เมื่อวาน เวลา 21:51 • หนังสือ

องก์ที่ ๑

ตอนที่ ๑
​เวโรนา. ลานแห่งหนึ่ง.
แสมป์สัน และ เกรกอรี, ทนายของคาปุเล็ต, ออก, มีดาพและเสโลห์ประจำกายพร้อม.
แสม. เกรกอรี, ให้ตายสิ, เราไม่ยอมขนถ่านละ
เกร. จริง, หาไม่เราจะเลยกลายเปนคนโสมมไป.
แสม. กูตั้งใจจะกล่าวว่า, ถ้าเราเกิดโทโษละก็, เราก็ต้องชัก.
[ขยับดาพ]
เกร. เออ, ถ้ายังไม่ตาย, จะชักดิ้นชักงอเท่าใดก็พอทำเนา.
แสม. กูละทำเร็วนัก, ถ้าถูกคนผัด.
เกร. แต่จะผัดให้เพื่อนทำน่ะไม่สู้ได้เร็วนัก.
แสม. อ้ายหมาพวกมอนตะคิวตัวเดียวก็ผัดกูได้.
เกร. การผัดก็คือล่อให้วิ่ง, และผู้ที่กล้าต้องยืนอยู่กับที่; ฉนั้นถ้าเพื่อนถูกผัด, เพื่อนก็คงวิ่งหนีละ.
แสม. อ้ายหมาพวกนั้นมันได้แต่ผัดให้กูยืนอยู่กับที่: กูจะเปนกำแพงสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงของมอนตะคิว.
​เกร. นั่นแสดงว่าเพื่อนเปนอายหน้าขี้แพ้; เพราะผู้อ่อนแอที่สุดต้องเฃ้าหากำแพง.
แสม. ก็จริง; ฉนั้นผู้หญิง, เปนผู้ที่อ่อนแอที่สุด, จึ่งถูกผลักเฃ้าหากำแพง: ฉนั้นกูจะผลักผู้ชายของมอนตะคิวออกจากกำแพงและผลักผู้หญิงของเฃาเฃ้าหากำแพง.
เกร. การวิวาทกันเปนแต่ในระหว่างนายของเรากับพวกเราผู้เปนทนายต่างหาก.
แสม. มันก็เหมือนกัน, กูจะสำแดงตนเปนคนดุใหญ่: เมื่อกูได้ต่อสู้กับพวกผู้ชายของเฃาแล้ว, กูจะดุต่อพวกผู้หญิง; กูจะสังหารมันให้หมด.
เกร. สังหารพวกผู้หญิงสาวด้วยหรือ ?
แสม. เออ, สังหารหญิงสาว, หรือสังหารพรหมจารี; จะนึกอย่างไรก็ตามใจเถิด.
เกร. มันก็ต้องนึกอย่างที่มันรู้สึกนั่นแหละ.
แสม. กูน่ะมันต้องรู้สึกตลอดเวลาที่กูยังยืนอยู่ตรงได้; และใครๆก็รู้ว่ากูเปนคนแขงนัก.
เกร. เคราะห์ดีที่เพื่อนไม่เปนปลา; ถ้าเปนละก็ลงเปนปลาชำลาแน่ละ. ชักเครื่องมือ
เถิด: คนก๊กมอนตะคิวมานี่สองคนแล้ว.
​เอบระแฮม และ บัลถะสาร์ ออก.
แสม. เครื่องประหารของกูชักออกโร่แล้ว: วิวาทเถอะ; กูจะหนุนหลัง.
เกร. อย่างไร ? กลับหลังหันวิ่งหนีน่ะหรือ?
แสม. อย่ากลัวกูเลย.
เกร. ชะๆ; กูหรือจะกลัวมึง!
แสม. เราอยู่ในที่ถูกเถอะ; ให้พวกมันเริ่มก่อน.
เกร. กูจะนิ่วหน้าเมื่อกูผ่านไป, แล้วมันจะว่ากระไรก็ตามใจมัน.
แสม. ไม่ใช่, แล้วแต่มันจะบังอาจ. กูจะกัดหัวแม่มือให้มัน; ถ้ามันขืนทน, มันต้องอายละ.
เอบ. นายกัดหัวแม่มือให้เราฉนั้นหรือ?
แสม. ฉันกัดหัวแม่มือของฉันจริง.
เอบ. ก็นายกัดหัวแม่มือให้เราหรือ?
แสม. [พูดป้องกับเกรกอรี] เราอยู่ในที่ถูกหรือผิดถ้ากูตอบว่าเออ ?
เกร. ผิด.
แสม. หามิได้, ฉันไม่ได้ตัดหัวแม่มือให้นาย; แต่ฉันกัดหัวแม่มือของฉัน.
เกร. นายก่อวิวาทหรือ ?
เอบ. วิวาทหรือ! หามิได้!
​แสม. ถ้านายวิวาท, ฉันก็เล่นกับนาย: ฉันรับใช้นายที่ดีเท่ากับนายของนาย.
เอบ. ก็ไม่ดีกว่า.
แสม. ก็แล้วอย่างไรล่ะ?
เบ็นโวลิโอ ออก.
เกร. [พูดป้องกับแสมป์สัน] บอกว่า “ดีกว่า” เถอะ: ญาติของนายเรามาโน่นคนหนึ่งแล้ว.
แสม. ดีกว่าอีกนะนาย.
เอบ. โกหก !
แสม. ชักดาพ, ถ้าเปนลูกผู้ชาย, เกรกอรี, อย่าลืมอ้ายท่าฟันฉัวะของแก. [ต่อสู้กัน]
เบ็น. เลิก, อ้ายถ่อย ! [ชักดาพอออกปัดดาพของพวกทนาย] เก็บดาพ, อ้ายพวกมึงมิรู้ว่าทำอะไร.
ติบอลต์ ออก.
ติบ. เอะ ! ชักศัสตราไยอยู่หว่างไพร่ที่โยโส !
หันมา, และมองดูความตายเถิด, เบ็นโวลิโอ.
เบ็น. ฉันเพียงห้ามพวกโง่, จงเก็บดาพของเพื่อนยา
หรือใช้เพื่อพรากทาสะเหล่านี้ด้วยกันนา.
​ติบ. ชักดาพและเจรจาสงบ ! กูเกลียดคำนั้น
เช่นเกลียดนรก, ปวงมอนตะคิว, อีกมึงมั่น.
เอามึงละ, อ้ายขลาด ! [ต่อสู้กัน]
พวกพ้องทั้งสองสกุลออกมาอีก, และต่างเฃ้าต่อสู้กัน; แล้วนาครและกองตระเวนจึ่งออก, ต่างคนถือพลอง.
นายตระเวน. พลอง, ขวาน, และง้าวฟัน ! ฟาด ! ตีพวกกลีราญ!
ตีพวกคาปุเล็ต ! ตีพวกมอนตะคิวหาญ !
คาปุเล็ต, สรวมเสื้อยาว, และคุณหญิงคาปุเล็ตออก.
คาปุ. นี่เสียงอะไรพาล ? เฮ้ย, ดาพยาวของกูไหน!
คุณหญิง ค. ไม้เท้า, ไม้เท้า! ท่านจะเรียกดาพมาทำไม?
คาปุ. เอาดาพมาไวๆ! อ้ายเถ้ามอนตะคิวมัน
ถือดาพมาแกว่งไกวเหมือนใฝ่ท้าฝีมือฉัน.
มอนตะคิว กับ คุณหญิงมอนตะคิว ออก.
มอน. อ้ายคาปุเล็ตฉกรรจ์ !-อย่าห้ามไว้; ให้ฉันจร.
คุณหญิง ม. ไม่ให้ท่านผายผันเพื่อหาเสี้ยนศัตรูบร.
​เจ้าเอสเคลัสแลบริวารออก.
เจ้า. พศกกำเริบรอญ, เปนศัตรูแห่งสันตี,
ก่อเหตุจลาจลให้เพื่อนบ้านราญฤดี-
อย่างไรไม่ฟังนี่ ? เฮ้ย, พวกมึง, เดรัจฉาน,
ซึ่งดับอัคคีแรงแห่งโทโษโมโหหาญ
ด้วยพุพุ่งแดงพล่านจากเส้นสายของมึงนั้น,
กูจะเอาชีวิต, แม้ไม่ปลิดด้วยฉับพลัน
ศัสตราอัปรีย์นั้นจากมืออันเปื้อนโลหิต,
และฟังประภาสของเจ้านายตูผู้ข้องจิต.
สามครากาลีกิจ, บังเกิดเพราะคำเหลวไหล,
โดยคาปุเล็ต, อีกมอนตะคิวบังอาจใจ,
สามคราวแล้วฉาวในถนนแห่งบุรีสราญ,
เดือดร้อนแก่ชาวเวียงเวโรนาเกษมสานต์,
ต้องเปลื้องเครื่องตระการประดับงามความชรา,
เพื่อจับซึ่งง้าวเก่า, ด้วยมือแก่ปานกันนา,
เรื้อด้วยสันตี, มาบำราบเหล่ากลีบร
อีกคราแม้พากันกำเริบกลางทางนคร
ชีวิตจะม้วยมรณเหมือนพินัยแห่งสันตี.
คนอื่นจงรีบไปโดยทันใดในครานี้:
​ส่วนคาปุเล็ต, ลีละด้วยเราจะพาไป;
ฝ่ายมอนตะคิวมาณเวลาบ่ายนี้ไซร้
เพื่อฟังวินิจฉัยอีกต่อไปในคดี,
ที่เสรีบูระ, ที่เราว่าการธานี.
อีกครั้ง, ใครรักชีวีทุกตนจงรีบไป
[เฃ้าโรงทั้งหมด, เว้นแต่มอนตะคิว, คุณหญิงมอนตะคิว, และเบ็นโวลิโอ.]
มอน. ใครหนอได้ก่อเหตุวิวาทเก่านี้ขึ้นใหม่?
หลานยาจงว่าไป, เจ้าอยู่หรือเมื่อเกิดการณ์ ?
เบ็น. ที่นี่เห็นมีพวกทนายของอมิตร์ท่าน
กับพวกใต้เท้าราญรบกันก่อนฃ้าเจ้าถึง:
ฃ้าเจ้าเฃ้าห้ามไว้, บัดเดี๋ยวใจติบอลต์จึ่ง
เดินสาวก้าวตะบึง, พร้อมด้วยดาพวาบวามมา,
และเฃากล่าวท้าทายอย่างแรงร้ายณหูฃ้า,
พลางกวัดซึ่งศัสตรา, ดุจะฟาดพระพายผัน,
ซึ่งมิได้บาดเจ็บ, ก็หวีดหวิวเหมือนล้อฉนั้น:
ครั้นเมื่อต่อสู้กันด้วยฟันแทงเปนโกลา,
คนอื่นก็มาเพิ่ม, และช่วยเสริมวิวาทา,
จนเจ้าเสด็จมา, จึ่งทรงห้ามทั้งสองพรรค.
​คุณหญิงม. โรเมโออยู่ไหน ? รู้หรือไม่นะหลานรัก?
ป้านี้ยินดีนักที่เฃาไม่อยู่แห่งนี้.
เบ็น. คุณหญิง, เมื่อหนึ่งนาฬิกาก่อนพระสุรีย์
เยี่ยมช่องบัญชรศรีสุพรรณภาคบุรพา,
จิตขุ่นได้นำตูฃ้าไปสู่ณมรรคา;
ภายใต้ร่มพฤกษามะเดื่อดกเปนหมู่งาม
ซึ่งอยู่ณปัจฉิมะทิศแห่งบุรีราม,
เช้ามืดฃ้าเจ้าตามพบบุตร์รักของคุณนาย:
ฃ้าเจ้าเดินเฃ้าสู่, เฃารู้สึกฃ้าผันผาย,
เฃาแสร้งเฃ้าแฝงกายในกลางป่ามิช้าที:
ฃ้าหยั่งน้ำจิตเฃาด้วยจิตของฃ้าเองนี้,
ซึ่งอยากพบสิ่งที่มิสามารถจะพบปะ,
แม้ตัวผู้เดียวไปก็มากเกินไปหนึ่งละ,
ยอมตามใจอาตมะ, บ่ตามกวนเฃาต่อไป,
ยินดีจะลี้เฃาผู้หลบหนีฃ้านี้ไซร้.
มอน. หลายวันมาแล้วได้มีผู้เห็นณที่นั้น,
ด้วยอัสสุชลเพิ่มหิมะยามอุษาฉัน,
เพิ่มเมฆณเมฆนั้นด้วยถอนใจอยู่ไปมา:
แต่พอระพีซึ่งบันดาลบานเบิกวิญญา
ในเบื้องบูรพาประไพเพิ่มเผดิมดี
​เหมือนใขวิสูตร์ทองอันป้องเตียงอรุณศรี,
บุตร์เศร้าของเราหนีตวันกลับณเรือนพลัน,
และเฃ้าณห้องปิดทวารมิดณห้องนั้น,
ปิดปวงบัญชร, กันซึ่งรังสีทิวาฉาย,
แสร้งทำซึ่งราตรีดังนี้ขึ้นด้วยอุบาย.
ใจเฃาคงงมงายและซึมเศร้าอยู่เช่นนี้
เว้นแต่จะปลอบได้ให้เหตุหายคลายทุกขี.
เบ็น. คุณลุงผู้เลิดดี, ทราบเหตุบ้างหรืออย่างไร?
มอน. ลุงนี่มิรู้ความและถามลูกมิบอกให้.
เบ็น. คุณลุงได้เคยใช้อุบายหรือเพื่อรู้ความ ?
มอน. ทั้งลุงและมิตร์หลายได้เคยปลอบและสอบถาม:
แต่ลูก, เฃาถือความสิเน่ห์ตนเปนมนตรี,
ต่อตัวเฃาเองไซร้-ซื่อเท่าใดไม่ทราบดี-
แต่ปิดความลับลี้ระหัสแม้แก่ตัวเฃา,
ใครเลยจะหยั่งถึงหรือรู้จิตของลูกเรา,
ราวบุบผะตูมเฉาเพราะหนอนบ่อนเปนราคิน,
ก่อนที่ได้คลี่กลีบอันสดรับอากาศกิน,
หรือเอาความโสภินพลีพระสุริยา.
หากเราสามารถทราบสาเหตุโทมะนัสา,
เราเต็มจิตเยียวยาให้สมเหตุและสมผล.
​โรเมโอ ออก
เบ็น. เฃามานี่แล้ว: โปรดทั้งสองหลีกเสียจงพ้น;
หลานจะทราบยุบล, หรือยอมถูกตัดอาลัย.
มอน. ลุงขอให้หลานยาสำเร็จหวังเพราะอยู่ไซร้,
ขอรู้ข่าวดีใจ. มาเถิดแม่, ควรไคลคลา.
[มอนตะคิวและคุณหญิงมอนตะคิวเฃ้าโรง.]
เบ็น. เช้าดีนะ, พี่ชาย.
โรเมโอ. ยังไม่สายหรือน้องยา?
เบ็น. ตีเก้าบัดนี้.
โรเมโอ. อ้า! โมงยามเยิ่นยามทุกขี.
นั่นท่านบิดาหรือที่รีบจรจากแห่งนี้?
เบ็น. ถูกแล้ว. ทุกข์ใดที่ทำยามเยิ่นแด่โรเมโอ?
โรเมโอ. ไร้สิ่ง, ซึ่งแม้ได้, จะทำใช้ยามสั้นโข.
เบ็น. รักหรือ?
โรเมโอ. ไร้.-
เบ็น. ไร้รักฉนั้นหรือ ?
โรเมโอ. ไร้ความเมตตา, โอ้, แห่งตัวหล่อนที่พี่รัก.
เบ็น. โอ้ว่าระตีเอ๋ย, เมื่อชวนเชยดูอ่อนนัก,
ใยเหี้ยมและโหดหนักและกระด้างเมื่อชิดตน !
​โรเมโอ. โอ้กามะเทพ, ซึ่งจักษุธาตุยังมืดมล,
ปราศจากจักษุอาจดลณทางถิ่นที่ถูกใจ !
กินฃ้าวแห่งใดดี ? เออ! มีเหตุวิวาทใด ?
แต่น้องไม่ต้องใข, เพราะพี่รู้อยู่เสร็จสรรพ์.
นี้เหตุเพราะความชัง, ยังเพราะรักมากกว่าครัน:
รักก่อวิวาทกัน ! โอ้ความชังอันน่ารัก!
โอ้ว่าบรรดาสิ่ง, เกิดจากอนัตตะลักษณ์ !
โอ้ความเบาแสนหนัก ! และความป้ออันงึมงัน!
จลาจลวิกลแห่งรูปะธรรมที่ลวงกัน !
ขนนกหนัก, ควันผ่องพรรณ, ไฟเย็น, อีกไข้สุฃา!
ตื่นอยู่แต่หลับใน, นี่ไม่เปนเช่นเห็นนา!
ความรักพี่รู้ว่า, ไม่รู้จักรักในนี้.
เหตุใดไม่หัวฮา?
เบ็น. อยากโศกามากกว่า, พี่.
โรเมโอ. เหตุใด, พอใจดี ?
เบ็น. เพราะเห็นใจพี่ โศกศัลย์.
โรเมโอ. นี่และเฃาว่ารักช่างบุกรุกกำเริบครัน.
ความโศกของตัวฉันหนักอยู่แล้วในอุรา,
ซึ่งน้องจะปองช่วยเพื่อให้หนักขึ้นอีกนา
โดยเพิ่มโศกน้องมา : น้องแสดงรักดังนี้
​เพิ่มโศกขึ้นอีกส่วนในโศกพี่ที่แรงทวี.
รักคือควันเกิดมีจากไอแห่งความถอนใจ;
พัดขึ้น, เหมือนอัคคีที่แววตาผู้รักไซร้;
ข้อง, เหมือนสมุทใหญ่เต็มน้ำตาแห่งผู้รัก,
และเปนอะไรอีก ? เปนความบ้าอันดีหนัก,
รสขมที่ขื่นนัก, และรสหวานสมานใจ.
ลาก่อนละ, น้องยา.
เบ็น. ช้า ! น้องนี้ก็อยากไป;
แม้พี่ทิ้งน้องไว้, เหมือนชังน้องนี้อะโข.
โรเมโอ. พี่นี้เหมือนสูญไป; พี่มิได้อยู่; อะโห!
นี่ไม่ใช่โรเมโอ, เฃานั้นอยู่แห่งอื่นไกล.
เบ็น. บอกหน่อยด้วยโศกหนัก, ว่าที่รักนั้นคือใคร
โรเมโอ. จะให้พี่ครางใหญ่แล้วบอกหรือ ?
เบ็น. ฮือ! อย่าคราง;
ขอเพียงให้บอกเถิดว่าคือใคร, จงบอกบ้าง.
โรเมโอ. บอกคนไข้ผู้ปางตายให้ทำพินัยกรรม์:
อ้า, น้องมิควรเร้าซึ่งคนไข้ไข้หนักครัน!
ขอตอบด้วยโศกศัลย์, ว่าพี่รักซึ่งสัตรี.
เบ็น. น้องยิงก็แม่นหมายเมื่อทายว่ารักนารี.
โรเมโอ. แม่นจริง! อันหญิงที่พี่รักนั้นหล่อนเลิดงาม.
เบ็น. เป้างามนะพี่ยา, จะยิงถูกได้ทุกยาม,
โรเมโอ. ข้อนี้น้องผิด; ทรามสวาทหล่อนมิให้ยิง
ด้วยศรแห่งกามไซร้; หล่อนว่องไวเปนยอดหญิง;
และแรงกำแหงยิ่งพิทักษ์พรหมะจารี,
ศรกามะเทพอ่อนจะต้องหล่อนบ่พึงมี.
หล่อนนั้นมิยอมที่จะฟังคำที่ร่ำรัก,
ไม่ยอมจะต่อสู้นัยนาประยุทธ์หนัก,
ไม่แบหัดถ์นงลักษณ์เพื่อรับทรัพยะสินบน :
อ้า, หล่อนสมบูรณในศุภลักษณ์; เปนแต่จน
เพราะยามหล่อนวายชนม์, จะมิเหลือพืชงามดี,
เบ็น. หล่อนกล่าวไว้หรือว่าจะคงพรหมะจารี ?
โรเมโอ. กล่าวไว้, และการที่หวงเช่นนั้นเปลืองเปล่าไป;
เพราะความงาม, เหมือนอดโดยนางกดเสียเหลือใจ,
ตัดความงามฃาดไปจากพรรณพืชอันพึงหวัง.
หล่อนงามเกิน, ฉลาดเกิน, และงามอย่างฉลาดจัง,
มิควรได้สุขังโดยทำพี่ให้ท้อใจ:
หล่อนว่าไม่ขอรัก; และการกล่าวฉนั้นไซร้
พี่ตายทั้งเปนไป, แล้วอยู่มาเพื่อเล่าความ.
​เบ็น. เชื่อน้องเถิด; พี่จงลองลืมนึกถึงนงราม.
โรเมโอ. โอ้, สอนให้พี่ห้ามมะโนคิดเถิดน้องยา.
เบ็น. ลองให้เสรีภาพบริบูรณแต่ดวงตา:
ดูศุภลักษณ์นารีอื่นบ้าง.
โรเมโอ. ทำอย่างนั้น
เหมือนท้าเทียบความงามของหล่อนเลิดและเลอสรร.
หน้ากากที่ดีอันกระชับพักตร์แห่งนงราม,
สีดำ, ทำให้คิดว่าปิดพักตร์พิไลยงาม;
คนใดประสบความตามืดแล้วยิ่งเสียดาย
จักษุวิญญาณอันประเสริฐสุดที่สูญหาย:
แม้นำให้พี่ชายพบนางอื่นสำอางค์องค์,
ความงามของนางนั้นเหมือนกระดาษอันวาดลง
ให้รู้ว่าอนงค์ไม่มีงามเหมือนยาใจ.
ลาก่อน: จะสอนพี่ให้ลืมหล่อนหาได้ไม่.
เบ็น. น้องจะสอนจงได้, หรือยอมจนชั่วชีวัน.
[พากันเฃ้าโรง.]
ตอนที่ ๒
​ถิ่นเดิม. ถนนแห่งหนึ่ง.
คาปุเล็ต, ปารีส, และทนาย ออก.
คาปุ. แต่มอนตะคิวถูกเจ้านายผูกเหมือนเช่นฉัน.
คาดโทษไว้เช่นกัน; และฉันเห็นไม่ยากนัก
สำหรับคนผู้เถ้าอย่างเช่นเราสันตีรักษ์,
ปารีส. ใต้เท้าทั้งสองศักดิ์และเกียรติ์ก็เสมอกัน;
และน่าสลดใจที่โกรธเคืองกันนานครัน.
แต่คำขอดิฉันใต้เท้าเห็นเปนฉันใด ?
คาปุ. ฉันเปนแต่กล่าวซ้ำซึ่งถ้อยคำเคยกล่าวไว้ :
บุตรีของฉันไซร้ไม่รู้จักซึ่งโลกา;
อายุของหล่อนมีสิบสี่ปีมิถ้วนนา;
ให้อีกสองพรรษาผ่านไปก่อนเถิดเปนไร
จึ่งค่อยคิดเห็นควรให้หล่อนเษกสมรสได้.
ปารีส. หญิงอ่อนกว่าหล่อนไซร้เปนมารดาแล้วมีถม.
คาปุ. ชิงสุกก่อนห่ามมักจะพลันหักโค่นระทม.
ลูกฉันก็ตายล้มเสียสิ้นแล้วเหลือเอกา,
หล่อนเปนบุตรีแก้วที่หวังห่วงดังดวงตา:
ค่อยเกี้ยวหล่อนเถิดนา, ปารีส, ให้ได้ดวงใจ,
ส่วนความยินยอมของฉันเปนส่วนอันน้อยไซร้;
​หากลูกประนอมใจ, ภายในวงหล่อนเลือกฟั้น
ฉันพร้อมยอมยินดีและยอมให้เต็มใจครัน.
คืนนี้แหละตัวฉันจะมีงานเช่นเคยมา,
และฉันจะเชิญแขกมากจำนวนประมวลนา,
ตามที่สิเนหา; ทั้งตัวท่านในพวกนั้น,
อีกหนึ่ง, ยินดีรับ, จะช่วยเพิ่มปรีดานันท์.
ที่เคหะของฉันจงคอยดูณคืนนี้
นางฟ้ามาเดินดินประภาส่องนภาศรี:
อีกสุขสราญมีเช่นชายหนุ่มรู้สึกตน
ยามเมษะมาศแพรวพะพรายเหยียบที่ตามซ่น
แห่งเหมันต์มืดมล, คือท่านจะได้ยินดี
ท่ามกลางสุรางค์ราวบุบผะแย้มณราตรี
ในเย่าฃ้าเจ้านี้; จงฟังปวง, อีกปวงดู,
และชอบอนงค์ที่ประเสริฐศุภลักษณ์ตรู:
จงแลแล้วเปรียบดูด้วยลูกน้อยของดิฉัน.
ซึ่งรวมอยู่นั่นด้วย, แต่อาจทรามกว่าทั้งนั้น.
มาเถิด, มาด้วยกัน.-เฮ้ย, ทนายจงเที่ยวไป
ทั่วเวียงเวโรนา; และหาท่านเหล่านี้ไซร้
ซึ่งนามมีจดไว้ที่นี้, อีกบอกด้วยว่า
เคหาสน์ของกูพร้อมจะต้อนรับเฃาอยู่นา.
[คาปุเล็ตและปารีสเฃ้าโรง.]
​ทนาย. ใช้เราไปเที่ยวหาผู้มีนามจดที่นี้
ตามตำรามีจดไว้ว่าให้ช่างทำเกือกยุ่งกับไม้วา, และช่างตัดเสื้อยุ่งกับไม้พิมพ์ทำเกือก, ชาวประมงกับดินสอ, และช่างเขียนกับแหวน; แต่เราสิถูกใช้ให้ไปเที่ยวหาคนที่มีนามจดไว้ในที่นี้, แล้วก็ไม่รู้ได้เลยละว่าเสมียนเฃาจดนามใครไว้ในนี้บ้าง. เราต้อง
ไปหาผู้รู้หนังสือ. พอดีเทียว.
เบ็นโวลิโอ และ โรเมโอ ออก.
เบ็น. จริงนะ, เพลิงหนึ่งเผาเอาเพลิงอื่นดับได้, พี่;
ปวดหนึ่งระงับดีโดยปวดอีกแห่งหนึ่งแท้;
เวียนหัว, กลับตัวเวียนอาจหายเหียนได้เปนแน่;
ทุกข์ร้ายอาจหายแม้หาทุกข์อื่นมาเปนยา:
หาอื่นที่ติดใจเฃ้ามาไว้ณดวงตา,
พิษเก่าซึ่งร้ายนาก็จะดับจะสูญไป.
โรเมโอ. ใบกล้วยตานีพอกสิเห็นพอจะใช้ได้.
เบ็น. พอกเพื่อแก้อะไร ?
โรเมโอ. ก็แก้แข้งที่เดาะหาย.
เบ็น. อะไร, โรเมโอ, โอ้บ้าแล้วหรือพี่ชาย ?
โรเมโอ. ไม่บ้า, แต่เคราะห์ร้ายถูกมัดยิ่งกว่าคนบอ;
ถูกขังตรางไว้, มิให้กินอาหารพอ,
ลูกเฆี่ยนและกวนหนอ-เออ, สบายอยู่หรือหวา ?
​ทนาย. ท่านจงจำเริญ. ท่านอ่านเปนหรือไม่เจ้าฃา ?
โรเมโอ. ฃ้าอ่านเคราะห์ของฃ้าในความโศกทราบได้ดี.
ทนาย. บางทีท่านจะได้เรียนรู้โดยไม่ต้องใช้ตำรา: แต่, ขอประทานเจ้าฃ้า, ท่านอ่านอะไร ๆ ที่เขียนไว้ได้ทั้งนั้นหรือ ?
โรเมโอ. ได้, ถ้าฃ้ารู้จักหนังสือและภาษานั้น.
ทนาย. ท่านกล่าวโดยสุจริต; อยู่สบายเถิด !
โรเมโอ. ช้า, ทนาย, ฃ้าอ่านได้. [อ่าน.]
“สินยอร์มาร์ติโนและภรรยาและบุตรี;
คอนเตอันเส็ลมีและน้องสาวรูปเอี่ยมโอ่;
คุณหญิงผู้เปนหม้ายแห่งท่านวิตรูวิโอ;
สินยอร์ปละเซ็นชิโยและหลานสาววิไลยลออง;
เมอร์คิวชิโออีกวาเล็นไตนผู้เปนน้อง;
อาคาปุเล็ตของเรา, พร้อมบุตริภรรยา;
หลานสาวสำรวยนามรอสะไลน; ลิเวียสง่า;
ติบอลต์, สินยอร์วาเล็นชิโยญาติสนิธ;
อีกลูซิโอกับเฮเลนามีจริต.”
สมาคมวิจิตร์; จะเชิญเฃาไปแห่งใด ?
ทนาย. โน่น-
โรเมโอ. ที่ไหน ? ไปกินเลี้ยงหรือ ?
​ทนาย. ที่บ้านของเรา.
โรเมโอ. บ้านของใคร ?
ทนาย. ของนายฃ้าเจ้า.
โรเมโอ. ที่จริงฃ้าควรจะได้ถามข้อนั้นเสียก่อนแล้ว.
ทนาย. บัดนี้ฃ้าเจ้าจะตอบท่านโดยไม่ต้องให้ถาม. นายของฃ้าเจ้าคือท่านคาปุเล็ตผู้เปนเศรษฐีใหญ่; แล้วก็ถ้าท่านไม่ใช่พวกมอนตะคิวละก็, ฃ้าเจ้าขอเชิญท่านไปดื่มเหล้าด้วยสักถ้วยหนึ่ง. ขอท่านจงอยู่สุข ! [เฃ้าโรง.]
เบ็น. ในงานโบราณของคาปุเล็ตคืนนี้ไซร้
สาวรอสะไลนไป, แม่งามผู้ที่พี่รัก,
ทั้งหญิงที่ชนชมณเวโรนะพร้อมพรัก:
ไปเถิด; ดูประจักษ์ด้วยตาเที่ยงบ่เอียงเอน
เปรียบพักตร์หล่อนกับพักตร์อื่นที่น้องจะชี้เช่น,
น้องจะให้พี่เห็นแม่หงส์ทองต้องเปนกา.
โรเมโอ. เมื่อใดศรัทธาแห่งนัยเนตร์ของเชษฐา
เห็นผิดเช่นน้องว่า, น้ำตาจงกลายเปนไฟ !
ดวงเนตร์ที่น้ำท่วมอยู่เนืองนิตย์ไม่บรรลัย,
เหมือนคนที่บาปใหญ่, มุสาแล้วให้เพลิงผลาญ !
หญิงงามกว่าโฉมศรี ! พระระวีเห็นทุกย่าน
ไม่เคยเห็นใครปานแต่โลกเริ่มประเดิมมา,
​เบ็น. อ๊ะ, พี่เห็นหล่อนสรวย, ด้วยไม่มีผู้อื่นนา,
ชั่งหล่อนกับฉายาด้วยสองเนตร์แทนตราชู;
แต่ในตราชูแก้วอันนั้นจงลองชั่งดู
เทียบนางที่รักอยู่กับนางอื่นที่น้องไซร้
จะชี้ให้ที่ชมณการเลี้ยงคืนนี้ได้,
หล่อนผู้เลิดวิไลยจะลดถอยในตาเตง.
โรเมโอ. จะไป, มิใช่เพื่อไปเห็นอย่างน้องอวดเก่ง,
ไปชมของพี่เองซึ่งงามเลิดณโลกา. [พากันเฃ้าโรง.]
ตอนที่ ๓
ถิ่นเดิม. ห้องหนึ่งในเรือนของคาปุเล็ต.
คุณหญิงคาปุเล็ต และนางนม ออก.
คุณหญิง ค. นม, ลูกฉันอยู่ไหน ? เรียกมาไว, ฉันให้หา.
นางนม. อ๋อ, ด้วยพรหมจาริฃ้าเมื่อสิบสองปี, [๑]๑
ดิฉันจะเรียกมา.- คุณฃา ! คุณผู้เลิดดี ! -
อุ๊ยตาย !- ไปไหนนี่ ! - คุณจูเลียต, คุณเจ้าฃา !
​จูเลียต ออก.
จูเลียต. อะไร ! ใครเรียกฉัน ?
นางนม. คุณแม่.
จูเลี่ยด. อ้อ. ขอวันทา.
คุณแม่ได้ให้หาเพื่อเหตุใดโปรดให้รู้.
คุณหญิง. ธุระคือดังนี้. - นม, หลีกไปเสียสักครู่.
มีเรื่องระหัสอยู่: - อ้อ, นมกลับมาก่อนที;
ฉันนึกขึ้นได้ว่านมควรรู้การเรื่องนี้.
นมรู้ว่าบุตรีมีอายุดรุณวัย,
นางนม. ดิฉันบอกอายุของคุณตรงชั่วโมงได้.
คุณหญิง ค. ยังหย่อนสิบสี่.
นางนม. ให้ฟันฉันหักสิบสี่ซี่,-
แต่อนิจจา, ฉันก็ฟันเหลืออยู่เพียงสี่,-
คุณหย่อนสิบสี่ปี. บัดนี้อีกเท่าไรกัน
จะถึงวันแล็มมาส ? [๒]
คุณหญิง ค. อีกกึ่งเดือนกับเศษวัน.
นางนม. เศษเลยไม่สำคัญ, ดิฉันนึกแต่เท่านี้,
คือถึงคืนแล็มมาสคุณจะครบสิบสี่ปี.
สูสาน - พระเจ้ามีเมตตาผู้ศรัทธาปวง !
​อายุเท่าคุณนี้: สูสานอยู่กับจอมสรวง; [๓]
หล่อนดีนักจึ่งล่วงลับจากแม่ : - แต่ดังนี้,
ถึงคืนแล็มมาสคุณอายุจะครบสิบสี่;
ครบถ้วนจำนวนปี; ดิฉันนี้จำมั่นไว้.
สิบเอ็ดปีแล้วนานับตั้งแต่แผ่นดินไหว;
และคุณอดนมไซร้ - ดิฉันนี้ไม่ลืมหลง -
วันใดในปีนั้นไม่สำคัญเหมือนมั่นคง:
เอาบรเพ็ดลงทาหัวถันดิฉันไว้,
นั่งรับแสงตวันใต้กุฎนกพิราบใหญ่,
เจ้าคุณคุณหญิงไปวันนั้นที่มันตุวา:-
ดิฉันนี้ช่างจำได้แม่นยำ:- ดังนี้ว่า,
พอคุณลิ้มรสาบรเพ็ดที่ทาอยู่
ที่ถัน, และทันใดรู้สึกขม, น่าเอ็นดู,
คุณเคืองและโกรธวู่วิวาทถันน่าขันนัก !
หนีจนชนกุฎนก, เช่นนี้หนอไม่ต้องพัก
ไล่นมเพราะขมนัก, ตั้งแต่นั้นอดนมดี.
แต่นั้นจะนับมาเวลาล่วงสิบเอ็ดปี;
เพราะเมื่อนั้นคุณนี้ยืนเองได้; ให้ดิ้นตาย,
คุณอาจสามารถวิ่งและเดินเล่นสดวกดาย;
​วันก่อนนั้นเคราะห์ร้ายล้มหน้าผากเธอโนไป:
สามีของดิฉัน - พระเจ้ารับวิญญาณไว้ !
พูดขันนี่กระไร - อุ้มคุณนี้ขึ้นโดยพลัน:
เฃาว่า, “เวลานี้คุณล้มขว้ำลงหรือนั้น ?
เมื่อรู้เดียงสาพลันจะต้องล้มลงนอนหงาย;
จริงไหมเล่า, คุณจูล ?” แม่เจ้าเอ๊ย, ขันจะตาย,
คุณหยุดร้องไห้หายแล้วตอบ “เออ” แจ่มแจ้งดี.
คำพูดล้อเลียนกันพลันจะเปนจริงบัดนี้ !
จริงนะ, แม้ฃ้านี้จะอยู่ถึงอายุพัน
คงจะไม่ลืมคำที่ถาม: “จริงไหมเช่นนั้น ?”
น่ารัก, คุณนิ่งพลันแล้วตอบ “เออ” ดังนี้ไซร้.
คุณหญิง ค. พอแล้วละเรื่องนี้; สงบทีเถิดเปนไร.
นางนม. เจ้าคะ: แต่จะให้ดิฉันอดหรือความขัน,
เมื่อนึกถึงคุณหยุดร้องไห้ตอบว่า “เออ” พลัน
แต่ว่าตัวดิฉันจำได้ว่าหน้าผากเธอ
บวมโนโตสักเท่าใช่ไก่อ่อนเทียวละเออ;
ล้มฟาดแรงเทียวเหนอ; และร้องไห้อยู่แงงัน :
สามีดิฉันว่า, “คุณล้มขว้ำลงหรือนั่น ?
เมื่อรู้เดียงสาพลันจะต้องล้มลงนอนหงาย;
จริงไหม, คุณจูล ?” เธอตอบว่า “เออ” ขันจะตาย.
​จูเลียต. หยุดบ้างเถิด, ฉันอาย, นะนมจ๋าอย่าพูดนัก.
นางนม. เลิกทีไม่เล่าละ. พระเปนเจ้าช่วยพิทักษ์ !
คุณเปนเด็กน่ารักที่สุดที่ฉันเลี้ยงมา:
ถ้าแม้ได้อยู่เห็นคุณแต่งงานการอาวาห์,
จะสมปราถนาดิฉันนี้แสนดีใจ.
คุณหญิง ค. เออว่า, “อาวาห์” นั้นเองเปนข้อที่ฉันไซร้
ตั้งจิตมาฃานใข. จูเลียตลูกจงตอบพจน์,
ความเห็นเปนอย่างไรในการจะเษกสมรส ?
จูเลียต. นั่นเปนเกียรติยศที่ลูกนี้มิเคยฝัน.
นางนม. เปนเกียรติยศ ! เออ, ถ้านมเธอมิใช่ฉัน,
จะว่าคุณดูดถันจนสามารถฉลาดจริง.
คุณหญิง ค. จงนึกถึงแต่งงาน; นงคราญอ่อนกว่าลูกหญิง,
ผู้คนนับถือยิ่งในธานีเวโรนา,
เปนแม่อยู่แล้วแท้. อีกตัวแม่คำณวนมา,
ก็ได้เปนมารดาของลูกราวอายุมี
เท่าลูกบัดนี้สาว. ขอกล่าวตัดความบัดนี้;
ปารีสประเสริฐดีขอลูกน้อยเปนคู่ครอง.
นางนม. ชายเลิด, นะคุณนะ! คุณเจ้าคะ, ชายน่าปอง,
ทั้งโลกก็ชมก้อง-รูปราวหล่อวิไลยลาน.
​คุณหญิง ค. ทั่วทั้งเวโรนาบุบผาใดไม่เปรียบปาน
นางนม. จริงนา, บุบผาบาน; เปนแน่แท้เลิดวิไลย.
คุณหญิง ค. จะว่าอย่างไร ? ลูกจะรักเฃาได้หรือไม่ ?
ราตรีนี้จะได้ประสบเฃาณกลางงาน:
จงตรวจดูวงหน้าปารีสแม้นอักษรสาร,
แล้วพบความเบิกบานเขียนไว้ด้วยปากกางาม;
ตรวจถ้วนทุกส่วนพักตร์ผสมลักษณาราม,
ดูล้วนทุกส่วนงามจะยวนจิตพิศเพลินใจ;
ลักษณ์ใดไม่แลเห็นแจ่มเจนณสมุดไซร้,
คงพบธิบายไว้ณริมน่า, คือตาเฃา. [๔]
สมุดประเสริฐแห่งความรัก, ชายเฉิดเฉลา,
ยังหย่อนความเพริดเพราก็เพราะไร้ใบปกดี:
ปลาอยู่ในสมุท; และย่อมสุดประเสริฐศรี
ที่น้ำงามขจีจะหล่อปลาสง่าครัน: [๕]
สมุดที่งามแม้มีกุญแจแจ่มสุวรรณ
ชนเห็นว่าเหมาะครันเพื่อเก็บสารกาญจนา:
เช่นกันอันลูกคงได้ส่วนแบ่งสมบัตยา,
โดยรับเฃาไว้ราคาลูกเองบ่ลดไป.
นางนม. ลดไป! ต้องใหญ่ยิ่ง: หญิงคบชายก็ต้องใหญ่.
​คุณหญิง ค. พูดกันสั้นๆ, ใจรักได้หรือปารีสนั้น ?
จูเลียต. ลูกจะดูเพื่อรัก, แม้รักได้เพราะดูกัน;
แต่ตาของดิฉันจะไม่ดูให้เกินกว่า
คุณแม่จะเห็นชอบและให้แรงแห่งดวงตา.
ทนายผู้ ๑ ออก.
ทนาย โปรดก่อน, พวกแขกมา, และอาหารก็ขึ้นแล้ว.
มีผู้เรียกคุณหญิง, มีผู้ถามหาคุณนาย, แม่นมถูกเฃาด่าในห้องเทียบอาหาร, และอะไรถึงที่ทุกอย่าง. กระผมต้องไปคอยรับใช้; กระผมขอเชิญไปโดยพลัน.
คุณหญิง ค. เราจะตามเฃ้าไป [ทนายเฃ้าโรง.] จูเลียต, เคานต์คอยลูกแก้ว.
นางนม. เชิญสู่ราตรีแผ้ว เพื่อนำสู่ทิวาสราญ. [ต่างเฃ้าโรง.]
๑. ถ้าเมื่อใดพบเลขหมายอย่างนี้ โปรดพลิกไปดูคำอธิบายข้างท้ายสมุด. ↩
ตอนที่ ๔
ถิ่นเดิม. ถนนแห่งหนึ่ง.
โรเมโอ, เมอร์คิวชิโอ, เบ็นโวลิโอ ออก, พร้อมด้วยชายสรวมหน้ากากอีกห้าหรือหกคน, คนถือคบเพลิง. และคนอื่นๆ.
โรเมโอ. ไหน, จะให้กล่าวความเช่นนี้เพื่อแก้ความหาญ,
​หรือเราจะหน้าด้านเฃ้าไปโดยมิแก้ใด?
เบ็น. การพูดยืดยาวนักบัดนี้ย่อมเกินสมัย.
อย่าเปนกามะเทพไปพร้อมผ้าแถบผูกนัยนา,
ถือคันธนูไม้ทาสีแบบของตาร์ตาร์, [๖]
เพื่อหลอกคณานาริเหมือนเด็กไล่ปักษี;
หรือเฃ้าไปเหมือนผู้เบิกโรงและแสร้งทำที
เหมือนพูดปากเปล่าดี, ที่แท้พูดตามบอกบท:
แต่เฃาจะนึกเราเปนอย่างไรยอมได้หมด,
ขอเพียงแต่ได้จดเท้าเต้นน้อยหนึ่ง, แล้วลา.
โรเมโอ. ส่งคบมาให้ฉัน: ฉันไม่เต้นรำละนา;
ใจทึบอยู่หนักหนา, ขอเปนเพียงผู้ส่องไฟ.
เมอร์. อ๊ะ, โรเมโอเพื่อน, ต้องเต้นรำด้วยจงได้.
โรเมโอ. เชื่อเถิด, ฉันไม่ไหว: เพื่อนสิมีเกือกเต้นรำ
ซึ่งฝ่านั้นนุ่มนวล; ส่วนใจฉันนั้นงึมงำ
ราวถ่วงตะกั่วจำจนมิอาจยกบาทา.
เมอร์. เพื่อนรักผู้หญิง; ยืมปีกของกามะเทพมา,
แล้วร่อนด้วยปีกร่าสูงกว่าย่างอย่างสามัญ.
โรเมโอ. ฉันถูกลูกศรแห่งเทพะบุตร์สุดเจ็บครัน
มิอาจจะบินผันด้วยปีกเธอ; และถูกมัด
เช่นนี้มิอาจฃ้ามพ้นจากความโทมะนัส:
แบกรักหนักถนัดจนจวนล้มและจมลง.
​เมอร์. และจมลงอย่างหนัก, เหมือนกดรักนั้นตรงๆ;
หนักเกินเปนมั่นคงสำหรับสิ่งที่อ่อนแอ.
โรเมโอ. รักเปนสิ่งอ่อนหรือ? ไม่จริง, รักทารุณแท้,
แสนหยาบ, แสนฮึกแน่; อีกตำเจ็บเหมือนหนามพราง.
เมอร์. รักหยาบต่อเพื่อนยา, ต้องทารุณต่อรักบ้าง,
รักตำตำรักพลาง, และตีรักหักลงไป.
ขอหน้ากากสักอันเพื่อฉันนี้จะได้ใส่:
อ๊ะ, เอาหน้ากากใยปิดหน้ากาก ! [๗] ช่างเถิดนา
ถึงใครจะใฝ่ดูหน้ายี่ยู่ก็ไม่ว่า.
คิ้วดกคู่นี้นาจะรับแบกอายแทนฉัน.
เบ็น. มา, เคาะแล้วเฃ้าไป, และพอเฃ้าแล้วโดยพลัน
ทุกคนจงพากันใช้ฃาเล่นเต้นรำดี.
โรเมโอ. คบมาให้ฉัน : ปล่อยให้คนเฟื่อง, ใจสุขี,
เขี่ยกกเล่นตามทีด้วยส้นเท้าเก้าไปมา; [๘]
เพราะตัวของฉันเปรียบด้วยภาษิตของปู่ตา;
ขอมีแต่เพียงน่าที่ส่องเทียน, และยืนดู [๙]
การเล่นไม่เคยดีเท่าครั้งนี้, ฉันเหงาอยู่.
เมอร์. เหงาคือเงียบเปนหนู, นครบาลคงชอบนัก.
ถ้าเพื่อนเหมือนตกหล่มจะช่วยฉุดขึ้นจากปลัก,
หรือติดในหล่มรัก, ขออภัยเถิดเพื่อนยา,
ติดลึกถึงเพียงหู. เออ, จุดไฟแข่งทิวา!
​โรเมโอ. ไม่เปนเช่นนั้นนา.
เมอร์. ฉันมุ่งกล่าวว่ารอรี
อยู่เปลืองแสงคบเปล่า, เหมือนจุดไฟกลางวันฉนี้.
จงเชื่อตั้งใจดี, เพราะว่าความวินิจนั้น,
อยู่ตรงตั้งใจยึงกว่าสิ่งอื่นเปนแม่นมั่น.
โรเมโอ. เราตั้งใจดีครันในการไปในงานนี้;
แต่ไปไม่เห็นเหมาะ.
เมอร์. เพราะเหตุไร, ขอถามที?
โรเมโอ. เพราะว่าเมื่อคืนนี้ฉันฝัน.
เมอร์. ฉันก็เหมือนกัน.
โรเมโอ. เพื่อนฝันว่าฉันใด?
เมอร์. ว่าฝันไซร้มุสาครัน.
โรเมโอ. ในเมื่อเรานอนฝัน, มักเห็นสิ่งที่จริงแท้.
เมอร์. ฉันเห็นพระนางแมบได้มาอยู่กับเพื่อนแน่. [๑๐]
เธอเปนหมอตำแยของพวกพราย, และเธอมา.
โดยรูปไม่ใหญ่เกินกว่าเมล็ดพลอยลายโมรา,
หัวธำมรงค์นาคะระเถ้าสรวมนิ้วชี้,
มีสัตว์นี๊ด ๆ ลากรถกระจ้อยที่เธอขี่
ผ่านนาสิกคนที่กำลังหลับสนิทนอน:
ซี่ล้อรถทำด้วยฃาแมลงมุมยาวหลายท่อน;
​กูบทำด้วยปีกอ่อนแห่งตัวตั๋กะแตนเขียว;
ทามทำด้วยสายใยแมลงมุมเส้นแสนเล็กเรียว,
ปลอกคอม้าวิ่งเชี่ยวทำด้วยแสงพระจันทร์ใส;
ด้ามแส้, ฃาจิ้งหรีด; และสายแส้คือสายใย;
นายสารถีไซร้, คือตัวริ้นสีเทาน้อย,
ตัวเล็กแต่เพียงกึ่งแห่งตัวหนอนกระจ้อยร่อย
ซึ่งบ่งจากนิ้วน้อยของหญิงสาวผู้เกียจคร้าน:
ตัวรถคือเปลือกแห่งเฮเซ็ลนัตงามตระการ,
ฝีมือช่างชำนาญ, คือกะรอกหรือด้วงไช,
ซึ่งเคยสร้างรถของพวกพรายมาแต่ไร ๆ.
และโดยยานนี้ไซร้พระนางแล่นทุกราตรี
ผ่านจิตของเจ้าชู้, ผู้ฝันถึงรักทันที;
ผ่านเฃ่าของเสวี, เฃาฝันถึงพูดไพเราะ;
ผ่านนิ้วทนายความ, เฃาฝันถึงค่าจ้างเหมาะ;
ผ่านปากหญิงสาวก็เจ้าหล่อนฝันถึงจุมพิต,
ซึ่งแมบออกเคืองทำให้พุพองขึ้นปากนิตย์,
เพราะปากยังมีติดกลิ่นขนมที่อมไว้;
บางทีเธอแล่นผ่านฃ้ามนาสิกเสวกไป,
ทำเฃาฝันว่าได้ดมกลิ่นเสื้ออันงามตรู;
​บางทีเธอก็มาด้วยหัดถาถือหางหมู
แยงนาสิกขรัวครูผู้กำลังหลับนิทรา,
แล้วแกก็ฝันถึงอติเรกะลาภา;
บางทีขับรถาผ่านฃ้ามคอทหารหาญ,
และเฃาก็ฝันว่าได้เชือดคอศัตรูพาล,
ถึงช่องกำแพง, การซุ่มพล, อีกดาพเหล็กเส๎ปญ,
อีกดื่มกันอย่างลึกตั้งห้าวา; อีกเคาะเล่น
ในหูเฃาแจ่มเจน, เฃาตกใจตื่นบัดนั้น,
และเพราะตกใจเฃาก็เล่ามนตร์สองสามอัน,
แล้วหลับไปอีกพลัน. ก็พระนางแมบองค์นี้
ที่ทำขนคอม้าเหนียวเปนตังในราตรี,
และทำใช้เกศีสาวผู้คร้านเปนตังเหนียว,
ซึ่งในเวลาสางอาจมีลางร้ายมากเจียว;
นางซนตนนี้เทียว, แม้เห็นสาวนอนหงายไซร้,
ขึ้นกดและเสี้ยมสอนให้หล่อนทนถูกทับได้,
อีกทำผู้หญิงให้มีท้องดีโดยเช่นนี้.
นางนี้คือ.-
โรเมโอ. เลิก, เลิก! เมอร์คิวชิโอ, ขอเลิกที !
เพื่อนพูดล้วนไม่มีสาระ.
​เมอร์. จริง, พูดถึงฝัน,
ซึ่งเปรียบเหมือนอย่างจิตที่อยู่นิ่งๆ ฉนั้น,
เกิดแต่สิ่งเหลวครันคือมะเมอฟุ้งสร้านไซร้,
ซึ่งมีสาระน้อยเหมือนอากาศที่เปนไอ.
และความเที่ยงหาไม่เหมือนลม, ซึ่งบัดนี้จร
พัดผ่านไปสู่ถิ่นอันหนาวในภาคอุดร,
แล้วโกรรธกลับพัดย้อนลงมาจากทิศเหนือนั้น,
ผินพักตร์สู่ทักษิณถิ่นน้ำค้างประโปรยพลัน.
เบ็น. ลมที่เพื่อนกล่าวนั้นพัดตัวเราจากตัวไกล;
อาหารคงเลี้ยงแล้ว, และเราน่าจะช้าใหญ่.
โรเมโอ. ฉันเกรงจะเร็วไป: เพราะฉันออกวิตกว่า
อาจมีผลร้าย, ซึ่งยังแขวนอยู่กับดารา,
จักเริ่มประเดิมพาละพิบัติประหัดหาญ
ในงานคืนนี้ไซร้, และในที่สุดรอนราน
ช็วิตอันสามาญในอุระแห่งฉันนี้
ด้วยมรณะกรรมอันแรงกล้าและกาลี:
แต่พระเปนเจ้าที่ทรงนำทางของฉันไซร้
โปรดช่วยอำนวยสวัสดิ์! ไปเถิด, เพื่อนทั้งหลายไป.
เบ็น. รัวกลองขึ้นทันใดและนำพวกเราลีลา. [พากันเฃ้าโรง.]
ตอนที่ ๕
ถิ่นเดิม. ห้องใหญ่ใบบ้านของคาปุเล็ต.
นักดนตรีคอยอยู่, ทนายหลายคน, ถือผ้าเช็ดมือ, ออก.
ทนาย ๑. ป็อตแปนไปไหน, มันจึ่งไม่ช่วยยกของบ้าง ? มันนั้นหรือจะยกถาด! มันนั้นหรือจะขูดถาด!
ทนาย ๒. เมื่อใดกิริยาดีตกอยู่ในมือคนเพียงคนหนึ่งหรือสองคน, และมือนั้นเปื้อนอยู่ด้วยละก็. เปนการสกะปรกมาก.
ทนาย ๑. เก็บตั่งเหล่านี้เสีย, ยกตู้ถ้วยชามแอบ, และระวังเครื่องเงิน. นี่แน่ะเจ้าคนดี, เอาขนมมาร์ชเปนไว้ให้ฃ้าชิ้นหนึ่งเถิด; แล้วก็, ถ้าเจ้ารักฃ้า, ขอให้นายประตูปล่อยให้
สูสานไก๎รนด์สโตนกับเน็ลล์เฃ้ามาด้วย.-แอนตอนี! และป็อตแปน!
ทนาย ๓. อยู่นี่โว้ย.
ทนาย ๑. เฃาตามหาเจ้าและร้องเรียกเจ้า, ถามหาและเที่ยวหา, ที่ในห้องใหญ่.
ทนาย ๕. เราจะอยู่ทั้งที่นี่และที่โน่นด้วยอย่างไรได้.- ทำใจดีๆ. พวกเรา; ไวๆ หน่อย, แล้วก็ใครอยู่ที่หลังก็คงได้ดีละ.
[พวกทนายเฃ้าโรง.]
คาปุเล็ตกับจูเลียตออกพร้อมด้วยคนในบ้าน, พบแขกที่ออกอีกทางหนึ่ง.
คาปุ. เชิญเถิด, ท่านผู้ดี! นารีผู้ที่บาทา
ไม่มีซึ่งตาปลาจะเต้นรำด้วยท่านไซร้ :-
เออ, เออ, ท่านสุภาพสัตรี! มีหรือนางใด
จะว่าไม่เต็มใจเต้นรำ? นางผู้เอื้อนอิด
นิ้วตีนหล่อนคงมีตาปลา; ฉันคงไม่ผิด.-
ยินดีรับเช่นมิตร! ตัวฉันเองยังจำได้
เมื่อเคยสรวมหน้ากาก, และยามรุ่นดรุณวัย
พูดจากระซิบในกรรณแห่งนางดรุณี,
ซึ่งทำให้หญิงชอบ, ล่วงเลย, ล่วงแล้วบัดนี้:-
เชิญเถิด, ท่านผู้ดี! - นักดนตรี, เริ่มเล่นไป.-
หลีกหน่อย, หลีกหน่อยซี ! อย่าเบียด! เต้นรำเปนไร.-
[ดนตรีเล่น และเฃาเริ่มเต้นรำกัน.]
คบมา, อ้ายพวกไพร่! พับปลายโต๊ะขึ้นเสียเทอญ,
และดับไฟในเตา, ห้องนี้ออกจะร้อนเกิน.-
เออ, เพื่อน, ช่างน่าเพลินน่าเพลิดจิตนักหนาอยู่.-
นั่งเถิด, นั่งเถิดอาคาปุเล็ต, จงนั่งดู,
เพราะอาและฉันรู้ตัวแก่เกินเต้นรำไป;
​เออก็กี่ปีมาตั้งแต่อากับฉันไซร้
ได้สรวมหน้ากาก?
คาปุ. เถ้า. ไหน, แม่เจ้าเอ๊ย, สามสิบปี.
คาปุ. อะไร! ยังไม่ถึง, ยังไม่ถึงแน่ละนี่:
มันตั้งแต่พิธีลูเซ็นชีโออาวาห์:
ถึงเปนเตค็อสต์จะเปนวันใดตามทีนา, [๑๑]
นับปีญี่สิบห้า, ปีนั้นใส่หน้ากากกัน.
คาปุ. เถ้า. กว่าอีก, กว่าอีก; ลูกชายใหญ่เฃาแก่กว่านั้น,
ลูกเฃาสามสิบมั่น.
คาปุ. เช่นนั้นจริงเจียวหรืออา ?
ลูกเฃายังหนุ่มน้อยเมื่อสองปีที่ล่วงมา.
โรเมโอ. นางนั้นคือใครนาซึ่งดูราวอาภรณใส
ที่หัดถ์แห่งชายนั้น?
ทนาย. ดิฉันนี้หาทราบไม่,
โรเมโอ. เออ, หล่อนสิสอนไฟให้ส่องแสงสว่างวาม!
ดูราวกับหล่อนห้อยณปรางแห่งราตรีราม
เหมือนรัตนางามณกรรณแห่งคนผิวนิล;
ความงามงามเกินใช้, มีค่าไกรเกินแผ่นดิน!
นกเฃาเผือกผ่องบินในฝูงกาก็ปานกัน,
โฉมนางสำอางค์อยู่ในหมู่นางก็ฉันนั้น,
​จบเพลงระบำพลัน, จะคอยดูหล่อนอยู่ไหน,
แล้วต้องมือหล่อนน้อยพลอยให้มือเราเลิดได้.
เคยรักแล้วหรือใจเมื่อก่อนนี้ ? เถียงเถิดตา!
เพราะยังมิเคยเห็นงามจริงจนคืนนี้นา.
ติบ. นี่, ตามเสียงเจรจา, เปนอ้ายมอนตะคิวพาล. -
เอาดาพกูมา, เด็ก. - ชะ! อวดดี, อ้ายสันดาน,
เฃ้ามาถึงในบ้าน, ใส่หน้ากากตลกมา
เพื่อเย้ยและเยาะการงานของเราหรือในว่า?
บัดนี้, โดยคุณาและชื่อเสียงสกุลไซร้,
แม้เราจะฆ่ามันอันบาปกรรมหามีไม่
คาปุ. เอ๊ะ, หลาน, นั่นเปนไร ? ไฉนมาเอะอะเล่า?ี
ติบ. คุณลุง, อ้ายนั้นเปนมอนตะคิว, ศัตรูเรา;
มันแสนระยำเฃ้ามาทีนี้เทราะมุ่งร้าย,
เพื่อเย้ยการงานดีณคืนนี้มันมุ่งหมาย.
คาปุ. โรเมโอหรือหลานชาย ?
ติบ. นั่นอ้ายโรเมโอพาล.
คาปุ่. เจ้าจงสกดใจ, อย่ากวนเฃาเลยนะหลาน,
ดูท่าและอาการของเฃาไซร้สุภาพดี;
และ, อันที่จริง, ชาวเวโรนาชมเฃานี้
​ว่าเปนชายหนุ่มดีและประพฤติก็ดีงาม:
ถึงแม้จะให้สินทั้งหมดสิ้นบุรีราม
ลุงก็ไม่ก่อความร้ายแก่เฃาในเคหา:
ดังนั้นสงบจิต, อย่าพิศเพ่งเฃาเลยนา:
ลุงชอบเช่นนี้, ถ้ายังเคารพลุงนี้ไซร้,
จงทำหน้าบานเบิกเลิกหน้านิ่วเสียทันใด,
ซึ่งไม่เหมาะเลยในงานบรรเทิงรื่นเริงนี้.
ติบ. มันเหมาะ, เพราะมีแขกที่ปลอมแปลกเปนกาลี,
ผมไม่ขอทนนี่.
คาปุ. แต่กูจะให้ทนละ:
อะไร, เด็กโยโส! ต้องทนได้ : ตายสิวะ;
ที่นี่กูอิศระ, หรือมึงโต ? อ้ายจัญไร.
มึงไม่ขอทนเฃา! พระเจ้าช่วยกูพ้นภัย,
มึงจะก่อเหตุใหญ่ในหมู่แขกของกูหรือ?
มึงจะก่อกำเริบโกลาหล! มึงแหละฮือ!
ติบ. จริงนะ, คุณลุง, คือมันร้ายครัน.
คาปุ. อ้ายจัญไร:
มึงนี้อวดดีหนอ : อ้อร้ายนักหรือไฉน ?
ก่อเหตุคราวนี้ไซร้มึงเจ็บเอง,- กูย่อมรู้:
มึงจะอวดดีขัดใจกู ! เฮ้ย, ชอบกลอยู่.-
ดีเพื่อน, ฉันชอบดู !- อ้ายสู่รู้มึงหลีกไป.
หยุดพูด, หาไม่กู - ส่องไฟอีก, เฮ้ยส่องไฟ !-
กูต้องห้ามมึงได้. - ดีแล้วเพื่อน, เชิญสำราญ !
ติบ. ขันตีที่กดไว้ประทะไฟโทโษหาญ
ทำให้เนื้อเต้นร่านเพราะต่างแรงต่างสู้กัน.
เราจำจะหลีกไป: แต่การเสือกของมันนั้น,
เดี๋ยวนี้ดูหวานครัน, จะกลับกลายเปนขื่นขม. [เฃ้าโรง.]
โรเมโอ. แม้ฃ้าละลาบล่วงณสถานวโรดม
ด้วยหัดถะถ่อยชม, ฤก็บาปบ่มากมี,
โทโอษฐะเปรียบมามะกะ, คอยณที่นี้
แก้กิจจะกาลีทุษะด้วยจะจุมพิต.
จูเลียต. อ้าท่านอุบาสก, นขะท่านสิแสนผิด,
ทำบูชะนีย์กิจธุระถูกสิจึ่งดี;
หัดถ์เทวะรูปมามะกะจับก็ควรที่,
แลมือประนมนี้สิแสดงนะมัสแท้.
โรเมโอ. รูปหล่อและผู้ไหว้นิระโอษฐ์ละหรือแม่ ?
จูเลียต. โอษฐ์ควรจะมีแต่ธุระวอนสุเทวา.
โรเมโอ. เช่นนั้นก็เทวีอนุญาตดะนูนา,
เพื่อรักษะศรัทธาดนุขอก็ตามใจ.
​จูเลียต. ถึงแม้ประสาทพร, ปะฏิมาบ่หวั่นไหว.
โรเมโอ. เช่นนั้นสิอย่าไคล, ขณะฃ้าจะรับพร.
ดังนี้ด้วยปากขอล้างบาปโดยแตะปากหล่อน. [จุมพิตนาง.]
จูเลียต. ดังนี้ปากฉันย้อนรับบาปนั้นติดเอามา.
โรเมโอ. บาปจากปากฉันหรือ ? เออชี้บาปชื่นอุรา !
ขอบาปคืนเถิดนา.
จูเลียต. คุณจูบตามตำหรับดี.
นางนม. คุณคะ, คุณแม่อยากพบพูดด้วยณบัดนี้.
โรเมโอ. ใครเปนชนนี ?
นางนม. เออ, พ่อหนุ่ม, จะบอกให้,
คุณแม่ของหล่อนคือผู้เปนแม่เรือนนี้ไซร้,
เปนหญิงดีเหลือใจ, และฉลาด, และเลิดดี:
ฉันเลี้ยงบุตรีท่านที่คุณพูดด้วยเมื่อกี้;
ขอบอกว่าชายที่ได้ลูกสาวของท่านพลัน
จะได้รวยเงิน.
โรเมโอ. หล่อนคาปุเล็ตหรือเช่นนั้น ?
โอ้อกกูแตกลั่น ! เหมือนฝากชีพณศัตรู
เบ็น. ควรไปกันที; งานกำลังแสนสนุกอยู่
โรเมโอ. เออ, พี่ก็ย่อมรู้: แต่ก็ยิ่งอนาถใจ,
​คาปุ. อ้าว, ท่านทั้งหลาย, อย่าเพ่อรีบด่วนชวนกันไป;
เราจัดของว่างไว้สักเล็กน้อยคอยเชิญกิน.-
อ้อ, เปนเช่นนั้นหรือ ? ขอขอบใจท่านทั้งสิ้น;
ขอบใจท่าน, ฃ้ายินดีที่ท่านได้เมตตา.-
เอาคบมานี้อีก !- มาเถิดเรา, เฃ้านิทรา.
เออ, นี้เปนเวลาดึกแล้วหนอ, ควรเฃ้าไป.
ฉันจะไปนอนนา
[เฃ้าโรงหมดนอกจากจูเลียตกับนางนม.]
จูเลียต. นมจ๋า, จงมานี่. ชายผู้ดีนั้นคือใคร?
นางนม. ทายาทและลูกใหญ่ของติเบริโอนา.
จูเลียต. นั่นใครกำลังเดินจะออกพ้นทวารา ?
นางนม. ดูเหมือนเฃาชื่อว่าเปตรูชิโอ, แต่เหลือจำ.
จูเลียต. นั่นใครเดินสุดท้าย, คือชายที่ไม่เต้นรำ ?
นางนม. ไม่รู้เปนแม่นยำ. ต้องไปถามเฃาดูที.
จูเลียต. ไปถามชื่อเฃามา.- แม้ภรรยาของเฃามี.
หลุมศพของฃ้านี้จะแทนแท่นนอนอาวาห์,
นางนม. เฃาชื่อโรเมโอ, และเปนมอนตะคิวนา;
ลูกเดียวของมหาปัจจามิตร์ของคุณเจียว.
จูเลียต. โอ้ว่าสิเนหะดนุเอกก็กำเนิดณชังเดียว !
แรกพบบรู้บมิเฉลียวคติรู้สิเลยกาล !
​โอ้ว่ากระไรนะประดิพัทธะประหัดมะโนมาลย์,
บังเอินสมัคมนะสมานฤดิรักศะตรูเรา.
นางนม. อะไร ? อะไรคุณ ?
จูเลียต. เปนคำฉันท์อันจำเฃา
ผู้เต้นรำด้วยเล่าท่องให้ฟังกี้นี้นา.
เสียงในโรง. จูเลียต ! คุณจูเลียต !
นางนม. ได้ยินแล้ว, ประเดี๋ยวมา.-
เฃ้าไปเถิดแก้วตา; บรรดาแขกไปหมดแล้ว.
[พากันเฃ้าโรง]
โฆษณา