แจก Sheet คำนวณ “ค่าเสื่อมราคา” กำหนดค่าต่าง ๆ ได้เอง ช่วยให้เข้าใจ เบสิกธุรกิจ ได้ง่ายขึ้น
-อยากเริ่มธุรกิจของตัวเอง ลองมาซ้อมเรื่องนี้ดู..
ค่าเสื่อมราคา (Depreciation) = ค่าใช้จ่ายที่ทยอยรับรู้ จากสินทรัพย์ที่นำมาใช้ในการทำธุรกิจ แล้วเสื่อมโทรมลง จนหมดอายุการใช้งาน
ตัวละครในเรื่อง ค่าเสื่อมราคา จะมีหลัก ๆ 3 ตัว
-ราคาทุน = ราคาสินทรัพย์ที่เราลงทุนซื้อมา เช่น เครื่องชงกาแฟ ราคา 100,000 บาท
-อายุการใช้งานสินทรัพย์นั้น เช่น 3 ปี, 5 ปี, 10 ปี
-มูลค่าซาก = มูลค่าหรือราคา ของสินทรัพย์นั้น หลังจากสิ้นสภาพการใช้งานแล้ว เช่น เครื่องชงกาแฟที่พอใช้ไป 10 ปี แล้วต้องเปลี่ยนใหม่ และขายซากได้ 10,000 บาท
แล้วค่าเสื่อมราคา คิดออกมาเป็นตัวเลขอย่างไร ? ก็จะมีหลัก ๆ 3 วิธี ที่นิยมใช้กัน
1. วิธีเส้นตรง (Straight Line Method)
การคิดค่าเสื่อมราคาด้วยวิธีนี้ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และธุรกิจทั่วไปนิยมใช้กัน
วิธีคือ จะตัดมูลค่าของสินทรัพย์ที่เราใช้ทำธุรกิจ เท่า ๆ กันทุกปี
สูตรการคำนวณ
ค่าเสื่อมราคา = (ราคาทุน - มูลค่าซาก) / อายุการใช้งาน
โจทย์เช่น เครื่องชงกาแฟมูลค่า 100,000 บาท คาดว่าสามารถใช้งานได้ 10 ปี และมีราคาขายต่อ (มูลค่าซาก) หลังจากการใช้งาน 10,000 บาท
เพราะฉะนั้น ค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้ จะเท่ากับ (100,000 - 10,000) / 10 = 9,000 บาท ต่อปี
2. วิธีจำนวนปีคงเหลือ (Sum-of-the-Years' Digits method)
วิธีนี้เป็นการตัดมูลค่าสินทรัพย์สูง ๆ ในช่วงแรก และปีต่อ ๆ ไปก็จะค่อย ๆ ตัดมูลค่าสินทรัพย์น้อยลงเรื่อย ๆ
นิยมคิดกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าลดลงเร็วในช่วงแรกของอายุการใช้งาน เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน ที่ตกรุ่นเร็ว
สูตรการคำนวณ
ค่าเสื่อมราคา = (ราคาทุน - มูลค่าซาก) x (จำนวนปีที่เหลือ / ผลรวมจำนวนปี)
โจทย์เช่น เครื่องชงกาแฟมูลค่า 100,000 บาท อายุการใช้งาน 10 ปี และมีมูลค่าซาก 10,000 บาท
Step 1: หาราคาทุน - มูลค่าซาก เท่ากับ 100,000 - 10,000 = 90,000 บาท
Step 2: หาผลรวม ของจำนวนปีคงเหลือทั้งหมด
จากโจทย์ เครื่องชงกาแฟ มีอายุการใช้งาน 10 ปี ผลรวมของจำนวนปี จะเท่ากับ 10 + 9 + 8 + 7 + 6 + 5 + 4 + 3 + 2 + 1 = 55
Step 3: หาอัตราส่วนของ จำนวนปีคงเหลือ ต่อ ผลรวมของจำนวนปี
- ปีที่ 1 = 10/55
- ปีที่ 2 = 9/55
- ปีที่ 3 = 8/55
.
.
.
- ปีที่ 10 = 1/55
Step 4: นำอัตราส่วนที่คิดได้จาก Step 3 ไปคูณกับ (ราคาทุน - มูลค่าซาก) ที่คิดได้จาก Step 1
- สิ้นปีที่ 1 เท่ากับ (10/55) x 90,000 บาท = 16,364 บาท
- สิ้นปีที่ 2 เท่ากับ (9/55) x 90,000 บาท = 14,727 บาท
- สิ้นปีที่ 3 เท่ากับ (8/55) x 90,000 บาท = 13,091 บาท
.
.
.
- สิ้นปีที่ 10 เท่ากับ (1/55) x 90,000 บาท = 1,636 บาท
______________
3. คิดค่าเสื่อมราคา ตามหน่วยการผลิต (Units-of-Production Method)
วิธีนี้ จะตัดมูลค่าตามการใช้งานจริงของสินทรัพย์ในแต่ละปี
โจทย์เช่น เครื่องชงกาแฟมูลค่า 100,000 บาท มีอายุการใช้งาน 10 ปี คาดว่าสามารถชงกาแฟได้ 100,000 แก้ว และมีมูลค่าซาก 10,000 บาท
- สิ้นปีที่ 1
สมมติ ชงกาแฟได้ 5,000 แก้ว
ค่าเสื่อมราคา จะเท่ากับ (5,000 / 100,000) x (100,000 - 10,000) = 4,500 บาท
- สิ้นปีที่ 2
สมมติ ชงกาแฟได้ 10,000 แก้ว
ค่าเสื่อมราคา จะเท่ากับ (10,000 / 100,000) x (100,000 - 10,000) = 9,000 บาท
- สิ้นปีที่ 3
สมมติ ชงกาแฟได้ 15,000 แก้ว
ค่าเสื่อมราคา จะเท่ากับ (15,000 / 100,000) x (100,000 - 10,000) = 13,500 บาท
อ่านถึงตรงนี้จะพอเข้าใจคอนเซปต์เรื่องนี้แล้ว คราวนี้ลองมาซ้อมทำจริง ๆ กันดู
-แจก Sheet คำนวณ “ค่าเสื่อมราคา” เรื่องสำคัญสำหรับ คนอยากเริ่ม ธุรกิจส่วนตัว ข้างในมีให้กำหนดค่าต่าง ๆ ได้เอง พร้อมวิธีใช้งานแบบเข้าใจง่าย ๆ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
