23 ต.ค. เวลา 09:23 • ปรัชญา
"การพิจารณาว่าบุคคลมีหรือได้ธรรมะแล้วนั้น อาจสังเกตได้จากหลายประการ แต่หนึ่งในรากฐานที่สำคัญยิ่งคือ 'การมีหิริโอตตัปปะ' ซึ่งหมายถึง 'ความละอายต่อบาปและความเกรงกลัวต่อผลของบาป'
หิริ (ความละอายต่อบาป): คือความรู้สึกละอายใจที่จะทำความชั่ว ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา หรือใจ ด้วยตระหนักว่าการกระทำนั้นไม่สมควรแก่ตนเอง ไม่สมควรแก่ฐานะ ไม่สมควรแก่คุณธรรมที่พึงมี เป็นความละอายที่เกิดจากภายใน เป็นการเคารพตนเอง
โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวต่อผลของบาป): คือความเกรงกลัวต่อผลร้ายของการทำความชั่ว กลัวว่าการกระทำนั้นจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น กลัวคำตำหนิติเตียนจากสังคม กลัวการลงโทษตามกฎหมาย หรือกลัวผลกรรมที่จะตามมาในภพหน้า เป็นความเกรงกลัวที่เกิดจากภายนอก เป็นการเคารพผู้อื่นและกฎแห่งกรรม
เมื่อบุคคลมีหิริโอตตัปปะอย่างแท้จริง พฤติกรรมของเขาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาจะระมัดระวังในการกระทำ คำพูด และความคิด ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น มีความซื่อสัตย์สุจริต มีเมตตาธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม นี่คือสัญญาณเบื้องต้นที่แสดงว่าธรรมะได้หยั่งรากลึกในจิตใจของบุคคลนั้นแล้ว เพราะหิริโอตตัปปะเป็นธรรมะที่คุ้มครองโลก และเป็นเครื่องหมายของผู้มีธรรมะอย่างแท้จริง"
โฆษณา