22 ต.ค. เวลา 15:57 • หุ้น & เศรษฐกิจ

คนจนคือใคร? แล้วอะไรคือความยากจน?

ความยากจนเป็นปัญหาเรื้อรังในเศรษฐกิจและสังคมไทยมาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะมีการพยายามพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน สร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาในด้านอื่น ๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม แต่ปัญหาความยากจนยังคงไม่หายไปไหน มันอยู่กับเราในทุกที่ ทั้งในชนห่างไกล ย่านชานเมือง หรือแม้แต่ในใจกลางความเจริญอย่างกรุงเทพฯ
💸ความยากจน (Poverty)
ความยากจนเป็นภาวะที่บุคคลหรือครัวเรือนไม่สามารถเข้าถึงทรัพยากรหรือปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตได้อย่างเพียงพอ โดยอาจเกิดจากหลายปัจจัยทั้งการมีรายได้ต่ำ การขาดความสามารถในการเข้าถึง ทรัพยากร การขาดโอกาสทางการศึกษา การขาดสิทธิของความเป็นพลเมือง การประสบภัยพิบัติ ฯลฯ โดย สามารถแบ่งความยากจนอย่างง่ายได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
📌Absolute Poverty (ความยากจนสัมบูรณ์)
คือ ความยากจนที่วัดด้วยการใช้เส้นความยากจน (Poverty Line) ซึ่งกำหนดรายได้ขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตโดยไม่ขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ อาทิ อาหารที่มี สารอาหารครบถ้วน น้ำสะอาด ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ ซึ่งบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนจะไม่สามารถเข้าถึงปัจจัยเหล่านี้ได้อย่างเพียงพอ (endPoverty, 2023) เนื่องจากการเข้าถึงปัจจัยเหล่านี้มีต้นทุนสูงกว่ารายได้ที่มี ความยากจนประเภทนี้ถือเป็นการขาดแคลนในเชิงปริมาณอย่างชัดเจน
อย่างในปี พ.ศ.2566 (ค.ศ.2023)
- เส้นความยากจนไทยอยู่ที่ 3,043 บาทต่อคนต่อเดือน (สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2567) หรือราววันละ 101 บาท
- เส้นความยากจนสากลอยู่ที่ 2.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อวัน (World Bank, 2022, as cited in Kenton, 2023) หรือราววันละ 74.5 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยปี พ.ศ.2566)
📌Relative Poverty (ความยากจนสัมพัทธ์)
คือ ความยากจนที่ไม่ได้วัดด้วยเส้นความยากจน แต่พิจารณาคุณภาพชีวิตของบุคคลหรือครัวเรือนในหลายมิติ เช่น สุขภาพ การศึกษา มาตรฐานการดำรงชีวิต
รวมถึงความสามารถในการเข้าถึงโอกาสต่าง ๆ
การวัดความยากจนประเภทนี้จะเปรียบเทียบความเป็นอยู่ของบุคคลหรือครัวเรือนนั้นกับมาตรฐานการดำรงชีวิตของสังคมในภาพรวม กล่าวคือ บุคคลหรือครัวเรือนที่อยู่ในกลุ่มนี้อาจมีรายได้สูงกว่าเส้น ความยากจน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ ในสังคม พวกเขาอาจจะยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการหรือสินค้าที่จะมอบความพอใจสูงที่สุดได้ ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาและโอกาสทางการงานที่ดี ทำให้คุณภาพชีวิตต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำของสังคม
ความยากจนประเภทนี้จึงเป็นการขาดแคลนในเชิงคุณภาพที่สัมพันธ์กับมาตรฐานการดำรงชีวิต และอาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มชนชั้นกลางที่ไม่มีทรัพยากรมากพอเมื่อเทียบกับ minimum living standards (endPoverty, 2023)
ดังนั้น คนจน คือ คนที่ไม่สามารถเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตได้อย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่อยู่อาศัย การศึกษา หรือบริการสุขภาพ โดยอาจมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน หรือมีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานของสังคมแม้มีรายได้เพียงพอ และทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและเท่าเทียมกับผู้อื่นในสังคม
🇹🇭ความยากจนในไทย
หากย้อนกลับไปตั้งแต่ก่อนแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 1 (2504) เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชนบทและมักทำงานในภาคเกษตรกรรม แต่เกษตรกรรมไทยยังพึ่งพาธรรมชาติจึงทำให้เกิดปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพในการผลิต ราคาผลผลิตผันผวน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของเกษตรกร เกษตรกรจำนวนมากจึงต้องเผชิญกับความยากจนและปัญหาหนี้สะสม นอกจากนี้ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การศึกษาและสาธารณสุขที่ยังไม่ทั่วถึงทำให้ประชาชนในชนบทพัฒนาหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของตนได้อย่างยากลำบาก
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2567) ได้รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยในปี พ.ศ.2566 ว่าประเทศไทยมีคนจนที่อยู่ใต้เส้นความยากจน 2.39 ล้านคน หรือราวร้อยละ 3.41 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งลดลงจากปี พ.ศ.2565 ที่มีคนจนอยู่ราว 3.79 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 5.43 และเมื่อเทียบกับช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
World bank group รายงานค่า Gini Index ซึ่งเป็นดัชนีแสดงค่าความยากจนและความเหลื่อมล้ำในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งค่า Gini Index ของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ อย่างในปี พ.ศ.2566 ค่า Gini Index อยู่ที่ 33.5 ลดลงจากปี พ.ศ.2565 ที่ 34.9 และลดลงจากปีก่อน ๆ
จากการรายงานข้างต้นนี้ คนจนทุกในไทยมีแนวโน้มที่ลดลง จึงอาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ความยากจนในไทยมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่าการลดลงของสัดส่วนคนจนนั้นเป็นผลมาจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
☠️ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของความยากจน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงความยากจนมีด้วยกันหลายปัจจัย ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจ นโยบาย ของรัฐ การศึกษา ภัยพิบัติ เทคโนโลยี และปัจจัยอื่น ๆ โดยปัจจัยเหล่านี้อาจส่งกระทบทั้งในด้านดี คือ ช่วยลดหรือ บรรเทาความยากจนลงได้ แต่ในอีกทางหนึ่งก็อาจซ้ำเติมความยากจนและความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่เดิม
1. การพัฒนาเศรษฐกิจ: เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคเกษตรกรรมมาสู่ภาคอุตสาหกรรมและบริการ เกิดการเพิ่มรายได้ให้แก่แรงงานในอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยสร้างรายได้และการจ้างงาน แต่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำทางรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจหลงเหลืออยู่
2. นโยบายภาครัฐ: รัฐบาลเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยในการบริหารจัดการทรัพยากร การจัดการบริการสาธารณะ และบังคับใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยหลายรัฐบาลไทยมีโครงการสวัสดิการช่วยบรรเทาความยากจน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางนโยบายอาจซ้ำเติมปัญหาได้
3. การศึกษา: การศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสทางอาชีพ แต่ความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพและการเข้าถึงการศึกษายังคงเป็นปัญหา โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่ได้รับทรัพยากรและงบประมาณจำกัด ทำให้คนบางกลุ่มไม่สามารถพัฒนาตนเองเพื่อหลุดพ้นจากความยากจนได้
4. ภัยพิบัติและโรคระบาด: เหตุการณ์อย่างน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือการระบาดของโรค เช่น COVID-19 ส่งผลโดยตรงต่อรายได้และการจ้างงาน โดยเฉพาะในภาคบริการและการท่องเที่ยว แม้รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยา แต่ผลกระทบระยะยาวยังคงทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้า
5. เทคโนโลยี: ด้านหนึ่งเทคโนโลยีช่วยเพิ่มช่องทางอาชีพใหม่ เช่น งานออนไลน์ งานฟรีแลนซ์ เป็นต้น แต่อีกด้านหนึ่งแรงงานที่ไม่มีทักษะเฉพาะอาจถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติหรือตกงาน
6. โครงสร้างประชากร: ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุส่งผลให้แรงงานลดลงและภาระดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ครอบครัวรายได้น้อยเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มในขณะที่รายได้ไม่เพียงพอ
📉ผลกระทบจากปัญหาความยากจน
ความยากจนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในหลายด้านทั้งการบริโภค แรงงาน การลงทุน การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม ฯลฯ กล่าวคือ เมื่อประชากรจำนวนมากเข้าสู่ภาวะยากจน กำลังซื้อและการบริโภคภายในประเทศย่อมลดลง ส่งผลให้การเติบโตและพัฒนาของธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ชะลอตัว รายได้ของบริษัทลดลง และนำไปสู่การจ้างงานที่ลดลง วงจรนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น
รัฐบาลจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขและบรรเทาความยากจนผ่านโครงการและสวัสดิการต่าง ๆ อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การควบคุมราคาสินค้า เป็นต้น หากรัฐบาลต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายในสวัสดิการสังคมจะทำให้ภาระหนี้สาธารณะจะเพิ่มพูนขึ้น งบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือและชำระหนี้สาธารณะเหล่านี้อาจส่งผลให้ภาครัฐมีสัดส่วนงบประมาณและทรัพยากรสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจ และการจัดทำนโยบายอื่น ๆ ลดลงในระยะยาว
นอกจากนี้ ความยากจนยังเป็นปัจจัยที่ทำให้การลงทุนจากภาคเอกชนและต่างประเทศลดลง เนื่องจากนักลงทุนมักพิจารณาปัจจัยด้านกำลังซื้อของประชากร ทักษะแรงงาน รวมถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศก่อนตัดสินใจลงทุน หากประชากรส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำ ตลาดในประเทศจะไม่สามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจได้ หรือแรงงานขาดทักษะการทำงานย่อมทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในการลงทุน
🤔แล้วควรทำอย่างไร?
ความยากจนในไทยเป็นปัญหาที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น และลดลงตามปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยที่ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้มีผลกระทบต่อความสามารถในการดำรงชีวิตของประชาชน แม้จะมีการพยายามพัฒนาในหลาย แต่ปัญหาความยากจนยังคงไม่หายไปไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชนชั้นแรงงานและผู้สูงอายุที่ขาดแคลนการเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็น
การพัฒนาระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ การบรรเทาความเดือดร้อน การสร้างรัฐสวัสดิการ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจ การส่งเสริมความเสมอภาคและโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ อย่างเป็นธรรมจะเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นและลดความยากจนได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
อ้างอิง
ธนาคารแห่งประเทศไทย, (ม.ป.ป.). ข้อมูลสถิติ: สถิติเศรษฐกิจการเงินและการเงินภาครัฐ. เข้าถึงเมื่อ 14 ตุลาคม 2568 จาก https://app.bot.or.th/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=123&language=TH
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2567). รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ความยากจนและ ความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย 2566. เข้าถึงได้จาก https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=15744
endPoverty. (2023, March 2). Relative Poverty vs. Absolute Poverty. Retrieved October 14, 2025, from endPoverty: https://endpoverty.org/relative-poverty-vs-absolute-poverty/
Kenton, W. (2023, September 29). International Poverty Line: Definition, Criticism, Uses. Retrieved October 15, 2025, from Investopedia: https://www.investopedia.com/terms/i/international-poverty-line.asp
The World Bank. (n.d.). Gini index – Thailand. Retrieved October 15, 2025, from https://data.worldbank.org/indicator/SI.POV.GINI?locations=TH
เผยแพร่ครั้งแรก 22 ตุลาคม 2568
แก้ไขล่าสุด 30 ตุลาคม 2568
โฆษณา