Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่าเรื่องสั้น
•
ติดตาม
20 ต.ค. เวลา 07:21 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น: “เดช ยามวาดภาพ กับเงินใต้ดินพันล้าน”
แนว: อาชญากรรม / ระทึกขวัญ / สมจริงแฝงอารมณ์ขัน
ส่วนที่ 1 – เงาในห้องนิรภัย
เสียงกริ่งธนาคาร “ไทยมิตรการเงิน” ดังแผ่วในยามเช้าของวันจันทร์ เดชพนักงานยามวัยสามสิบปลาย ๆ เดินลากไม้กระบองพลาสติกสีดำไปมาอยู่หน้าอาคาร เขาเป็นยามมานานหกปีในธนาคารแห่งนี้ที่อยู่กลางถนนสุขุมวิท ธนาคารนี้ดูหรูหราเหมือนของจริง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าของตัวจริงคือ สมชาย วิสุทธิ์เดชา หรือที่ในวงการเรียกกันว่า “เสี่ยชัยมาเฟียใต้ดิน” ชายผู้มีอำนาจในวงการฟอกเงินรายใหญ่ของประเทศ
เดชรู้ดีว่าเบื้องหลังธนาคารนี้มีอะไรซ่อนอยู่ เพราะบางคืนเขาได้ยินเสียง “เครื่องเจาะพื้น” ดังลอดออกมาจากชั้นใต้ดิน เสียงคนคุยเบา ๆ ว่าจะ “ย้ายทอง” หรือ “เก็บเงินล็อตใหม่” เขาไม่กล้าถาม แต่ก็แอบจำทุกอย่างไว้ในสมุดจดเล็ก ๆ ที่พกติดตัว — คนอื่นอาจคิดว่าเขาโง่ แต่เดชไม่ใช่ยามธรรมดา
เขาเรียนจบเพียง ม.6 แต่มีพรสวรรค์พิเศษ คือ วาดภาพเหมือนจริงระดับมืออาชีพ ภาพที่เขาวาดแทบแยกไม่ออกจากของจริง เดิมเขาเคยรับจ้างวาดภาพเหมือนหน้าห้าง แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อภรรยาทิ้งไปเพราะความจน เขาจึงมาทำงานเป็นยาม หวังเริ่มต้นใหม่
ในห้องพักเล็ก ๆ หลังธนาคาร เดชใช้เวลาว่างวาดรูปโน่นนี่ บางครั้งก็วาด “ธนาคารไทยมิตร” ในมุมที่ไม่มีใครรู้ เช่น ทางเดินลับลงชั้นใต้ดิน ประตูเหล็กสองชั้น หรือช่องระบายอากาศที่เปิดออกสู่ซอยด้านหลัง — ทุกอย่างอยู่ในหัวของเขา
จนกระทั่ง คืนหนึ่ง มีเสียงเคาะประตูห้องพัก “ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
“พี่เดช ใช่ไหม” เสียงชายแปลกหน้าถาม
“เออ ใครวะ”
“พวกผมมีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องเงินใหญ่”
เมื่อเดชเปิดประตู ก็เห็นชายร่างใหญ่สวมเสื้อหนังดำ มีรอยสักมังกรเต็มแขน และมีพรรคพวกอีกเก้าคนยืนอยู่ข้างหลัง
หัวหน้าแก๊งชื่อ “อำนาจ” เขาบอกตรง ๆ ว่าเขารู้ว่าธนาคารนี้เป็นแหล่งซ่อนเงินของมาเฟีย และต้องการให้เดชช่วยเข้าไปด้านในในคืนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ เพื่อเปิดเส้นทางไปสู่ห้องนิรภัยใต้ดิน
“พี่รู้ใช่ไหมว่ามันมีเงินอยู่ข้างล่าง” อำนาจยิ้ม “พวกผมไม่อยากฆ่าใครหรอก แค่เอาเงินแล้วไป แบ่งกันคนละส่วน พี่ได้ 50 ล้านเต็ม ๆ”
เดชหัวเราะเบา ๆ “ถ้าไม่ร่วมล่ะ”
อำนาจยกปืนขึ้น “ก็แค่ไม่มีพรุ่งนี้ไงพี่”
เดชไม่มีทางเลือก เขาต้องเล่นตามเกม แต่ในใจกลับคิดอีกแผนหนึ่ง — เพราะเขารู้ว่าเงินพวกนั้นอยู่ในห้องลับชั้นใต้ดินที่มีระบบกล้องวงจรปิดปลอม ส่วนของจริงติดอยู่ในโถงทางเดินเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้ เขาเองเป็นคนช่วยติดตั้ง
คืนต่อมา เขาเริ่มสังเกตความเคลื่อนไหวของ “เสี่ยชัย” ที่ชอบมาธนาคารตอนดึก ๆ กับลูกน้องสองสามคน พวกนั้นมักถือกระเป๋าใบใหญ่ลงไปข้างล่าง แล้วกลับขึ้นมาโดยไม่มีใครกล้าถาม
เดชแอบวาดแผนผังใต้ดินอย่างละเอียดในสมุด สเก็ตช์ทุกประตู กล้อง และรหัสนิรภัย ซึ่งเขาแอบเห็นตอนผู้จัดการใส่ในวันซ่อมระบบไฟ “2-5-6-8-0-3” — ตัวเลขนี้ฝังอยู่ในหัวเขา
อำนาจนัดเขามาที่โกดังย่านคลองเตยเพื่อวางแผนปล้น เดชแกล้งทำเป็นคนซื่อฟังคำสั่งอย่างว่าง่าย
“เดช มึงเปิดประตูนิรภัย พวกกูเข้าไปเก็บของ แล้วมึงรับเงิน 50 ล้านไปเลย เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับพี่” เดชตอบอย่างสงบ แต่ในใจกลับคิดว่า ถ้าไอ้สิบคนนี้จะปล้นเสี่ยชัยได้ มันต้องไม่รู้ว่าฉันจะปล้นมันด้วยอีกที
เขากลับมาธนาคารในคืนก่อนลงมือ แอบเข้าไปในห้องนิรภัย แล้วใช้ฝีมือวาดภาพเหมือนจริงของ “กองเงิน” ด้วยสีน้ำมันบนผืนผ้าใบขนาดเท่าของจริง เขาใช้เวลากลางดึกทั้งคืนวาด “เงินปลอม” วางไว้แทนของจริงที่อยู่ในอีกห้องเล็ก ๆ ลึกลงไปอีกชั้นที่ไม่มีใครรู้ — ทางเข้าถูกปิดด้วยแผ่นเหล็กและพรมหนา
ส่วนที่ 2 – แผนซ้อนแผน
คืนศุกร์มาถึง ฟ้าครึ้ม ฝนพรำเบา ๆ แสงไฟถนนส่องสะท้อนเงาของเดชที่เดินตรวจตามหน้าธนาคาร
23:30 น. รถตู้สีดำจอดข้างอาคาร กลุ่มของอำนาจสวมหน้ากากดำลงมา พกปืนครบมือ
“เริ่มได้!”
เดชใช้บัตรพนักงานรูดเข้าอาคาร เสียงประตูล็อกอัตโนมัติเปิดออก
“ข้างในมีแค่กล้องปลอมไม่ต้องห่วง” เขาพูดพลางชี้ไปยังจุดติดกล้องที่จริงเป็นเปลือกพลาสติก
พวกนักเลงเข้าไปอย่างมั่นใจ เดชเดินนำไปจนถึงห้องนิรภัย เขาใส่รหัส 2-5-6-8-0-3
เสียง ติ๊ง ดังขึ้น ประตูเหล็กหนักครึ่งตันค่อย ๆ เปิดออก
ภาพที่เห็นคือ “กองเงินเป็นตั้ง” เรียงเต็มห้อง — แต่สิ่งที่พวกนั้นไม่รู้คือ มันคือภาพวาด
“โว้ย! เงินจริง!” หนึ่งในนักเลงร้องแล้วคว้าแบงก์ปึกหนึ่งขึ้นมา “ของแท้โว้ย!”
แน่นอน มันรู้สึกเหมือนจริง เพราะเดชทาซีลิโคนบาง ๆ เคลือบบนกระดาษวาด เพื่อให้จับแล้วมีผิวสัมผัสแบบธนบัตร
ทุกคนหัวเราะ ยกปืนขึ้นยิงดีใจ “คืนนี้พวกเรารวยแล้ว!”
แต่ทันใดนั้น เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น “วี๊ด! วี๊ด!”
“เหี้ย! กล้องหลอกกูเหรอ!”
“ไม่มีทาง!” เดชแกล้งตกใจ “ผมไม่ได้เปิดระบบ!”
กลุ่มนักเลงวิ่งวุ่น บางคนยิงกล้อง บางคนวิ่งหาทางออก เดชแอบกดรีโมตเล็ก ๆ ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อ — รีโมตที่เขาแอบต่อกับประตูนิรภัย ทำให้มันล็อกอัตโนมัติจากด้านใน
“ไอ้เดช! มึงทำอะไร!” อำนาจตะโกน
“ผมไม่ได้ทำอะไรนะพี่!”
ขณะพวกนักเลงพยายามเปิดประตู เดชค่อย ๆ ถอยไปยังมุมห้อง เปิดแผ่นเหล็กปิดทางลับ แล้วมุดลงบันไดเล็ก ๆ ที่พาไปยังห้องเก็บเงินจริงใต้พื้น
ห้องนี้คือ “ห้องลับของเสี่ยชัย” ที่ใช้ซ่อนเงินผิดกฎหมายทั้งหมด เดชเคยเห็นครั้งหนึ่งตอนน้ำรั่วซึมมาถึงห้องยาม เขาแอบเปิดช่องระบายอากาศดูแล้วเห็นทองคำแท่งและธนบัตรเป็นตั้ง
ตอนนี้เงินเหล่านั้นอยู่ตรงหน้า เขาเปิดกระเป๋าใบใหญ่ที่เตรียมมา ยัดเงินเข้าเต็มจนแน่น มือสั่นด้วยความตื่นเต้น
เสียงข้างบนยังดัง “ยิงแม่งเลย!” ปัง! ปัง!
แต่ทันใดนั้น เสียงไซเรนรถตำรวจก็ดังมาจากด้านนอก — วี๊วววววววววววววว!
เสี่ยชัยเป็นคนแจ้งเอง เพราะกล้องวงจรปิดตัวจริงที่อยู่ในโถงทางเดินด้านนอก (ไม่ใช่ในห้อง) จับภาพรถตู้ของอำนาจได้ตั้งแต่ตอนจอด
ภายในสิบนาที ตำรวจล้อมธนาคารไว้หมด นักเลงทั้งสิบคนถูกจับขณะพยายามหนีออกทางหลังคา
อำนาจตะโกน “เดช! มึงหักหลังกูเหรออออ!” แต่เสียงเขาถูกกลืนหายไปในเสียงไซเรน
เดชซ่อนตัวอยู่ในช่องใต้พื้น ฟังทุกอย่างด้วยหัวใจเต้นแรง เขารู้ว่าไม่มีใครรู้ทางออกนี้ เพราะมันต่อไปยังท่อระบายน้ำที่ไหลออกสู่คลองแสนแสบ เขารอจนเสียงทุกอย่างเงียบลง แล้วค่อย ๆ มุดออกมาในตอนตีสี่
ตอนจบ – ยามกับเงินพันล้าน
แสงอาทิตย์แรกของวันใหม่สะท้อนผิวน้ำคลอง เดชยืนอยู่บนสะพานไม้ถือกระเป๋าใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยเงิน เขามองฟ้าแล้วหัวเราะเบา ๆ
“พวกมึงปล้นไม่สำเร็จ แต่กูปล้นพวกมึงอีกที”
เขาเดินทางไปภาคใต้ ใช้ชื่อปลอม “สมบูรณ์” เปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ริมทะเล ทุกวันเขานั่งวาดรูปนักท่องเที่ยวและเด็ก ๆ ที่มาเล่นน้ำ ใครจะคิดว่าเจ้าของร้านกาแฟคนนี้เคยเป็นยามที่ปล้นมาเฟียกับนักเลงพร้อมกัน
หลายเดือนต่อมา ข่าวทีวีรายงานว่า “เงินใต้ดินของมาเฟียเสี่ยชัยหายกว่า 1,000 ล้านบาท คาดถูกยักยอกโดยคนใน”
แต่ไม่มีใครสงสัยเดช เพราะกล้องจับได้แค่เขาอยู่ในห้องนิรภัยกับพวกนักเลงก่อนเกิดระเบิดประตู เขาถูกระบุว่า “หายสาบสูญ”
คืนนั้น เดชนั่งในร้านกาแฟของตัวเอง เปิดสมุดสเก็ตเก่า ๆ ดูภาพที่วาดไว้วันแรกที่เริ่มทำงานยาม
หน้าแรกเขียนไว้ว่า
“ของจริงบางทีก็ไม่สวยเท่าของปลอม แต่ของปลอมบางชิ้น...ก็มีค่ากว่าของจริง”
เขาหัวเราะกับตัวเอง ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
แล้วหยิบดินสอขึ้นมา วาดภาพ “ห้องนิรภัยเปิดอ้า” อีกครั้ง
แต่คราวนี้ เขาวาด “ตัวเอง” ยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มอย่างอิสระ ไม่มีใครไล่ ไม่มีใครสั่ง ไม่มีใครข่มขู่
เสียงคลื่นซัดเบา ๆ กลบเสียงหัวเราะของเขา
ภาพสุดท้ายคือชายคนหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นยามธรรมดา — ตอนนี้กลายเป็น เจ้าของเงินพันล้าน โดยไม่มีใครรู้
ความรู้รอบตัว
นิยาย
นิยายตื่นเต้นระทึกขวัญ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย