5 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น
1. พิจารณาตามประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านจากบรรดาพรหมณ์โยคี และดาบสหรือผู้ทรงศีล ที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดกูรูทางพระเวท และสรรพวิทยาการในยุคสมัยของพระองค์ จากนั้นก็ทรงเสกสมรสกับสุดยอดสาวงามผู้เพียบพร้อมในคุณสมบัติชาติตระกูล และยังทรงให้กำเนิดพระราชบุตรราหุล แม้จะได้ชื่อว่าทรงมีบุญบารมี แต่กลับต้องทรงดำเนินชีวิตช่วงแรกไปตามครรลองวิสัยโลก
จึงทำให้ทรงเบียดก่อนบวฃ
2. ไทยเรารับเอาศาสนาพุทธ ผ่านทางศรีลังกา พระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์จึงต้องทรงออกผนวช เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประเพณีและการสืบทอดพระศาสนา และปรากฎข้อเท็จจริงตามพระราชประเพณีว่า จะต้องทรงผนวชก่อนการเสกสมรส หรือภาษาบ้านๆ คือจะต้อง
ทรงบวชก่อนเบียด
อาทิ. รัชกาลที่ 5, 6, 9 และ 10
แต่พระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงเบียดก่อนบวช เช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือรัชกาลที่ 4 และทำให้ทรงออกผนวชยาวนานที่สุดถึง 27 ปีก่อนจะได้ทรงขึ้นครองราชย์
3. ในสมัยโบราณนั้น วัด หรือศาสนสถาน คือแหล่งเรียนรู้สำหรับศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านศาสนา ปรัชญา สันสกฤต บาลี และพระไตรปิฏก จึงสันนิษฐานได้ว่า วัด คือสถานศึกษาสำหรับชนทุกชั้น ลูกหลานคนจนยากไร้ ไม่พ้นต้องถูกส่งให้ไปบวชเรียนอยู่ในวัดวาอาราม เพราะพ่อแม่ขัดสนจนยาก ไม่มีเงินจะส่งบุตรหลานเข้าเรียน เหมือนอย่างชนชั้นสูง
จึงสันนิษฐานได้ว่า
เป็นที่มาให้ชาวบ้านทั่วไป กำหนดคุณสมบัติ
ผู้ที่จะมาคบหา หรือสู่ขอลูกสาว เอาไว้ว่า
จะต้องได้รับการบวชเรียนเสียก่อนเด้ออ!
เพื่อเป็นการการันตีว่า เป็นคนดี อยู่ในศีล ในสัตย์
"สูเจ้าต้องบวชก่อนบียดเด้อออ"
...............
สรุป จะบวชก่อนเบียด
หรือจะเบียดก่อนบวช ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
แต่อย่างน้อย ถ้าหลุดจากจับใบแดงตะหาน
ก็ควรลองไปบวช เพื่อฝึกวินัยตนเอง
ฝึกควบคุมความอยากของตนเอง
โฆษณา