[Environmental Law Insights] ร่างพ.ร.บ. PRTR - Pollutant Release and Transfer Register
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ. PRTR ในวาระแรก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งร่างกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความสำคัญในการยกระดับระบบการบริหารจัดการมลพิษของประเทศไทยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้มากยิ่งขึ้นร่างพ.ร.บ. PRTR ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา นิติบุคคล หรือหน่วยงานใดที่มีการปล่อยหรือเคลื่อนย้ายสารมลพิษ ต้องรายงานและเปิดเผยข้อมูลชนิดและปริมาณของสารพิษที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมต่อกรมควบคุมมลพิษ
โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปจัดทำเป็นฐานข้อมูลกลางเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตนได้ อีกทั้งยังครอบคลุมถึงการประเมินการปลดปล่อยสารมลพิษจากแหล่งกำหนดมลพิษหลากหลายรูปแบบ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า เหมืองแร่ ยานพาหนะ และรวมถึงแหล่งกำเนิดมลพิษซึ่งไม่สามารถระบุได้แน่นอน และร่างพ.ร.บ. ดังกล่าวกำหนดให้หน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบในการประเมินและจัดส่งข้อมูลให้กรมควบคุมมลพิษเป็นประจำทุกปี
ข้อมูลที่ปรากฏในระบบฐานข้อมูลดังกล่าวยังอาจส่งผลถึงการพิจารณาคำขออนุญาตการดำเนินการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องจะมีอำนาจที่จะนำข้อมูลการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษจากแหล่งกำเนิดมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมไปประกอบการพิจารณาอนุญาตการดำเนินกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือกำหนดเงื่อนไขการอนุญาต การดำเนินกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ตามมาตรา 30 (2) ของร่างพ.ร.บ. PRTR
นอกจากนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีอำนาจที่จะออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกใบอนุญาตการพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขได้ ตามมาตรา 30 (3) ของร่างพ.ร.บ. PRTR
ร่างพ.ร.บ. ฉบับนี้มีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับความโปร่งใสของภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนภายใต้หลักการพัฒนาองค์กร (ESG) ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมาจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ในขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงได้มีเวลาเตรียมความพร้อมและปรับตัวอย่างเหมาะสม เพื่อยกระดับองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงและสอดคล้องกับกฎหมายในอนาคต
และขณะนี้ร่าง พ.ร.บ. PRTR อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นสภา โดยมีการรณรงค์และผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบโดยเร็วก่อนการยุบสภา หากร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับความเห็นชอบและมีผลบังคับใช้ ผู้ประกอบการอาจต้องปรับตัวภายในระยะเวลาอันสั้น เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านการรายงานและเปิดเผยข้อมูลชนิดและปริมาณของสารมลพิษตามที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเริ่มเตรียมความพร้อมด้านระบบการเก็บข้อมูลสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการมลพิษ และการเปิดเผยข้อมูลให้สอดคล้องกับแนวทางของกฎหมายใหม่นี้ หากมีการประกาศใช้ต่อไป
.
.
Principle Law & Advisory
Get in Touch :(+66)82-856-3644
.
FB : principlelawandadvisory
.
#PrincipleLawAndAdvisory #LegalExcellence #YourLegalPartners #BusinessLaw #RealEstateLaw #HotelLaw #TechLaw #StartupLaw #ClientSuccess #MedicalLaw #EnvironmentalLaw
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
