20 ต.ค. เวลา 11:34 • ความคิดเห็น
ทุกข์ไม่มีตัวตน แต่เพราะมีตัวตน จึงมีคิด และเมื่อมีคิด จึงย่อมมีทุกข์ตามมา มันหนีไม่ออก จะหนีมันได้ยังไงเล่า!
พระสงฆ์ หรือแม้แต่ครูบาอาจารย์ เพื่อนฝูงเรา มักจะพร่ำบอกเราว่า "ก็อย่าไปคิดทำไม! ง่ายๆ ก็แค่หยุดคิด ก็ไม่มีความรู้สึกเป็นทุกข์แล้ว อย่าๆอยู่นั้น ห้ามโน่นนี่อยู่นั้นแล้ว ส่วนพวกท่าน ก็กลับไปนั่งกลุ้มใจต่อไป ว่าจะสอนอย่างไรให้ลูกศิษย์ลูกหาเลิกคิด เลิกฟุ้งซ่าน เลิกจมจ่อมกับทุกข์ได้เสียที หารู้ไม่ว่าแม้แต่ตัวเอง ก็กำลังทุกข์อยู่ เพราะคิดหาวิธีพูด วิธีช่วยให้ลูกศิษย์ลูกหาไม่คิด ไม่ทุกข์นี่แหละ
มนุษย์ทุกคน ไม่มีหน้าไหนไมเ่คยทุกข์ เพราะความทุกข์คือธรรมะ ธรรมชาติดีไซน์ให้มันจะต้องเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคน และสัตว์ทุกตัว เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ แต่ไม่ใช่ทุกคน หรือทุกตัว ที่จะสามารถผ่านความทุกข์ต่างๆนานา ไปได้อย่างราบรื่น สะดวกโยธิน บางคนเป็นซึมเศร้า บางคนฆ่าตัวตาย บางคนหนีไปบวช!
ให้ตายเถอะ! มันไม่มีมนูษย์หน้าไหนตามทันความรู้สึกเวทนาของตัวเองได้หรอกค่ะ พระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงหลายรูป ท่านยังออกอาการแห่งทุกข์อยู่บ่อย เกาหัว โมโหหงุดหงิด เขวี้ยงปากระโถน อาจารย์สายธรรมะ มีตบะแตก อารมณ์พลุ่งพล่าน เถียงคอเป็นเอ็น เป็นตัวอย่างให้เราได้เห็นอยู่เสมอ
หากจะถามเราว่า เรามีวิธีปฏิบัติอย่างไร
เราบอกได้เลย ตัวเราเองไม่เคยตามทัน
ความรู้สึกเวทนาได้หรอก
และเรากล้าฟันธงว่าไม่มีใครตามทันหรอกน่ะ
แต่เมื่อเกิดแล้ว เร่งภาวนาเลย
....................
ถามเอากับตัวเองว่า ทุกข์อยู่ใช่ไหม
รู้ไหมทุกข์เพราะอะไร
ก็มันปวดไงฟระ ปวดตรงไหน
เอาจิตใจไปจ่อมตรงที่ปวดเลย ตรงที่เกิดอาการ
เอาจิตเอาใจไปจดจ่อมันตรงนั้นเลย
ผลปรากฎว่า
เออ.....อาการปวดมันหายไปตอนไหนวะนี่
.............................
โฆษณา