5 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น
สมัยก่อนคนโบราณเขารู้ดีว่า ถ้าผู้ชายแต่งงานก่อนแล้วค่อยบวชทีหลัง มันมีโอกาส “บวชไม่สึก” สูงมาก 😄
2
เพราะตอนนั้น ไม่ได้บวชเพื่อบุญอย่างเดียว แต่บวชหนีปัญหาก็เยอะ บางคนบวชหนีเมีย บวชหนีลูก บวชเพราะบ้านร้อน บวชแล้วเบาสบาย ค้นพบความสุขจากความสงบ ออกเดินบิณฑบาตโปรดญาติโยมทุกวัน ไม่มีเสียงบ่นจากใคร จิตเป็นกุศลมากกว่าตอนเป็นฆราวาสที่มีครอบครัวที่มีแต่ความวุ่นวาย และปัญหาทางโลกที่ไม่จบไม่สิ้น
1
หลวงพี่บางท่าน ก็รู้แล้วว่า sex เพศสัมพันธ์ในการมีครอบครัวกับภรรยา นำอวัยวะสืบพันธุ์สอดเข้าช่องคลอดผู้หญิง เข้าๆออกๆ มันเป็นความสุขที่น่าเบื่อหน่าย มันไม่มีวันจบ มันคือกามคุณ ที่หลอกให้สัตว์โลกไปติดกับของความทุกข์ การมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องสนุก รู้สึกถลำลึกที่มีครอบครัวไปแล้ว
1
จนหลวงพี่บางท่าน ถึงขั้นสารภาพว่า ผมไม่อยากสึกไปเลย แต่จำเป็นต้องสึกเพราะมีลูกที่จะต้องดูแล
1
แต่ถ้าบวชก่อนแต่งน่ะสิ บวชได้ไม่นานก็คันเท้า อยากสึกออกมาท่องโลกกว้าง รีบสึกออกมาเพราะใจมันยังอยากมีคู่ ยังมีไฟของหนุ่ม เขาถึงให้บวชก่อนแต่งเพราะมันบวชไม่นานแน่ แต่ได้ชื่อว่า “ผ่านการบวช” แล้ว ถือว่าฝึกใจมาครั้งหนึ่ง ได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่แล้วค่อยแต่งได้
1
คนโบราณเขาไม่ได้คิดเรื่องศาสนาอย่างเดียว
เขาคิดเรื่องชีวิตจริงด้วย
บวชก่อนเบียด = ฝึกใจชั่วคราวให้เป็นคนมีศีลธรรมจริยธรรม มีครอบครัวก็เป็นคนมีจิตใจเย็น ให้เป็นคนดี แต่ว่า สึกแน่
1
บวชหลังมีเมีย = ฝึกใจถาวร ไม่สึกแน่
(หรือเมียต้องไปนิมนต์ให้สึก 😂)
1
ไม่ได้พูดให้ขำนะ แต่ความจริงคือคนสมัยก่อนเขามองทะลุถึงนิสัยคน เขารู้ว่าธรรมะกับกิเลสมันอยู่ใกล้กันแค่เส้นเดียวเท่านั้นเองครับ
โฆษณา