19 ต.ค. เวลา 11:55 • บันเทิง

น้ำหอมปริศนา

...
มีใครบ้างที่จะไม่ชอบกลิ่นหอม
ถ้าไม่ใช่ว่ากลิ่นหอมนั้น
มันพาความหลอนมาด้วย
...
ผมชื่ออิวนะครับ
ตอนนี้ทำงานรับราชการอยู่
ชีวิตประจำวันของผมก็จะเหมือนกับพนักงานทั่วไป
คือไปทำงานเช้า ตอนเย็นก็กลับบ้าน
ซึ่งที่ทำงานกับหอพักของผมมันจะอยู่ไม่ไกลกันมาก
วันไหนอากาศดี ๆ ฝนไม่ตก หรือไม่มีธุระเร่งรีบอะไร
ผมก็จะเดินไปทำงานเอา กะว่าได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย
...
วันนั้นก็เป็นไปตามปกติ
พอเลิกงานผมก็เดินกลับมาที่ห้อง
ซึ่งตอนนั้นมันก็เกือบจะ 6 โมงเย็นแล้ว
...กริ๊ง...
เท้าของผมเหมือนจะไปเตะเข้ากับอะไรบางอย่าง
จากเสียงคงจะเป็นขวดแก้ว
ผมหันไปตามเสียงก็เห็นว่ามีขวดแก้วขวดหนึ่ง
กำลังกลิ้งไปตามแรงเตะของผม
แล้วมันก็ไปหยุดอยู่ที่โคนเสาไฟฟ้า
พอผมเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาดู
ปรากฏว่าเป็นขวดน้ำหอมครับ
เป็นน้ำหอมแบรนด์ดังเลย
ซึ่งก็พอจะได้ยินชื่อผ่านหูมาบ้างจากเพื่อนที่ทำงาน
บอกก่อนว่าผมเป็นคนที่ไม่ฉีดน้ำหอม
อาจจะเนื่องด้วยที่เป็นผู้ชาย ใช้ชีวิตง่าย ๆ แต่งตัวง่าย ๆ
ดังนั้นพวกเครื่องสำอางหรือน้ำหอมสำหรับผมไม่คิดจะซื้อเลย
น้ำหอมขวดที่ผมเจอนี้
เป็นขวดทรงกลมเรียกได้ว่าสวยมาก
มีบอกปริมาณ 50 ml
พอลองเขย่าขวดดู
ด้านในก็รู้สึกว่ายังมีน้ำหอมเหลืออยู่พอสมควร
“ใครทำตกเอาไว้วะ”
ผมแปลกใจมากที่คนเดินผ่านไปผ่านมาตั้งเยอะ
กลับไม่มีใครสังเกตหรือเก็บมันไป
เพราะจากรูปทรงของมันก็สะดุดตาอยู่ไม่น้อย
...
แต่แทนที่ผมจะตามหาเจ้าของหรือวางมันไว้ที่เดิม
ผมกลับหยิบใส่กระเป๋ากลับมาที่ห้องด้วย
แล้วผมก็ลืมมันไป
พออาบน้ำทำธุระส่วนตัวทุกอย่างเสร็จ
ตอนที่กำลังจัดกระเป๋า
ผมก็เห็นน้ำหอมขวดนั้น
ก็ไม่รู้คิดยังไงครับ ผมลองเอามาฉีดที่แขนของตัวเอง
พบว่ากลิ่นมันหอมมากครับ
จากคนที่ไม่เคยคิดจะซื้อของพวกนี้
พอได้กลิ่นของมันก็ทำให้ดมอยู่นาน
กลิ่นเหมือนดอกลาเวนเดอร์ผสมกับดอกไม้ชนิดอื่น
สักพักกลิ่นก็จะออกแนวดอกไม้เน่าที่ปักอยู่ในแจกัน
มันทั้งเย้ายวนและน่าขยะแขยงในเวลาเดียวกัน
ผมฉีดซ้ำที่แขนอีกหลายรอบ
บอกตามตรงว่าตอนนั้นผมเริ่มชอบกลิ่นของมันแล้ว
มันรู้สึกว่าอยากจะให้ถึงพรุ่งนี้เร็ว ๆ
เพราะอยากจะฉีดน้ำหอมตัวนี้ไปทำงาน
...
พอรุ่งขึ้นผมก็แต่งตัวไปทำงานตามปกติ
และก็ไม่ลืมที่จะฉีดน้ำหอมไปด้วยประมาณ 3-4 สเปรย์
วันนั้นเป็นวันที่ผมถูกเพื่อน ๆ แซวกัน
คิดว่าผมมีแฟนแล้ว
เพราะจากผู้ชายที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องดูแลตัวเอง
แต่วันนี้ฉีดน้ำหอมมาซะฟุ้งไปทั้งสำนักงาน
ผมก็ได้แต่ปฏิเสธไปครับ
เล่าให้แค่ไอ้ตูนเพื่อนสนิทของผมฟังว่าผมไปเก็บน้ำหอมมา
จนกระทั่ง...
...
พอโดนแซวหนัก ๆ เข้า
ผมก็ชักจะเริ่มรำคาญ
เลยคิดว่าจะไม่ฉีดน้ำหอมมาทำงานแล้ว
แต่พอเอาเข้าจริง
ตอนกำลังจะออกมาทำงาน
มันเหมือนมีแรงดึงดูดอย่างประหลาด
ใจผมรู้สึกว่าอยากจะฉีดน้ำหอมขวดนี้มาก
ทั้งที่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ฉีด
และสุดท้ายก็จบตรงที่ผมไปหยิบน้ำหอมมาฉีดทุกวัน
ยิ่งนานไป ผมยิ่งรู้สึกว่าอยากฉีดมันเพิ่มมากขึ้น
จนปกติผมจะฉีดเฉพาะออกไปทำงาน
แต่ตอนนี้กลับมาถึงบ้านก็ต้องฉีด
ก่อนจะนอนก็ต้องฉีด
จนคืนหนึ่งผมก็ฝันครับ
ผมฝันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักทายผม
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ
สูงพอ ๆ กับไหล่ของผม
ไว้ผมยาวเลยบ่าลงมานิดหน่อย
ใส่แว่นตาและชุดเดรสสั้นถึงเข่าสีม่วง
ผมก็ทักทายกลับไปตามมารยาทครับ
ผมจะฝันเห็นเธอคนนี้อาทิตย์ละประมาณ 3 ครั้ง
ทุกครั้งที่ฝัน เหมือนเรื่องราวมันก็จะดำเนินต่อกัน
จากที่เข้ามาทักทายกัน
ก็เริ่มที่จะสนิทสนมกันมากขึ้น
ชวนกันไปกินข้าว ดูหนัง เดินเล่น
และทุกครั้งที่ผมฝันเห็นเธอ
ผมจะรู้สึกมีความสุขมากเลยครับ
เหมือนกับคนที่เพิ่งมีความรักครั้งแรก
...
เหตุการณ์ก็ผ่านมาสักพัก
ผมก็ได้ยินเพื่อนที่ทำงานพากันบ่นว่าได้กลิ่นสาบ
แต่ผมก็ไม่เคยได้กลิ่นอะไรแบบนั้น
“กูรู้แล้วว่ากลิ่นมาจากมึงนี่เองไอ้อิว”
ไอ้ตูนที่เอาเอกสารมายื่นให้ผมก็พูดขึ้น
ก่อนมันจะเข้ามาดมใกล้ขึ้นอีก
เสร็จแล้วมันก็บีบจมูกถอยออกไป
“นี่มึงไปทำอะไรมาวะ”
“น้ำท่าไม่อาบรึไงมึงถึงกลิ่นแรงขนาดนี้”
ไอ้ตูนมันก็พูดต่อทั้งที่ยังบีบจมูกอยู่
ผมก็ได้แต่ตอบมันไปว่าผมก็ทำทุกอย่างปกตินะ
น้ำผมก็อาบทุกวัน วันละ 2 รอบอยู่แล้ว
จะว่าเป็นกลิ่นของเสื้อผ้า
ผมดมดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีกลิ่นอับกลิ่นสาบอะไร
ได้แต่กลิ่นน้ำหอมที่ฉีดมา
พอแบบนั้นก็เริ่มไม่ค่อยมีใครอยากเข้ามาใกล้ผม
ต่างก็พูดตรงกันว่าได้กลิ่นสาบออกมาจากตัวของผม
จนผมเองก็เริ่มอึดอัด
พยายามอาบน้ำให้สะอาดขึ้น
ผ้าที่ซักก็ตากอย่างดีไม่มีกลิ่นแน่นอน
แต่ทุกคนก็ยังบอกว่าได้กลิ่นสาบอยู่ดี
ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับ
เพราะผมไม่ได้กลิ่นอะไรอย่างที่พวกเขาบอกเลย
...
เรื่องความฝันก็ยังฝันอยู่ครับ
ผมกับเธอคนนั้นก็ตกลงเป็นแฟนกัน
แล้วเราก็มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในที่สุด
ฝันนี้มันช่วยให้ผมลืมเรื่องแย่ ๆ จากที่ทำงาน
ช่วยเยียวยาจิตใจของผมได้เป็นอย่างดี
เธอในความฝันมีกลิ่นที่หอมมาก
จนบางครั้งก็เหมือนกลิ่นนั้นจะติดออกมานอกความฝันด้วย
แต่ละวันผมอยากจะรีบกลับห้องมานอน
เพื่อจะได้ไปเจอกับเธอคนนั้น
“ไอ้อิว ทำไมสภาพมึงเป็นแบบนั้นวะ”
“นี่มึงได้หลับได้นอนบ้างรึเปล่า”
วันหนึ่งพอเจอหน้าผม ไอ้ตูนมันก็พูดขึ้น
มันบอกว่าสภาพของผมเหมือนกับคนไม่ได้กินไม่ได้นอน
ขอบตาดำ ผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
ผมก็ได้แต่ทำหน้างง
เพราะผมก็กินปกติ นอนปกติ
อยากจะนอนฝันยาว ๆ ไม่อยากตื่นด้วยซ้ำ
พอไปส่องกระจกดู
ผมเห็นว่าตัวเองก็ปกติดีทุกอย่าง
คิดว่าเพื่อนคงจะอำหรือไม่ก็มองผิดไป
...
จากนั้น...
เริ่มมีคนทักครับ บอกว่าผมดูโทรมมาก
ลุงร้านขายของที่ผมแวะซื้อประจำ
ก็มาถามว่ามีแฟนแล้วเหรอ
เห็นมีผู้หญิงคอยเดินตามตลอดเลย
ทั้งตอนไปทำงานและก็ตอนกลับบ้าน
คำพูดของลุงยิ่งทำให้ผมงงมากขึ้นอีก
ผมก็บอกลุงแกไปว่าผมไม่มีแฟน ไม่มีใครเดินมากับผมทั้งนั้น
จนลุงแกก็คิดว่าคงจะเป็นคนอื่นที่เดินไปทางเดียวกันเฉย ๆ
เวลาผ่านมาถึงวันหนึ่ง
ผมก็ฉีดน้ำหอมแล้วเข้านอนตามปกติ
ในฝัน...
ตอนนี้ผมกับเธอคนนั้นเราแต่งงานกันแล้วครับ
เราทั้ง 2 คนซื้อบ้านและย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน
มันเป็นชีวิตคู่ที่มีความสุขมาก
ผมออกไปทำงาน
เธอก็จะเป็นแม่บ้านคอยดูแลบ้าน
และคอยต้อนรับผมตอนกลับจากทำงาน
เธอเดินมาบอกกับผมครับ
บอกว่าตอนนี้เธอตั้งท้องแล้ว
ผมดีใจมากที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว
เรา 2 คนเข้าสวมกอดกันพร้อมกับพูดถึงครอบครัวที่กำลังจะสมบูรณ์แบบ
...
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมายืนคุยกันอยู่ที่ข้างเตียง
ผมพยายามลืมตาขึ้นดู
อยากรู้ว่าใครเข้ามาคุยกันในห้องของผม และเข้ามาได้ยังไง
พอสายตามันโฟกัสได้
ผมก็เห็นว่าเป็นไอ้ตูนครับ
มันกำลังยืนคุยอะไรสักอย่างอยู่กับเพื่อนอีกคนที่ชื่อจ๊อบ
ผมก็จะร้องถามออกไปว่าพวกมันเข้ามาทำอะไรในห้องผม
แต่รู้สึกว่าคอมันแห้งมาก ราวกับไม่ได้กินน้ำมาหลายวัน
เสียงที่ออกไปเลยแหบ ๆ พร่า ๆ ไม่ค่อยเป็นคำ
พอได้ยินเสียงของผม
ทั้ง 2 คนนั้นก็หันมาพร้อมกัน
“เฮ้ย ไอ้อิวฟื้นแล้ว เป็นไงบ้างวะมึง”
คนที่ทักมาก่อนก็คือไอ้จ๊อบครับ
ผมก็งงกับมันอีก คิดว่ากูจะเป็นอะไร
กูก็นอนอยู่ปกติ พวกมึงนั่นแหละเข้ามาทำไม
พอจะลุกขึ้น ผมกลับขยับตัวไม่ได้
หันมองไปรอบ ๆ ก็พบว่านี่ไม่ใช่ห้องนอนผมครับ
แต่มันเป็นโรงพยาบาล
รอบ ๆ มีเตียงคนไข้คนอื่นอยู่
ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้เหมือนกัน
และที่ตกใจมากกว่านั้นคือ
ผมถูกมัดมือมัดเท้าติดกับเตียงไว้
นั่นเลยทำให้ผมขยับตัวไม่ได้
ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นอนหลับอยู่ในห้องดี ๆ ตื่นมาอีกทีทำไมตัวเองมานอนอยู่ที่โรงพยาบาล
“นี่มึงไอ้อิวรึเปล่าวะ”
ไอ้ตูนมันก็ถามเสียงต่ำ ๆ มา
“ก็กูสิวะ มึงเห็นเป็นใครล่ะ แล้วกูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ผมก็ตอบกึ่งโวยวายนิด ๆ ด้วยเสียงที่แหบแห้ง
พวกมันบอกให้ผมใจเย็น แล้วก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟัง
...
ไอ้ตูนมันบอกว่า
จากวันล่าสุดที่ผมไปทำงาน
หลังจากนั้นผมก็ขาดไม่ไปทำงานเลย 3 วัน
โทรหาก็ไม่มีคนรับสาย
มันเป็นห่วงกลัวว่าผมจะเป็นอะไรไป
เลยชวนไอ้จ๊อบมาดูที่ห้องของผม
ยืนเคาะประตูเรียกอยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบรับ
มันเห็นท่าไม่ดีเลยไปเรียกผู้ดูแล
ให้ใช้กุญแจสำรองเปิดห้องเข้าไป
ภาพที่เห็นคือผมกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
ปากกำลังยิ้มอย่างมีความสุข
แต่สภาพร่างกายมันดูผอมมากแทบจะหุ้มกระดูกอยู่แล้ว
ผิวหนังคล้ำและมีกลิ่นสาบแรงมาก
จนมันคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง
ทุกคนเลยโทรเรียกรถพยาบาล
แต่พอปลุกผมขึ้นมาได้
มันกลับดูเหมือนไม่ใช่ตัวของผม
ผมทำตาขวางใส่ทุกคน พยายามดิ้นไม่ยอมไปขึ้นรถพยาบาล
และตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าผมเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน
ทั้ง ๆ ที่สภาพผอมแห้ง
กว่าจะจับมัดไปบนรถได้ก็ต้องใช้ผู้ชายหลายคนช่วยกันจับ
และตลอดทางผมก็เอาแต่ถามหาน้ำหอม
บอกให้ไปเอาน้ำหอมขวดนั้นมา
อย่าพาผมไปจากน้ำหอมขวดนั้น
บอกให้ไปเอามันมาให้ผมฉีด
แล้วก็ร้องไห้สลับกับหัวเราะเหมือนคนบ้า
พอถึงโรงพยาบาลผมก็มีอาการคลุ้มคลั่ง
ดิ้นจะลงจากเตียง เลยต้องจับผมมัดไว้กับเตียง
ไอ้จ๊อบมันคงพอจะรู้อะไร
มันเลยถอดสร้อยพระของมัน เอามาคล้องที่คอผม
นั่นจึงทำให้ผมสงบลงไปได้
แล้วผมก็หลับไปอีก 2 วันเต็ม
เท่ากับว่าจากวันล่าสุดที่ผมเข้านอน
มาจนถึงวันที่ผมรู้สึกตัวตื่น
มันผ่านไป 5 วันแล้ว
...
แล้วไอ้ตูนมันก็หยิบกระจกยื่นมาตรงหน้าของผม
“เอา มึงดูตัวเองซิ สภาพของมึงในตอนนี้เป็นยังไง”
ผมก็มองกระจกตามที่มันบอก
มันทำให้ผมตกใจมากครับ
ผมแทบจะจำตัวเองไม่ได้
ตัวผมในตอนนี้ขอบตาดำมาก
หน้าตอบตาลึกโบ๋ เส้นผมร่วงหายไปเป็นหย่อม ๆ
เรียกได้ว่าไม่ต่างอะไรกับซากศพเลยครับ
ผมแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เพราะล่าสุดที่ส่องกระจก ผมยังดูปกติอยู่เลย
ผ่านมาแค่ไม่กี่วัน มันไม่น่าจะเป็นสภาพนี้ได้
พอฟังทุกอย่างแล้ว ผมก็เลยถามไปถึงน้ำหอมขวดนั้น
ไอ้ตูนมันก็บอกว่าทิ้งไปแล้ว
มันบอกว่าพอเห็นผมโวยวายไม่เป็นตัวของตัวเอง
พูดถึงแต่น้ำหอม
ประกอบกับที่ผมเคยเล่าให้มันฟังว่าผมเก็บน้ำหอมได้
มันเลยคิดว่าน้ำหอมขวดนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน
มันเลยกลับเข้าไปดูที่ห้องของผมอีกรอบ
และมันก็เจอขวดน้ำหอมวางอยู่ที่หัวเตียง
คิดว่าคงจะเป็นขวดนี้แน่
มันก็เลยเอาไปขว้างทิ้งลงในแม่น้ำ
พอได้ยินแบบนั้น แปลกที่ผมกลับไม่รู้สึกอะไร
ต่างกับก่อนหน้านี้ที่รู้สึกรักน้ำหอมขวดนี้มาก
ไม่อยากให้ห่างตัว อยากฉีดอยากดมกลิ่นมันอยู่ตลอด
มาตอนนี้กลับรู้สึกเฉย ๆ เหมือนกับว่าไม่เคยมีมันมาก่อน
...
ด้วยเหตุนี้ ผมต้องใช้สิทธิ์ลาป่วยเพื่อรักษาตัวอยู่พักหนึ่ง
ผมก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาเป็นลำดับ
ผมรู้สึกว่ากับข้าวที่กินมันอร่อยมาก
แปลกมาก ไม่รู้ว่าผมลืมรสชาติพวกนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่
หรือที่ผ่านมาผมไม่ได้กินอะไรเลย
จากนั้นผมก็หายดีจนกลับมาทำงานได้
และเรื่องของผมก็เป็นที่พูดถึงกันในสำนักงานอยู่พักใหญ่
ต่างก็จะพูดกันไปในเชิงเรื่องลี้ลับ
จับกลุ่มกินข้าวกันทีไรก็ต้องคุยถึงเรื่องนี้
สันนิษฐานกันไปต่าง ๆ นานา
คนนั้นก็ว่าน้ำหอมขวดนั้นอาจจะเป็นของคนตาย
เจ้าของเขามาตามเอาคืน
คนนี้ก็ว่าอาจจะมีคนทำของใส่น้ำหอมขวดนั้น
เพราะอยากลองวิชา
ช่วงนั้นผมอาจจะดวงตกพอดีเลยไปเก็บมันมาใช้
ซึ่งตัวผมเองก็ยังสรุปไม่ได้หรอกครับ
ว่าเรื่องที่เจอมานั้นมันคืออะไร
...
ตอนนี้ผมก็แต่งงานมีลูกแล้วครับ
แน่นอนว่าไม่ใช่กับเธอคนนั้นที่ใส่เดรสสีม่วง
และจนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังมีเอฟเฟกต์จากเหตุการณ์นั้นอยู่
คือทุกครั้งที่ได้กลิ่นน้ำหอม
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานฉีด
หรือภรรยากับลูกฉีด
ตัวของผมมันจะขนลุกทุกครั้ง
ผ่านมานานมันก็ไม่ได้มีความกลัวอะไรมากหรอกครับ
แต่ทุกครั้งที่ได้กลิ่น
ร่างกายมันจะตอบสนองไปเอง
บางครั้งผมก็มักจะได้กลิ่นน้ำหอมขวดนั้นลอยมา
ทั้ง ๆ ที่ในห้องไม่มีใครอยู่เลย
...จบ...
เรื่องโดย ลานฝึกผี
ภาพโดย Copilot
โฆษณา