Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Send| >
•
ติดตาม
18 ต.ค. เวลา 11:52 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนที่ 5 ผลของการท้าทาย
ความตายของเฮียอาจไม่ได้จบลงที่ปลายเชือก แต่มันได้แพร่กระจายออกมาเหมือนหมอกควัน ที่ทั้งบดบังและเกาะกุมจิตใจของผู้คนในละแวกนั้น
หลายคืนติดต่อกันที่ชาวบ้านต่างได้กลิ่นประหลาดโชยมากับสายลมในยามวิกาล และเสียเรียกคนให้มาซื้อปลาหมึกย่างในยามสงัดที่ทอดสายตานั้นล้วนว่างเปล่า เสียงขูดลากบางอย่างบนพื้นถนนยังคงปลุกผู้คนให้ตื่นกลางดึก โศกนาฏกรรมได้ทิ้งรอยแผลเป็นที่มองไม่เห็นเอาไว้ และมันกำลังอักเสบ
รายการทอล์คโชว์ชื่อดังฉกฉวยโอกาสนี้อีกครั้ง จัดเวทีให้เป็นโรงละครแห่งความรวดร้าว ภาคที่สามนี้มีครอบครัวของเฮียอาจเป็นนักแสดงนำ แสงไฟเจิดจ้าของสตูดิโอสาดส่องลงบนใบหน้าที่เปียกชุ่มด้วยน้ำตา เปลี่ยนความเศร้าโศกให้กลายเป็นสินค้ามวลชน
อิงนั่งอยู่ในวงสนทนานั้นด้วย ความรู้สึกของเธอกึ่งหนึ่งคือนักข่าวที่กำลังทำงาน อีกกึ่งหนึ่งคือมนุษย์ที่กำลังเฝ้ามองความเจ็บปวดถูกนำมาตีแผ่
นักกฎหมายและตำรวจยังคงให้คำมั่นสัญญาที่แข็งกร้าวแต่ส่งๆว่าจะตามล่าหาผู้รับผิดชอบ แต่ในวงสนทนาอย่างไม่เป็นทางการ
ตำรวจนายหนึ่งยอมรับกับอิงว่า "เราเช็คกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อแล้วครับน้องอิง... แต่มันแปลกมาก เรานั่งเช็คไฟล์วีดีโอกันทั้งหมดจนย้อนกลับไปตั้งแต่พึ่งเปิดร้านสะดวกซื้อเลย มันมีตู้ตั้งอยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่แรกแล้ว"
คำพูดนั้นทำให้อิงขนลุก ในใจเธอปฎิเสธและค้านอย่างเสียงแข็ง
"เป็นไปไม่ได้ เธอเกิดและโตในเมืองนี้ เธอมั่นใจว่าตู้นี้พึ่งจะมีคนเอามาตั้งไว้ที่นี่อย่างแน่นอน"
ขณะที่ผู้ใหญ่กำลังพยายามใช้เหตุผลเข้าสู้ ในมุมมืดของสังคม ความเยาว์วัยและความไม่รู้จักกลัวก็ได้ก่อตัวขึ้นเป็นความท้าทาย
'ยิ่ง', 'เอ' และ 'บังเอิญ' กลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นมองว่าตู้ใบนี้คือเรื่องหลอกลวงที่สร้างความงมงาย พวกเขาที่มีเป้าหมายจะปั่นป่วนตามความคึกคะนอง กำลังจะพยายามทำลายมัน จะท้าทายเสียให้กระจ่าง
บ่ายแก่ๆของวันนั้น ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่กำลังอยู่รายรอบตู้ถ่ายภาพโพสการ์ดสีแดง วัยรุ่นทั้งสามก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมความคึกคะนอง
"หลีกไป! พวกงมงาย!" ยิ่งตะโกนก้อง ก่อนจะเหวี่ยงก้อนอิฐในมือสุดแรง
ก้อนอิฐกระทบกับร่างสีแดงของตู้... แต่มันไม่ใช่เสียงโลหะบุบ หรือเสียงของแข็งกระทบกับของแข็งแต่อย่างใด มันเป็นเสียงทึบๆ ต่ำๆ ราวกับถูกทุบเข้าที่ซี่โครง ตามมาด้วยเสียงกระจกแตกละเอียดและเสียงกรีดร้องของผู้เคราะห์ร้ายที่อยู่ข้างใน
ความโกลาหลปะทุขึ้น ลุงขจรที่กำลังสนใจแต่การเก็บเงินยืนขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงเรื่องราว และด่าทอด้วยความโกรธเกรี้ยวออกมา แต่วัยรุ่นทั้งสามก็หัวเราะลั่นพร้อมวิ่งหนีหายเข้าไปในฝูงชนได้สำเร็จ
คืนนั้นเอง มีบางอย่างที่กำลังเริ่มขึ้นอย่างเงียบงัน
ยิ่งกลับถึงบ้านด้วยความภาคภูมิใจ เขานอนเล่นโทรศัพท์บนเตียงในห้องนอนเล็กๆ ที่แชร์ไออุ่นอยู่กับยายซึ่งน่าจะหลับไปแล้วในห้องข้างๆ
แต่แล้ว... เขาก็ได้กลิ่น... กลิ่นดินชื้นๆ ที่ผสมด้วยสนิมเหล็ก ไม่ก็คาวเลือด กลิ่นเหมือนลูกวัวที่พึ่งคลอดใหม่ๆ มันคละคลุ้งมาจากทางประตูหน้าบ้าน
เขาจำได้แม่นว่าลงกลอนที่ประตูบ้านไว้เรียบร้อยแล้วแต่
คลิก! คลิก!
เสียงที่คล้ายกับกลอนประตูที่ถูกบิดจนปลดออกดังขึ้น หัวใจยิ่งเต้นรัวเสียยิ่งกว่าเมื่อตอนกลางวัน ใจของเขาร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้า... เสียงย่ำเท้าเปล่าที่เปียกๆ
แปะ! ครื๊ด... แปะ! ครื๊ด...
เสียงคล้ายกับบางอย่างที่หนักมากๆกำลังเดินรากอะไรบางอย่าง
กลิ่นคาวเริ่มฟุ้งใหญ่ หนักขึ้น หนักขึ้น จากคราวเริ่มกลายเป็นเหม็น และจากเหม็น เริ่มกลายเป็นกลิ่นเหม็นเน่า
เขาเอื้อมมือไปจะเปิดไฟหัวเตียงได้สำเร็จ แต่แล้วไฟฟ้าทั้งบ้านก็ดับลง เหลือเพียงแสงจันทร์สลัวที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา พร้อมกับไฟจากเสาไฟที่หน้าบ้าน
เสียงเดินที่คล้ายกับบางอย่างที่แบกของหนักนั้นเริ่มเข้ามาใกล้ห้องของเขาและยายมากขึ้น
แปะ! ครื๊ด... แปะ! ครื๊ด... แปะ! ครื๊ด... แปะ! ครื๊ด...
เสียงเปิดประตูดัง แกร๊บ! เพียงแต่เสียงนั้นไม่ได้เปิดประตูห้องของเขา แต่เป็นห้องของยาย
ยิ่งรวบรวมความกล้าหยิบมีดอันใหญ่ที่ถูกซ่อนไว้ใต้เตียงของเขาออกมาก่อนวิ่งมาที่ห้องของยาย
เขาวิ่งเข้าไปชูมีดต่อไปด้านหน้าและตะโกนออกมาได้แค่ประโยคเดียวสั้นๆว่า
"มึง ! "
ยิ่งตาค้างโต วิญญาณของเขาแทบจะหลุดจากร่าง ในความมืดสลัวนั้นเขามองเห็น "มัน" มันยืนอยู่ตรงนั้นทำท่าทางเหมือนกำลังยกอะไรใส่เข้าไปในปากขนาดใหญ่โตผิดรูปร่างนั้น แขนที่ยาวกำลังยกบางอย่างที่คล้ายกับร่างส่วนบนของมนุษย์
"ยาย! ยิ่งตะโกนสุดเสียง"
มือที่สั่นเทา ขาที่แข็งเกร็งจนไม่สามารถขยับได้ ยิ่งทำได้แค่มองดูมันกำลังกินยายของเขาต่อหน้าต่อตา ก่อนที่มันจะหันมาทำเสียงแหบ "หึ่งๆ" เสียงของยิ่งหายไป ภายในร่างกายของเขาแข็งทื่อราวกลับว่าเลือดเนื้อภายในนั้นจับตัวยึดกันเป็นก้อน มันเดินกึ่งๆจะคลานตรงเข้ามาหายิ่งที่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว
ทันใดนั้นแสงไฟในบ้านก็สว่างขึ้น ข้างหน้าของยิ่งบัดนี้กลายเป็นแม่ของเขาที่มียายยืนอยู่ข้างหลังในห้องที่สว่างจ้า "แม่ ทำไมแม่มาอยู่นี่ แม่กลับมาเมื่อไหร่" แม่ที่เดินตรงเข้ามาหายิ่งนั้นไม่มีเสียงพูดตอบโต้ใดๆ ก่อนผู้เป็นแม่จะกอดยิ่งและจับแขนเขาเอาไว้จนแน่น
แม่ที่กำลังมองหน้ายิ่งอยู่นั้นก็ค่อยๆยิ้ม ยิ่มกว้างขึ้น กว้างขึ้น ในตาดำมีบางอยากเกิดขึ้นคล้ายแผลฉีกขาดจากภายในดวงตา ปากที่ฉีกออกจนถึงขมับ...
เช้าวันรุ่งขึ้น ภาพที่ตำรวจได้เห็นคือภาพสุดท้ายของชีวิตที่น่าสลดและสยดสยอง ยายของยิ่งถูกพบในสภาพจมอยู่ในผ้าห่มของตัวเองราวกับว่ายายของยิ่งแค่นอนหลับและจากไปเฉยๆ ส่วนยิ่ง... ดวงตาของเขาเบิกโพลงจ้องมองเพดานด้วยความหวาดกลัวสุดขีด นิ้วมือทั้งสิบจิกเกร็งอยู่บนใบหน้าของตัวเองจนเป็นแผลลึก เหมือนพยายามจะควัก "บางสิ่ง" ที่เห็นในวาระสุดท้ายออกไปจากม่านตา
เอและบังเอิญก็พบจุดจบที่คล้ายคลึงกันในบ้านของตัวเอง... การท้าทายนี้ได้จบลงด้วยการชำระล้างอย่างโหดเหี้ยม
อิงมายืนอยู่หน้าบ้านของยิ่ง มันไม่เหมือนกับเหตุอาชญากรรมที่เธอคาดหวังไว้อีกต่อไป ขณะที่เธอกำลังซึมซับบรรยากาศอันน่าขนลุก ข้อความจากนักข่าวรุ่นน้องก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์
"พี่อิง! ผมอยู่ที่ตู้... เรื่องมันบ้าไปแล้ว! เมื่อวานทุกคนเห็นว่ามันโดนทุบจนพังยับ แต่เช้านี้... มันกลับมาเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน... เหมือนเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย"
อิงอ่านข้อความนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเย็นเยียบแล่นไปทั่วสันหลังของเธอ จิตใต้สำนึกเธอแทบจะร้องตะโกนว่านี้ไม่ปกติแล้ว
(จบตอนที่ 5)
เรื่องสยอง
สยองขวัญ
นิยายลึกลับสยองขวัญ
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
วันที่บนภาพถ่าย
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย