อันนี้เป็น Thesis (หรือเอาฮาหน่อย ก็คือความกาวของผมนะครับ)
ปกติผมจะชอบอ่าน Transcript มากกว่าฟัง เพราะบางทีตอนฟัง ผมอาจจะตกหล่นรายละเอียดสำคัญบางอย่างไป
การอ่านแล้วทำ Highlight จะช่วยให้ผมสังเกตุเห็นสิ่งสำคัญ ที่มีนัยต่อการลงทุนได้เสมอครับ
อย่างกรณี PANW ผมเห็นสัญญาณบางอย่างที่ผมว่ามันสำคัญมาก ก็ผ่านการอ่าน Transcript นี่แหละ
เพราะฉะนั้น สำหรับพวก Presentation, Earning Transcipts, Press Release เนี่ย จะเป็นสิ่งที่ผมบอกตัวเองว่า จะไม่ใช้ AI ในการสรุปแทนเด็ดขาด
เพราะเคยลองแล้ว มันยังกรองออกมาได้ไม่ดีเท่าไรนัก
สำหรับ TSM จากงบล่าสุดก็เหมือนกัน คือตรงที่ผม Cap มา
ผมก็เลยลองกาว ๆ เล่นดูว่า ถ้าสมมติ รายได้รวมของ TSM โตได้ปีละ 30% ไปจนถึงปี 2029 ล่ะ
จะเท่ากับ 328 Billion USD
สมมติให้ FCF Margin ของบริษัท ไม่ขยับขึ้นเลย โดยคงที่ไว้ 39%
FCF ของบริษัท ในปี 2029 จะเท่ากับ 128 Billion USD
บริษัทนี้เป็นบริษัทคุณภาพดี ที่ทั้งโลกขาดไม่ได้ ดังนั้น P/FCF ควรจะไม่ต่ำกว่า 30 เท่า
พอเป็นแบบ เอา 128 X 30 = Market Cap ของบริษัทในปี 2029 คือ 3.84 Trillion USD
หมายความว่า จาก Market Cap ของ TSM ในปัจจุบัน หากเราถือไปอีก 4 ปี แล้ว Thesis ของเราถูกต้อง
เราจะได้ผลตอบแทน 2.44 เด้ง หรือคิดเป็น CAGR ที่ 24.8% ต่อปี
ทั้งหมดนี้คือความกาวนะครับ อย่าเชื่อผมมากนะครับ 5555
ปล ผมเจอคนรู้จัก ที่ยังลงทุนหุ้นไทยเป็นหลัก แล้วชอบมีคนถามผมว่า เวลาเราไปลงทุนต่างประเทศ เราจะมี Edge ในการลงทุนเหนือกว่าคนอื่นได้อย่างไร
เพราะเราคงไม่สามารถไป CV หรือคุยกับผู้บริหาร หรือรู้จักใครบางคนได้ เราไม่น่าจะได้รู้อะไรมากกว่านักลงทุนส่วนใหญ่ แบบที่เราทำได้ในตลาดหุ้นไทยแน่ ๆ
ผมก็ตอบว่า:
- ผมว่ามันก็เป็นเกมที่ Fair กว่านะ เพราะด้วยความที่มันไม่ค่อยมีใครจะมามี Edge เหนือใครเรื่องข้อมูลนี่แหละ
จุดตัดสำคัญจึงเป็นกึ๋นในการมองคุณภาพธุรกิจ และความอดทนในการกล้าถือบริษัทดี ๆ ไปยาว ๆ โดยไม่ต้องคันมือ ซื้อ ๆ ขาย ๆ บ่อยเกินไป
- ผมว่า บริษัทในตลาดหุ้นอเมริกานะ เอาจริง ๆ ข้อมูลก็หาง่ายกว่าหุ้นไทยด้วยซ้ำ
บริษัทบางตัวเล็ก ๆ ก็จริง แต่มีข้อมูลในหน้าเว็บ มี Guidance มาออก Earning Calls มี Investor Day
ใน Twitter ยังมีคนพูดถึง Discuss กันจริงจัง เขียนดีมากด้วย
แถมใน YouTube ก็ยังหาสัมภาษณ์ของผู้บริหารดูได้อีก แม้จะเป็นบริษัทที่เล็กมากก็ตาม
ข้อมูลจัดว่ามีอยู่มากมายเพียงพอให้เราเลือกลงทุนแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกอะไรที่เป็นประโยชน์เก็บไว้ และตัดสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกไป ก็เท่านั้น
ข้อมูลกาว ๆ เลอะเทอะ ไม่ make sense ก็มี แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ ก็มีเหมือนกัน
แต่สำหรับหุ้นไทยบางตัว ผมชอบมาก คุณภาพดี แต่หาข้อมูลแทบไม่ได้เลย นอกจากอ่านรายงานประจำปีที่โอเคหน่อย และประกาศงบออกมา ก็มี MD&A อยู่ 2-3 หน้า แถมเขียนเหมือนไม่อยากเขียนด้วย
OppDay ก็ไม่มาออก ต้องรอไปเจอตอน AGM หรือหวังว่าจะมี CV สักครั้งนาน ๆ ที หรือก็ต้องโชคดีหน่อย มีคนรู้จักที่รู้ข้อมูลบางอย่างมากกว่าคนอื่น และเค้าใจดีจะแชร์เล่าให้เราฟัง
บางบริษัทชอบทำอะไรแปลก ๆ ให้เราต้องด่าเป็นระยะ ๆ ด้วยว่า “เป็นห่าอะไรของพวกเมิงวะ ทำในสิ่งที่วิญญูชนควรจะทำ มันยากหรอวะ ?”
- การลงทุนหุ้นอเมริกา ผมว่ามันก็ไม่ได้ง่ายนะ แต่ผมเชื่อตามพี่ที่ผมเคารพคนนึงนะว่า “บางที มันก็ง่ายกว่าหุ้นไทยอ่ะ เพราะมันมีของดี ๆ กับข้อมูลมากมาย ให้เราเลือกใช้น่ะครับ”
ดังนั้น ข้อจำกัดจึงไม่ใช่ข้อมูล แต่คือความสามารถในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ของเรามากกว่าครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
