19 ต.ค. เวลา 03:02 • ข่าว

“อังคณา” ทึ่คนไม่รู้จัก

ลาออกมาเป็นแม่บ้านเพื่อเลี้ยงลูกเต็มเวลา กระทั่งการหายตัวไปของทนายสมชาย ทำให้ “พี่อัง” อังคณา นีละไพจิตร เป็นชื่อที่คนไทยทั้งประเทศรู้จัก
แต่คนไทยก็เลือกที่จะรู้จักแค่ว่าชื่อ “อังคณา” สามีชื่อสมชาย เป็นทนายโจร
นี่คือเรื่องราวหลังการสูญหายของผู้ชายคนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งชัดเจนขึ้นทุกวัน
เหตุการณ์ปล้นปืนค่ายปิเหล็ง 4 มกราคม 2547 นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น สั่งให้ตำรวจจากส่วนกลางลงไปปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ จนมีการร้องเรียนว่าตำรวจจับชาวบ้านคุมขังตามอำเภอใจ ซ้อมทรมาน อุ้มฆ่า เพื่อให้รับสารภาพ
ผู้ต้องหา 5 คนถูกซ้อมทรมาน ช็อตไฟฟ้า ร้องขอให้นายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความ ช่วยเหลือด้วยการทำหนังสือถึงศาลร้องเรียนให้สั่งเปลี่ยนการคุมขังโดยตำรวจไปยังเรือนจำแทน
11 มีนาคม 2547 ทนายสมชาย ทำหนังสือร้องเรียนถึงศาล
พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีดีเอสไอ ประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีหายตัวไปของนายสมชาย ให้ถ้อยคำกับกรรมาธิการวุฒิสภาว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทนายสมชายหายตัวไปคือการเข้าไปช่วยเหลือผู้ต้องหา หากมีการดำเนินการตามหนังสือร้องเรียนแล้วพบว่ามีการทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาทั้ง 5 คนจริง ตำรวจจะต้องถูกดำเนินคดีอาญา
ภายหลังผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คน อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง
12 มีนาคม 2547 เป็นวันสุดท้ายที่ครอบครัวติดต่อนายสมชายได้
นางอังคณา นีละไพจิตร บอกว่าก่อนหายตัวไปนายสมชายมีอาการหวาดระแวง หน้าบ้านมีคนแปลกหน้ามายืนรอบๆ
คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ดีเอสไอ พบรถของนายสมชายจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งหมอชิต ตำรวจออกอุบายขับรถชนเพื่ออุ้มพร้อมกับเอาทรัพย์สินในรถไปขายได้เงินกว่า 6 แสนบาท ครอบครัวร้องขอดีเอสไอรับคดีการสูญหายของนายสมชายเป็นคดีพิเศษ แต่ดีเอสไอไม่รับ
คณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการบังคับบุคคลให้สูญหายโดยไม่สมัครใจมีมติรับคดีนายสมชายเป็นคดีคนหายของคณะทำงาน แต่คณะทำงานไม่มีอำนาจผูกพันทางกฎหมาย เป็นเพียงการช่วยเหลือเชิงมนุษยธรรม
23 กรกฎาคม 2548 ตัวแทนรัฐบาลไทยต้องไปชี้แจงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนให้คณะกรรมาธิการสิทธิฯ แห่งสหประชาชาติ ดีเอสไอจึงรับเป็นคดีพิเศษในวันนั้น
ตำรวจ 5 นาย ถูกดำเนินคดี มีตำรวจยศพันตำรวจโท สารวัตร กอ.รมน. เป็นจำเลยที่ 1 ไม่มีการตรวจหาหลักฐานในรถทนายสมชาย และเรื่องเงียบหายไปพักหนึ่ง
20 ธันวาคม 2549 อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการถูกบังคับให้สูญหาย ได้รับการรับรองในทางสากลจากองค์การสหประชาชาติ
19 กันยายน 2551 จำเลยที่ 1 สูญหาย
8 ปีหลังจากนายสมชายหายไป 11 มีนาคม 2554 ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนายตำรวจทั้ง 5 นายจากข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว-สิทธิเสรีภาพ พร้อมทั้งตัดสิทธิครอบครัวในการเข้าเป็นโจทก์ร่วมโดยให้เหตุผลว่า ภรรยาและบุตรอีก 4 คนไม่สามารถยืนยันได้ว่านายสมชายเสียชีวิตจากการถูกทำร้าย ตัดสิทธิไม่ให้เข้าร่วมหาความจริง แม้ศาลแพ่งจะตัดสินให้เป็นบุคคลสูญหายหลังครบ 5 ปี
ส่งผลให้รัฐไม่สามารถนำตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกหลายนายที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้
20 ปีผ่านไปในกระบวนการยุติธรรม คดีนายสมชายไม่เคยคืบหน้า พยานหลักฐานถูกทำลาย จำเลยที่เป็นตำรวจได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี พยานบางคนกลับคำให้การในขั้นศาล มีความพยายามแทรกแซงการสอบสวนจากฝ่ายการเมือง ดีเอสไอล้มเหลวจากการทำคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด
การคุ้มครองพยานล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะอดีตผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คนโดนคุกคามจนไม่กล้าให้การ
1 คนในนั้นหายสาบสูญ ระหว่างกลับไปเยี่ยมญาติในวันสำคัญทางศาสนาที่ จ.นราธิวาส วันที่ 11 ธันวาคม 2552
ประเทศไทยลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการถูกบังคับให้สูญหาย วันที่ 9 มกราคม 2555 เพื่อแสดงเจตนารมย์แต่ยังไม่เป็นรัฐภาคีเพราะกฎหมายยังไม่สอดคล้องกับหลักการ
ไทยยังไม่บัญญัติกฎหมายเฉพาะให้การบังคับสูญหายเป็นความผิดทางอาญา จำเลยทั้ง 5 จึงถูกตั้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ และขืนใจใช้กำลังประทุษร้าย ไม่สามารถตั้งข้อหาฆาตกรรมได้เพราะยังไม่พบศพนายสมชาย หรือพบหลักฐานบ่งชี้ว่านายสมชายเสียชีวิตแล้ว
ก่อนหน้านี้ นางอังคณา ยื่นเรื่องขอรับค่าทดแทนจำเลยในคดีอาญาต่อกรมคุ้มครองสิทธิฯ แต่ถูกปฏิเสธเพราะไม่พบว่านายสมชายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และการยื่นคำขอเกินระยะเวลา 1 ปีตามกฎหมายกำหนด ต่อมาทางกระทรวงยุติธรรมพิจารณาใหม่ งดเว้นเพียงการจ่ายค่าทำศพ
เกือบ 20 ปีที่รู้จัก “พี่อัง” ตั้งแต่ทนายสมชาย หายไป 3 ปีแรก มีโอกาสเคยไปสัมภาษณ์ที่บ้านพัก จนถึงวันนี้พี่อังรักษาความเป็นคนพูดน้อยต่อหน้าสื่อ ไม่พูดเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง
พี่อังเป็นคนเรียบร้อย ไม่เคยกล่าวให้ร้ายใคร ไม่เคยพาตัวไปอยู่ท่ามกลางดราม่า และไม่ต่อความยาวสาวความยืด
พี่อังเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศนานกว่า 20 ปีในฐานะภรรยาทนายสมชาย ตั้งแต่ปี 2547 ทั้งๆที่เลือกแล้วว่าลาออกจากงานพยาบาลมาเป็นแม่บ้านเพื่อเลี้ยงลูก อยากอยู่บ้านเงียบๆไม่ได้อยากเป็นที่รู้จักของใคร
หลังสามีถูกบังคับให้สูญหาย พี่อังต่อสู้กับกระบวนการยุติธรรมถูกสารพัดอำนาจกลั่นแกล้ง
เธอต้องเลี้ยงดูครอบครัว ลูกๆทั้ง 4 คน ในบางช่วงจังหวะชีวิตเคยเป็นอดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา
ที่บอกว่าเธอตามหาผัวที่หายยังไม่เจอ เป็นเพราะคนนั้นไม่รู้จักอังคณาดีพอ
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะผัวหายนั่นล่ะ ทำให้พี่อังต้องเจออะไรมาบ้าง
โฆษณา