัฐบาลจีนยังทำข้อตกลงใหม่กับหลายชาติในตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และชาติยุโรป สวนทางกับสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ สร้างความขัดแย้งด้านการค้า แต่จีนดำเนินยุทธศาสตร์ที่เปิดกว้าง ทำให้สามารถเพิ่มอิทธิพลไปทั่วโลกได้มากขึ้น
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/news/259379
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 :
https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube :
www.youtube.com/@PPTVHD36
ข่าวต่างประเทศ
ต่างประเทศ
ข่าวรอบโลก
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย